บทเพลงของ Radiohead วงดนตรีร็อกสัญชาติอังกฤษ กล่อมบรรยากาศภายในร้าน “Recordoffee” ให้มีกลิ่นอายย้อนกลับไปในยุค 90s และยิ่งเพิ่มอรรถรสของอดีตยิ่งขึ้นเมื่อเสียงดนตรีอันนุ่มนวลที่ดังก้องอยู่นั้นมาจากแผ่นไวนิลที่ดึงเอกลักษณ์แห่งยุค Analog ได้อย่างมีเสน่ห์ Recordoffee อ่านว่า เรคคอร์-ดอฟฟี่ การผสมคำที่มีความหมายจาก “แผ่นเสียง+กาแฟ” ที่ “อลงกต เอื้อไพบูลย์” หรือ คุณบุ๊ค นิยามไว้
“เมื่อก่อนผมชอบไปร้านแผ่นเสียง มีบางร้านอนุญาตให้ลองเปิดฟังได้ โดยเจ้าของไม่สนใจเลยว่าเราจะซื้อหรือเปล่า ไม่ว่าแผ่นเสียงนั้นจะราคาสูงแค่ไหน ผมจึงอยากให้มีพื้นที่แบบนั้นเกิดขึ้น” คุณบุ๊ค เป็นที่รู้จักในวงการบันเทิงฐานะผู้กำกับโฆษณา ภาพยนตร์ มิวสิกวิดีโอ แต่สำหรับ Recordoffee เปรียบเสมือนผลงานใหม่ ที่สร้างสรรค์ออกมาในรูปแบบคาเฟ่สไตล์ร้านแผ่นเสียงกับร้านกาแฟ ที่ตกผลึกแรงบันดาลใจมาจากความทรงจำ และความชื่นชอบส่วนตัว
แผ่นเสียงในร้าน เป็นแผ่นเสียงที่คุณบุ๊คซื้อสะสมมาตั้งแต่ยังวัยรุ่น ซึ่งเมื่อก่อนราคาไม่แพง ซื้อได้คราวละหลายแผ่น เมื่อซื้อเก็บไว้เยอะจนแทบไม่มีที่เก็บแล้ว จึงคิดว่าถึงเวลาที่จะเปิดโอกาสให้คนที่อยากได้ประสบการณ์การฟังเพลงจากแผ่นเสียงได้รับช่วงต่อไป หรือซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งภายใน Recordoffee มีโซนแผ่นเสียงให้เลือกไปหยิบมาฟังได้ หรือหากถูกใจจริงๆ ก็ซื้อจากร้านได้เลย ในราคาที่หลากหลายจับต้องได้ ในส่วนของการเป็นร้านกาแฟ เจ้าของร้านผู้หลงใหลในบทเพลงตัดสินใจเลือกทำในรูปแบบ Slow Bar “ผมชอบดูการพัฒนา เคยเจอข้อความของคนทำกาแฟแบบ Slow Bar แล้วรู้สึกว่าเข้ากันได้ดีกับแผ่นเสียง กว่าจะได้กาแฟต้องมาจากการคัดเลือกเมล็ด การคั่ว การรอคอยน้ำแต่ละหยด กว่าจะเป็นกาแฟให้เราดื่ม”
Recordoffee จึงเลือกทำกาแฟด้วยวิธีการชงแบบ Drip Coffee และ Flair เป็นงานคราฟต์ที่มีความพิถีพิถัน นั่งดูกาแฟหยดไป ฟังเพลงจากแผ่นเสียงไป มีการรอคอย และความอดทนที่จะได้เจอกับสิ่งที่ดี นอกจากนี้ ยังมีสีสันเล็กๆที่ผู้กำกับมากประสบการณ์เติมลงไปในเมนูต่างๆ คือ ชื่อของเมนูที่หยิบเอาชื่อเพลงคลาสสิคมาตีโจทย์ให้เป็นจุดเด่นของรสชาติเครื่องดื่มแก้วนั้น เช่น Rock