“ที่จริงแล้ว ก่อนที่เราจะเปิดตัว แบล็ค แบดจ์ ช่วงปี 2559 แนวคิดแห่งการสร้างสรรค์ยนตรกรรมเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าผู้มีความมั่นใจ และกล้าที่จะออกนอกกรอบคติของความงามนั้น ได้เคยเป็นที่ถกเถียงและหยิบยกขึ้นมาหารือกันอย่างร้อนแรงภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม เมื่อนักออกแบบ วิศวกร และช่างฝีมือของแบรนด์ ได้เริ่มต้นออกแบบและสรรสร้างอีกหนึ่งตัวตนใหม่ของ โรลส์-รอยซ์ ก็เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนว่า ยนตรกรรมนี้ ไม่เพียงสามารถดำรงอยู่ได้อย่างสง่างามภายใต้แบรนด์เก่าแก่อันเป็นตำนาน แต่ยังสามารถสร้างนิยามความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้กับตลาดซูเปอร์ลักซ์ชัวรี ด้วยเหตุนี้เอง นี่จึงเป็นเวลาที่ดีสุด สำหรับการเปิดตัวแบล็ค แบดจ์ ที่ดูองอาจและลุ่มลึกที่สุดในประวัติศาสตร์ของ โรลส์-รอยซ์ ในนามราชันย์แห่งรัตติกาล ‘แบล็ค แบดจ์ คัลลิแนน’ ” มร.ทอร์สตัน มูเลอร์-ออทเวิร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส
ผู้หลงใหลในความหรูหรา ยนตรกรรมอันทรงพลังนี้ได้ตอบโจทย์กลุ่มบุคคลผู้ปฏิเสธที่จะถูกนิยามโดยคติของความหรูหราแบบเดิมๆ และยังมีส่วนสำคัญในการดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ให้แก่แบรนด์ ลูกค้าสามารถมั่นใจได้กับประสิทธิภาพของ โรลส์-รอยซ์ ทั้งในความองอาจสง่างาม และความสามารถในการตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างไม่มีข้อแม้
อีกหนึ่งตัวตนของโรลส์-รอยซ์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามนี้ ถูกถ่ายทอดผ่านเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ที่เป็นตัวแทนของความเป็นไปได้อันไร้ที่สิ้นสุด ซึ่งถูกผสานอย่างแนบเนียนเข้ากับการตกแต่งภายในของรถยนต์ สัญลักษณ์อินฟินิตีนี้ ได้ปรากฎอยู่บนเครื่องบินน้ำ Blue Bird K3 ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ โรลส์-รอยซ์ ของเซอร์ มัลคอล์ม แคมป์เบล (Sir Malcolm Campbell) บ่งบอกถึงประเภทของการประกันภัยสำหรับเรือที่มีแรงเครื่องยนต์ไร้ขีดจำกัด ซึ่งโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส เลือกสัญลักษณ์อันเปรียบเสมือนเครื่องหมายรับรองคุณภาพนี้มาใช้กับ แบล็ค แบดจ์ เพื่อสะท้อนถึงขุมพลังอันไร้ขีดจำกัด
คัลลิแนนก้าวเข้าร่วมทัพยนตรกรรมแบล็ค แบดจ์ รังสรรค์ขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความกระหายในการผจญภัยของลูกค้ารุ่นใหม่ผู้ใช้ชีวิตอย่างสมบุกสมบัน คัลลิแนน ที่มาพร้อมป้ายโมโนแกรมสีเงิน ได้เปิดตัวท่ามกลางเสียงตอบรับอย่างล้นหลามในปี 2561 และกลายเป็นซูเปอร์ลักซ์ชัวรีเอสยูวีระดับท็อปของโลกในทันที ด้วยการผสมผสานความหรูหราในรูปแบบที่ชัดเจน เข้ากับการใช้งานและศักยภาพของรถยนต์ออฟ-โรด คัลลิแนน สามารถมอบประสบการณ์ ‘Effortless, Everywhere’ ให้กับผู้ขับและผู้โดยสารได้อย่างแท้จริง
