ชวนเก็บกระเป๋าไปออนซอน กันที่ “นครพนม” เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งความสุข และความหลากหลายทางวัฒนธรรม เชื้อชาติ ศาสนา ประเพณี สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพบูชาของชาวอีสานอย่าง “พระธาตุพนม” พร้อมชมความงาม วิถีชีวิตริมสองฝั่งโขง
เริ่มต้นความเป็นสิริมงคล กันด้วยการกราบสักการะบูชา “พระธาตุพนม” อันเป็นที่เคารพบูชา และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนครพนม มาอย่างช้านาน พระธาตุพนม สร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรเจริญรุ่งเรือง เป็นสถานที่ครั้งหนึ่งพุทธองค์เคยเสด็จมาโปรดสัตว์น้อย – ใหญ่
องค์พระธาตุพนม ได้รับการปฏิสังขรณ์หลายครั้ง เมื่อครั้งหนึ่งวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2518 เวลา 19.39 น. พระธาตุได้ล้มทลายลงมาทั้งองค์ เนื่องจากความเก่าแก่ และภัยพิบัติที่เกิดจากพายุฝนลมพัดแรง รัฐบาลในขณะนั้นได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ ครอบฐานพระธาตุองค์เดิม รักษารูปแบบเดิมไว้ จนแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2522 ถือที่นี่เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยว เพิ่มสิริมงคลให้แก่ชีวิต พญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์คแห่งใหม่ริมฝั่งโขง
ชมความงดงามของ “พญาศรีสัตตนาคราช” แลนด์มาร์คแห่งใหม่ ของจังหวัดนครพนม ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นองค์พญานาคทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสานอีกด้วย ลักษณะเป็นรูปพญานาคขดหาง 7 เศียร ซึ่งชาวอีสานต่างมีความเชื่อและความผูกพันอยู่กับองค์พญานาค มาอย่างช้านาน เพราะเชื่อกันว่า พญานาคเป็นผู้ปกปักดูแลแม่น้ำโขง รักษาพุทธศาสนา รวมถึงองค์พระธาตุพนม
หลายคนที่มากราบไหว้ที่นี่ ต่างร่ำลือกันว่า ใครที่ขอพรหรือบนบานองค์พญาศรีสัตตนาราชแห่งนี้ ต่างสัมฤทธิ์ผล ซึ่งนั้นก็ถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล อีกทั้งลานพญาศรีสัตตนาคราช ยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์ภูเขาน้อยใหญ่ ของแขวงคำม่วน ประเทศลาว และวิถีชีวิตของคนริมฝั่งโขงอีกด้วย
วัดนักบุญอันนา โบสถ์คริสต์ที่มีความเก่าแก่และสวยงาม อยู่คู่จังหวัดนครพนม มาอย่างยาวนาน ซึ่งโบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1926 โดยบาทหลวงเอดัวร์ นำลาภ
โบสถ์มีความสวยงามแปลกตา เป็นลักษณะหอคอยคู่ ยอดแหลมสูงเด่นสง่า ในอดีตโบสถ์แห่งนี้ใช้ประกอบพิธีศาสนา แต่ในสมัยกรณีพิพาทอินโดจีน ถูกฝรั่งเศสทิ้งระเบิดใส่ในเมืองนครพนม จนโบสถ์ดังกล่าวได้พังเสียหาย ต่อมาจึงได้สร้างหลังใหม่ขึ้น จนถึงปัจจุบัน ซึ่งโบสถ์วัดนักบุญอันนา หนองแสง แห่งนี้ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เก่าแก่ และสำคัญควรคู่แก่การอนุรักษ์ อีกทั้งยังเป็นสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลก่อด้วยอิฐปูน ภายนอกสีเหลืองสวยงาม สร้างราวปี ค.ศ.1952 การก่อสร้าง ใช้วัสดุก่อสร้างบางอย่างนำเข้ามาจากเมืองไซ่ง่อน ประเทศเวียดนาม เชื่อว่าต้องถูกตาถูกใจของเหล่าบรรดาคนรักการถ่ายภาพเป็นแน่
พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน อยากจะชวนมานั่งชิลบนเรือสำราญที่แล่นในแม่น้ำโขง แม่น้ำโขงนั้นเปรียบเสมือนสายน้ำที่โยงใยของชาวนครพนม และชาวแขวงคำม่วน ประเทศลาว พร้อมยลความงดงามของทิวทัศน์ภูเขาที่สวยงามประเทศลาวที่สลับซับซ้อน ไปกับบรรยากาศก่อนแสงสุดท้ายของวันจะเลือนหายไป ใครที่ได้มานครพนม ต้องห้ามพลาดกับกิจกรรมสุดโรแมนติกนี้
เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปกับ “บ้านนาจอก” หรือ “บ้านลุงโฮ” ครั้งเมื่ออดีตบ้านหลังนี้เคยเป็นที่หลับที่นอน ที่อยู่ที่กิน ของ “โฮจิมินห์” อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้จารึกประวัติศาสตร์ของผู้นำที่เป็นที่เคารพรักของชาวเวียดนาม