Bottom สุดยอดเพลงอมตะสำหรับมือกีตาร์ ที่ทำออกมาเป็นกาแฟรสเข้มๆอยู่ด้านล่าง หรือ บุษบา เพลงในตำนานของวงโมเดิร์นด็อก กาแฟดำผสมน้ำส้มที่มีทั้งความสดใสซาบซ่าสมชื่อ อีกจุดเด่นของร้าน คือ การดัดแปลงโกดังเก่าริมคลองผดุงกรุงเกษม มาสร้างสรรค์ให้กลมกลืนไปกับวิถีชีวิตเรียบง่ายของชุมชน เติมความจัดจ้านของงานศิลปะจากศิลปินนามว่า Kapi ที่มีความทันสมัย สวยงาม แต่อ่อนโยน น่ารัก และมีกลิ่นอายวัฒนธรรมจีนแบบย่านตลาดน้อย ซึ่งยิ่งเข้ากันได้ดีกับเฟอร์นิเจอร์ แก้วน้ำจานชามที่คุณบุ๊คนำของสะสมจากที่บ้านมาใช้ “ที่นี่สื่อถึงโลกส่วนตัว ผมรู้สึกว่าโลกข้างนอกวุ่นวาย ก็อยากมีโลกที่เข้ามาฟังเพลงกินกาแฟ แล้วก็มีความสุข ความสุขจากเพลงที่ฟังทำให้ผมรู้สึกดีที่จะได้ทำประโยชน์อะไรอื่นๆต่อไป” คุณบุ๊ค กล่าว
Recordoffee จึงเป็นโลกที่กลมกล่อมลงตัวระหว่างสองสิ่งที่มีความเข้ากัน ซึ่งผู้มาเยือนรับรู้ได้ไม่ยาก และความหมายนั้น ก็คงตรงกับข้อความที่ปรากฏอยู่ภายในร้านที่ว่า Record is Soul. Coffee is Life.
“เมื่อก่อนผมชอบไปร้านแผ่นเสียง มีบางร้านอนุญาตให้ลองเปิดฟังได้ โดยเจ้าของไม่สนใจเลยว่าเราจะซื้อหรือเปล่า ไม่ว่าแผ่นเสียงนั้นจะราคาสูงแค่ไหน ผมจึงอยากให้มีพื้นที่แบบนั้นเกิดขึ้น”
แผ่นเสียงในร้าน เป็นแผ่นเสียงที่คุณบุ๊คซื้อสะสมมาตั้งแต่ยังวัยรุ่น ซึ่งเมื่อก่อนราคาไม่แพง ซื้อได้คราวละหลายแผ่น เมื่อซื้อเก็บไว้เยอะจนแทบไม่มีที่เก็บแล้ว จึงคิดว่าถึงเวลาที่จะเปิดโอกาสให้คนที่อยากได้ประสบการณ์การฟังเพลงจากแผ่นเสียงได้รับช่วงต่อไป หรือซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งภายใน Recordoffee มีโซนแผ่นเสียงให้เลือกไปหยิบมาฟังได้ หรือหากถูกใจจริงๆ ก็ซื้อจากร้านได้เลย ในราคาที่หลากหลายจับต้องได้
Recordoffee จึงเลือกทำกาแฟด้วยวิธีการชงแบบ Drip Coffee และ Flair เป็นงานคราฟต์ที่มีความพิถีพิถัน นั่งดูกาแฟหยดไป ฟังเพลงจากแผ่นเสียงไป มีการรอคอย และความอดทนที่จะได้เจอกับสิ่งที่ดี
Recordoffee จึงเป็นโลกที่กลมกล่อมลงตัวระหว่างสองสิ่งที่มีความเข้ากัน ซึ่งผู้มาเยือนรับรู้ได้ไม่ยาก และความหมายนั้น ก็คงตรงกับข้อความที่ปรากฏอยู่ภายในร้านที่ว่า Record is Soul. Coffee is Life.