แม้ลูกค้าสามารถเลือกสีได้มากถึง 44,000 เฉดสี ที่ตรียมไว้ให้ หรือสั่งผลิตเฉดสีที่ผสมและออกแบบขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะก็ย่อมได้ แต่กลับเป็นที่คาดเดาได้ว่า ลูกค้าส่วนมากจะเลือกสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ของ แบล็ค แบดจ์ โดยใช้การพ่นอย่างประณีตหลายชั้น และขัดด้วยมือถึง 10 รอบ ณ Home of Rolls-Royce ในกู้ดวูด เวสต์ ซัสเซ็กซ์ ได้สะท้อนถึงกระบวนการทำสีที่พิถีพิถันที่สุดเท่าที่เคยมีมา ความลุ่มลึกและเคร่งขรึมของสีบนตัวถังของ แบล็ค แบดจ์ คัลลิแนน เปรียบดังผืนผ้าใบอันสมบูรณ์แบบ ในการรังสรรค์เส้น Coachline ที่วาดด้วยมือ โดยใช้เฉดสีที่ตัดกันบริเวณด้านข้างตัวถัง เพิ่มความโดดเด่นให้กับยนตรกรรมที่เปรียบเสมือนงานศิลปะ
ด้านหน้ารถเป็นจุดที่อัตลักษณ์แห่ง แบล็ค แบดจ์ ได้ตั้งอยู่อย่างสง่างาม คือ สัญลักษณ์สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี ซึ่งครั้งนี้ได้ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยโครเมียมรมดำเคลือบผิวไฮกลอส และนับเป็นครั้งแรกที่ฐานของนางฟ้าก็ถูกแต่งด้วยวัสดุเดียวกัน ทำให้เกิดเป็น แบล็ค แบดจ์ ที่เคร่งขรึมที่สุด การแปลงโฉมในรูปแบบนี้ ได้ถูกถ่ายทอดไปยังสัญลักษณ์อื่นๆ ของแบล็ค แบดจ์ ไม่ว่าจะเป็นโลโก้ ‘RR’ บริเวณส่วนหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง ที่ถูกเปลี่ยนเป็นลายเส้นสีเงินบนพื้นดำ ขณะที่พื้นผิวโครเมียม เช่นกรอบกระจังหน้า กรอบหน้าต่าง มือจับเปิดประตูหลังรถ บริเวณเหนือประตูหลังรถ กรอบช่องดักอากาศด้านล่าง และท่อไอเสียถูกพ่นด้วยสีเข้ม ส่วนกระจังหน้ารถแม้จะเป็นสีดำ แต่ยังคงความเงางาม ทำให้เด่นชัดขึ้นด้วยกรอบสีดำโดยรอบ เพื่อเพิ่มความเด่นชัดของการเคลื่อนไหว ที่บ่งบอกเป็นนัยถึงเจตคติอันทรงพลัง
สีดำเงาและการออกแบบที่ประณีต ช่วยขับคาลิเปอร์เบรกสีแดงให้โดดเด่น ซึ่งสีแดงแบบพิเศษนี้สามารถทนความร้อนได้มากขึ้น ขณะที่ยังคงพื้นผิวสัมผัสที่ราบเรียบอย่างไร้ที่ติ อันคู่ควรแก่แบรนด์ โรลส์-รอยซ์
โดยปกติแล้ว ความมุ่งมั่นและความพยายามได้ถูกทุ่มเทลงไปในการออกแบบ เพื่อให้ผู้โดยสารสัมผัสถึงความสะดวกสบายและแทบไม่รู้สึกถึงการทำงานของเครื่องยนต์ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญทีม Colour and Trim ของแบรนด์ได้บรรจงคัดสรรองค์ประกอบทางวิศวกรรมของ แบล็ค แบดจ์ มานำเสนอ โดยผสมผสานความสะดวกสบายขั้นสูงสุด สุนทรียภาพ วัสดุที่ล้ำสมัย เข้ากับงานฝีมืออันวิจิตและบรรจง