ปัจจุบันบ้านหลังนี้ได้สืบทอดมาถึงรุ่นหลาน และเปิดเป็นที่แสดงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับลุงโฮ พร้อมเรื่องราวการใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว ให้ได้เยี่ยมชมอีกด้วย
เริ่มต้นความเป็นสิริมงคล กันด้วยการกราบสักการะบูชา “พระธาตุพนม” อันเป็นที่เคารพบูชา และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนครพนม มาอย่างช้านาน พระธาตุพนม สร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรเจริญรุ่งเรือง เป็นสถานที่ครั้งหนึ่งพุทธองค์เคยเสด็จมาโปรดสัตว์น้อย – ใหญ่
องค์พระธาตุพนม ได้รับการปฏิสังขรณ์หลายครั้ง เมื่อครั้งหนึ่งวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2518 เวลา 19.39 น. พระธาตุได้ล้มทลายลงมาทั้งองค์ เนื่องจากความเก่าแก่ และภัยพิบัติที่เกิดจากพายุฝนลมพัดแรง รัฐบาลในขณะนั้นได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ ครอบฐานพระธาตุองค์เดิม รักษารูปแบบเดิมไว้ จนแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2522 ถือที่นี่เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยว เพิ่มสิริมงคลให้แก่ชีวิต พญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์คแห่งใหม่ริมฝั่งโขง
ชมความงดงามของ “พญาศรีสัตตนาคราช” แลนด์มาร์คแห่งใหม่ ของจังหวัดนครพนม ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นองค์พญานาคทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสานอีกด้วย ลักษณะเป็นรูปพญานาคขดหาง 7 เศียร ซึ่งชาวอีสานต่างมีความเชื่อและความผูกพันอยู่กับองค์พญานาค มาอย่างช้านาน เพราะเชื่อกันว่า พญานาคเป็นผู้ปกปักดูแลแม่น้ำโขง รักษาพุทธศาสนา รวมถึงองค์พระธาตุพนม
หลายคนที่มากราบไหว้ที่นี่ ต่างร่ำลือกันว่า ใครที่ขอพรหรือบนบานองค์พญาศรีสัตตนาราชแห่งนี้ ต่างสัมฤทธิ์ผล ซึ่งนั้นก็ถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล อีกทั้งลานพญาศรีสัตตนาคราช ยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์ภูเขาน้อยใหญ่ ของแขวงคำม่วน ประเทศลาว และวิถีชีวิตของคนริมฝั่งโขงอีกด้วย
วัดนักบุญอันนา โบสถ์คริสต์ที่มีความเก่าแก่และสวยงาม อยู่คู่จังหวัดนครพนม มาอย่างยาวนาน ซึ่งโบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1926 โดยบาทหลวงเอดัวร์ นำลาภ
โบสถ์มีความสวยงามแปลกตา เป็นลักษณะหอคอยคู่ ยอดแหลมสูงเด่นสง่า ในอดีตโบสถ์แห่งนี้ใช้ประกอบพิธีศาสนา แต่ในสมัยกรณีพิพาทอินโดจีน ถูกฝรั่งเศสทิ้งระเบิดใส่ในเมืองนครพนม จนโบสถ์ดังกล่าวได้พังเสียหาย ต่อมาจึงได้สร้างหลังใหม่ขึ้น จนถึงปัจจุบัน ซึ่งโบสถ์วัดนักบุญอันนา หนองแสง แห่งนี้ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เก่าแก่ และสำคัญควรคู่แก่การอนุรักษ์ อีกทั้งยังเป็นสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลก่อด้วยอิฐปูน ภายนอกสีเหลืองสวยงาม สร้างราวปี ค.ศ.1952 การก่อสร้าง ใช้วัสดุก่อสร้างบางอย่างนำเข้ามาจากเมืองไซ่ง่อน ประเทศเวียดนาม เชื่อว่าต้องถูกตาถูกใจของเหล่าบรรดาคนรักการถ่ายภาพเป็นแน่
พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน อยากจะชวนมานั่งชิลบนเรือสำราญที่แล่นในแม่น้ำโขง แม่น้ำโขงนั้นเปรียบเสมือนสายน้ำที่โยงใยของชาวนครพนม และชาวแขวงคำม่วน ประเทศลาว พร้อมยลความงดงามของทิวทัศน์ภูเขาที่สวยงามประเทศลาวที่สลับซับซ้อน ไปกับบรรยากาศก่อนแสงสุดท้ายของวันจะเลือนหายไป ใครที่ได้มานครพนม ต้องห้ามพลาดกับกิจกรรมสุดโรแมนติกนี้
เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปกับ “บ้านนาจอก” หรือ “บ้านลุงโฮ” ครั้งเมื่ออดีตบ้านหลังนี้เคยเป็นที่หลับที่นอน ที่อยู่ที่กิน ของ “โฮจิมินห์” อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้จารึกประวัติศาสตร์ของผู้นำที่เป็นที่เคารพรักของชาวเวียดนาม
ปัจจุบันบ้านหลังนี้ได้สืบทอดมาถึงรุ่นหลาน และเปิดเป็นที่แสดงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับลุงโฮ พร้อมเรื่องราวการใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว ให้ได้เยี่ยมชมอีกด้วย
