บ้านลลิณ: คาเฟ่น่ารักในบรรยากาศบ้านกึ่งพิพิธภัณฑ์

ร้านน่ารักของสองสาวจากรายการมาสเตอร์เชฟ
ย่านเมืองเก่าในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ของกรุงเทพมหานคร มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญให้ชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม พิพิธภัณฑ์ แหล่งโบราณสถาน ฯลฯ แต่นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่คุ้นตาแล้ว การได้เดินสำรวจไปตามตรอกซอกซอยต่างๆ อาจทำให้เราได้ค้นพบสถานที่ที่น่าสนใจเพิ่มขึ้น ดังเช่นบ้านเล็กๆหลังหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในชุมชนตรอกตึกดิน-ตรอกศิลป์ บ้านไม้ร่มรื่นที่ชื่อว่า “บ้านลลิณ” บ้านลลิณ คาเฟ่สไตล์ไทย มีจุดเริ่มต้นจากเชฟสาวสองคน ได้แก่ เชฟน้ำฝน ลักษณาวดี ศรีพรสวรรค์ กับ เชฟพลอย – ณัฐณิชา บุญเลิศ สองสาวคนเก่งจากรายการ MasterChef Thailand Season 1 ที่ได้รู้จักและสนิทสนมกันจากการไปร่วมรายการนี้ และมีโอกาสได้ทำงานร่วมกันจนตัดสินใจมาทำธุรกิจในฝัน

“จุดสูงสุดของการเป็นเชฟ ก็คือการได้มีร้านเป็นของตัวเอง เมื่อเราทำงานร่วมกันมาประมาณ 2 ปี ก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราทั้งสองคนจะมีร้านอาหาร” เชฟคนเก่งกล่าว “ลลิณ” เป็นคำผสมระหว่างชื่อของเชฟทั้งสองคน จากตัวอักษรนำ ล. กับ ณ. ผ่านโปรแกรมตั้งชื่อ จนได้ชื่อนี้มา ตอนแรกนั้นเป็นชื่อ ลลิต แต่มีความเป็นชื่อผู้ชายมากเกินไป จึงเลือก ลลิณ ซึ่งมีความหมายว่า สวย น่ารัก ดูมีความเป็นผู้หญิง ซึ่งสอดคล้องกับทั้งคู่มากกว่า บ้านหลังนี้ แต่เดิมเป็นบ้านเก่าอายุกว่าร้อยปี อยู่ในชุมชนตรอกตึกดิน-ตรอกศิลป์ สามารถเดินเข้ามาได้ทั้งสองทาง เจ้าของบ้านเป็นคนในชุมชนที่ปล่อยให้เช่า จนกระทั่งเมื่อร้างจากผู้เช่าเดิม ก็เป็นบ้านปล่อยร้างไว้เฉยๆ แต่เจ้าของก็ตั้งใจอยากปล่อยเช่าให้ทำร้านอาหารหรือ Hostel อยู่แล้ว

“เรามองหาร้านกันมานาน อยากได้บ้านในย่านเมืองเก่า เพราะรู้สึกว่าตรงกับความต้องการที่อยากทำมากกว่า เคยไปดูห้องเช่าเป็นตึกแถวแถวท่าเตียนก็ยังไม่ตอบโจทย์ หาไปเรื่อยๆจนเจอประกาศเช่าในเฟซบุ๊ค” ภาพแรกในความจำเมื่อทั้งคู่ได้มาเห็นสภาพบ้านจริง คือ ดูน่ากลัวจากความเป็นบ้านเก่า ทรุดโทรมที่ไม่มีใครดูแลมานาน ญาติๆก็ไม่ค่อยมีใครเห็นด้วย เพราะต้องปรับปรุงเยอะมาก แต่สองคนเห็นตรงกัน และอยากได้บ้านหลังนี้มาทำร้านอาหาร ปรึกษาวิศวกรแล้วก็คิดว่าทำได้ จึงใช้เวลารีโนเวทอยู่ประมาณสองเดือน กลายเป็น บ้านลลิณในที่สุด เมื่อเดือนสิงหาคม 2019