แนวคิดนี้ถูกนำมาปรับใช้อย่างลงตัวกับแผงวีเนียร์เทคนิคัล คาร์บอนของ แบล็ค แบดจ์ คัลลิแนน ซึ่งอิงตามปรัชญาของเซอร์ เฮนรี รอยซ์เมื่อครั้งก่อตั้งแบรนด์ที่ว่า ‘หากสิ่งไหนไม่มีอยู่ จงออกแบบมันขึ้นมา’ ความร่วมมือระหว่างทีมนักออกแบบ วิศวกร และช่างฝีมือของแบรนด์ ก่อให้เกิดชิ้นงานลักซ์ชัวรีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยแรงบันดาลใจจากผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ พื้นผิวจากการถักทอคาร์บอน ไฟเบอร์ ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสร้างลายแพทเทิร์นรูปทรงเรขาคณิต ก่อให้เกิดพื้นผิวสามมิติอันทรงพลัง
เทคนิคัล คาร์บอนแต่ละชิ้น เคลือบแลกเกอร์ 6 ชั้น ก่อนจะถูกพักไว้เป็นเวลา 72 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำมาขัดเงาด้วยมือจ นเกิดผิวสัมผัสราวกับกระจก อันเป็นดังสัญลักษณ์ แสดงคุณภาพของโรลส์-รอยซ์ กระบวนการทั้งหมดนี้ใช้ระยะเวลา 21 วัน และผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยเหล่าช่างฝีมือ เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความมันเงาที่สม่ำเสมอและทั่วถึง ในแต่ละชิ้นงานจากทั้งหมด 23 ชิ้น เพดาน Starlight Headliner ลายเป็นอีกหนึ่งอัตลักษณ์ของ โรลส์-รอยซ์ เช่นเดียวกันกับสัญลักษณ์สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี, กระจังหน้าแบบ Pantheon และโมโนแกรม ’RR’ การตกแต่งเพดานด้วยเทคนิคดังกล่าวใน แบล็ค แบดจ์ คัลลิแนน ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ด้วยแสงเรืองรองที่ส่องลงบนเบาะหนังสุดหรู เพดานที่ผลิตด้วยวัสดุหนังสีดำคุณภาพสูง และประกอบด้วยแสงสว่างจากเส้นไยไฟเบอร์ออฟติกถักทอด้วยมือจำนวน 1,344 จุด เป็นเสมือนภาพสะท้อนของท้องฟ้ายามราตรี และยังมีลูกเล่นดาวตกสีขาวจำนวน 8 ดวง ที่พุ่งผ่านเพดานหลากทิศทาง รวมถึงบริเวณเพดานเหนือที่นั่งด้านหน้า สะท้อนถึงเสน่ห์ของยนตรกรรมที่ให้ความสำคัญกับผู้ขับได้เป็นอย่างดี
ได้สร้างสีสันสุดโดดเด่นสำหรับวัสดุหนังขึ้นใหม่ ในชื่อสีฟอร์จ เยลโลว (Forge Yellow) เพิ่มเข้าไปในคอลเลกชันสั่งผลิตพิเศษของแบรนด์ และเช่นเดียวกับสีของวัสดุหนังทุกสี สีฟอร์จ เยลโลว (Forge Yellow) สามารถนำไปใช้กับที่นั่งชมวิว (Viewing Suite) หรือเสริมการออกแบบ Bespoke ของ Recreation Module ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
ความยืดหยุ่นของเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ วี12 สูบ ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการเพิ่มขุมพลังขึ้นอีก 29PS รวมเป็นความแรงถึง 600PS หรือ 592 แรงม้า สัมผัสของเกียร์เดียว ยังได้ถูกเสริมด้วยการเพิ่มแรงบิดขึ้น 50NM ทำให้รวมแรงบิดเป็น 900NM
เพื่อเป็นการเสริมความมั่นใจให้ผู้ขับ ระยะแป้นเหยียบถูกปรับให้กระชับขึ้น พร้อมจานเบรกที่ออกแบบให้ทนความร้อนได้สูงเป็นพิเศษ
แบล็ค แบดจ์ คัลลิแนน เปิดให้จองแล้ววันนี้