“จริงๆแล้วก็ชอบเพราะความเก่านี่แหละ ชั้นสองเราสามารถมองเห็นวิถีชีวิตของคนในชุมชน มองบรรยากาศผ่านหน้าต่างที่เสมือนกรอบรูปออกไป ก็ได้เห็นบรรยากาศต่างๆ” อีกเหตุผลที่อยากได้บ้านเป็นหลัง เพราะตัวบ้านเก่านั้น มีความเป็นไทย มีความเป็นบ้าน โครงสร้างยังเป็นของเดิมทั้งหมด สอดคล้องกับของตกแต่ง รวมถึงจานชามที่นำมาจากของเก่าสะสมที่คุณฝนเก็บไว้ซึ่งสามารถนำมาใช้งานได้ เพราะบ้านของคุณฝน ทำธุรกิจโรงแรม ร้านน้ำชา ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จึงมีอุปกรณ์จานชาม แก้วน้ำต่างๆอยู่แล้ว

การตกแต่งด้วยของเก่าจึงทำให้บรรยากาศของบ้าน ไม่ได้เป็นเพียงร้านอาหาร แต่เหมือนบ้านในอดีต ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวย้อนยุคที่มีเสน่ห์ และยังมีพื้นที่อาณาบริเวณรอบๆบ้านที่ปลูกพืชผักสวนครัวซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบของการปรุงอาหารได้ “บ้านลลิณ เป็นความตั้งใจของพวกเรา คือ อยากทำร้านอาหารที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ด้วย เป็นเหมือนบ้านกึ่งพิพิธภัณฑ์ ขายความเป็นชาวบ้าน ความเป็นคนไทยสมัยก่อนที่เข้าถึงได้ เป็นบ้านของคนธรรมดาๆทั่วไป”

ทั้งคู่กล่าวสรุปไว้ว่า เมื่อนักท่องเที่ยวมาเที่ยววัดสุทัศน์ เสาชิงช้า มาเที่ยวชุมชนละแวกนี้ ก็อยากให้บ้านหลังนี้เป็นจุดหมายใหม่อีกแห่ง มานั่งกินอาหารในบ้านเก่า ที่สามารถเข้ามากิน มาถ่ายรูป มาเที่ยวได้ เหมือนการมาเที่ยวบ้านของคุณตาคุณยายที่อยู่ต่างจังหวัด อาหารจานเด็ดแนะนำ
รูปแบบอาหารของบ้านลลิณ เน้นอาหารง่ายๆ โดยเชฟน้ำฝน ถนัดทำอาหารไทย-จีน ส่วนเชฟพลอย ถนัดอาหารตะวันตก ทั้งสองคนจึงทำอาหารไทยที่รับประทานง่ายแบบจานเดียว ส่วนน้ำ หรือขนมต่างๆ ก็ให้มีวัตถุดิบที่สื่อสารถึงความเป็นไทยได้
อาหารคาวนั้นทำสดใหม่จานต่อจาน เมนูเด่น ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยวผัดไข่เค็มกุ้ง ข้าวคลุกกระเพราเนื้อไข่ซูวี เส้นหมี่คู่กับหมูตุ๋น ปลาแห้งแตงโม ข้าวคอหมูย่างไข่ต้มผักสด เป็นต้น  ส่วนของหวานที่แนะนำให้ต้องลอง คือ เค้กกล้วยไข่ กับ เค้กแตงไทยน้ำกะทิ ซึ่งยังคงรสชาติแบบขนมไทยดั้งเดิมเอาไว้ แต่เติมความสร้างสรรค์ในรูปแบบนำเสนอเพื่อให้กินได้ง่ายกว่า แล้วอย่าลืมลองเครื่องดื่มดับกระหายอย่างบ๊วยแตงโม โซดา หรือบ๊วยส้มจี๊ด โซดา ที่ช่วยเพิ่มประสาทการรับรสได้เป็นอย่างดี หรือจะเลือกเครื่องดื่มสายหวานอย่างโกโก้ ชานม แบบไทยๆก็เป็นตัวเลือกที่ดี

นอกจากนี้ มีเสิร์ฟอาหารไทยในรูปแบบโอมากาเสะอาหารไทย 10 เมนู สอบถามรายละเอียดจองล่วงหน้าได้ หรือติดตามผ่านแฟนเพจบ้านลลิณ

You May Also Like