สายน้ำแม่กลองแห่งอำเภออุ้มผางที่ไหลเอื่อยเฉื่อยในช่วงต้นปี ทำให้ สุรศักดิ์ ทะวา กับ สายฝน ต๊ะน่าน สองฝีพายมากประสบการณ์จากทีลอซู ริเวอร์ไซด์รีสอร์ท ไม่ต้องออกเรี่ยวแรงมากนัก ทั้งคู่นั่งในตำแหน่งตรงกันข้ามระหว่างหัวเรือท้ายเรือยางสีแดงสดขนาด 8 ที่นั่ง ช่วยกันแตะฝีพายลงบนผิวน้ำประคับประคองเรือให้ลอยไปตามลำน้ำเย็นฉ่ำที่คุ้นเคยอย่างสบายอารมณ์ โดยไม่ลืมทำหน้าที่เป็นไกด์มืออาชีพคอยบอกจุดเด่นระหว่างเส้นทางเป็นระยะๆ สลับไปกับเล่าเกร็ดประวัติน่ารู้ให้ฟัง
“อุ้มผาง น่าจะเป็นชื่อที่เกิดขึ้นในยุคที่มีนักสำรวจมาเจอหมู่บ้าน ซึ่งเพี้ยนมาจากคำว่า อุพะ เป็นภาษากะเหรี่ยง หมายถึง กระบอกไม้ไผ่ใส่เอกสาร เพราะการเดินทางที่ยากลำบากสมัยก่อนจำเป็นต้องใส่เอกสารไว้ในกระบอกไม้ไผ่” ฝีพายหนุ่มเล่าให้ฟัง เมื่อเรือล่องไปได้พักใหญ่ ในอำเภออุ้มผางอันห่างไกลที่ต้องผ่านทางคดเคี้ยวมากกว่า 1,200 โค้ง การล่องเรือยางไปตามลำน้ำแม่กลองนับเป็นกิจกรรมยอดนิยมสำหรับผู้ถวิลหาธรรมชาติบริสุทธิ์ ซึ่งมักพ่วงไว้เป็นโปรแกรมเดียวกันระหว่างการเดินทางไปสู่น้ำตกทีลอซู สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ระดับเอเชีย
“ลำน้ำแม่กลองมีจุดเด่นที่การล่องแบบชมธรรมชาติ เพราะสายน้ำไม่แรง เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ล่องได้เกือบทั้งปีครับ ยกเว้นช่วงที่มีฝนตกหนักประมาณเดือนสิงหาคม” ฝีพายมือฉมังบอก
แม้ว่าการล่องเรือชมธรรมชาติ อาจเป็นกิจกรรมที่พร่องความตื่นเต้นแนวผจญภัยไปบ้าง แต่ก็ตอบโจทย์สำหรับการพักผ่อน นั่งไปสบายๆสูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางสายน้ำโอบขนาบแมกไม้ป่าร้อนชื้นที่มักจะมีนกกระเต็นน้อยสีน้ำเงิน เกาะอยู่ตามกิ่งต้นไคร้ที่โผล่ขึ้นกลางลำน้ำ ก่อนมันจะโผบินหนีไปไกลลิบเมื่อเรือล่องเข้าไปใกล้ แต่หลังจากล่องไปได้เกือบชั่วโมง ความงามชวนตะลึงก็ปรากฏเบื้องหน้า นั่นคือ “ทีลอจ่อ” หรือน้ำตกสายฝน ซึ่งเป็นแนวน้ำตกระยะทางยาวประมาณ 200 เมตร “ที น้ำ – ลอ ตก – จ่อ ฝน” ไกด์หนุ่มอธิบายความหมายของภาษากะเหรี่ยง
ไฮไลท์ของน้ำตกทีลอจ่อ จุดแรก คือ โตรกผาหินปูนรูปร่างประหลาดราวกับฉากในยุคดึกดำบรรพ์ลักษณะคล้ายหินย้อยเป็นแนวกำแพงเหนือศีรษะสูงกว่า 50 เมตร มีละอองน้ำพร้อมกับหยดน้ำเม็ดโตตกลงมาจากโพรงหินด้านบนเหมือนสายฝนโปรยปราย มอสกับตะไคร่น้ำสีเขียวสดเกาะบนแนวหิน บ่งบอกความชุ่มชื้นที่มีตลอดปี
ก่อนจะลัดเลียบแนวผาไปเจอช่วงที่สองของน้ำตก ลักษณะคล้ายช่วงแรก แต่มีสายรุ้งพาดผ่านกลางลำน้ำ เพราะจังหวะที่แสงกระทบกับสายน้ำที่ตกลงมาจากผาเบื้องบนในช่วงตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 11 โมง นับเป็นความพิเศษเพราะสายรุ้งไม่ได้อยู่บนฟ้า แต่สามารถล่องเรือเข้าไปสัมผัสถึงใจกลางสีสันนั้น เมื่อล่องเรือไปจนถึงหน่วยพิทักษ์ป่าผาเลือด พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ซึ่งจากหน่วยดังกล่าว ยังต้องต่อรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อเข้าไปตามถนนกระเด้งกระดอนฝุ่นตลบไปอีกร่วมชั่วโมงจนถึงสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 14 (ตาก) แล้วเดินเท้าไปตามเส้นทางคอนกรีตสำหรับศึกษาธรรมชาติอีกราว 1.5 กิโลเมตร จึงจะถึงจุดหมายปลายทางสุดท้าย
แต่ความยากลำบากทั้งหมดเปลี่ยนเป็นผลลัพธ์ที่คุ้มค่า เมื่อเสียงสายน้ำไหลค่อยๆดังใกล้ตัวมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมองเห็นน้ำตกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในผืนแผ่นดินไทย ภาพที่อยู่ตรงหน้า คือ แนวผากว้างประมาณ 400 เมตร สายน้ำลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆเสียงดังกึกก้อง แม้มาเยือนในช่วงปลายฤดูหนาวก็ยังมีน้ำไหลแรง ละอองความชื้นล่องลอยฟุ้งในอากาศไปทั่ว ท่ามกลางผืนป่าดิบและแสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านทิวเขาทะมึนด้านหลัง “น้ำตกทีลอซู แปลว่า น้ำตกดำ แต่เดิมชาวกะเหรี่ยงเรียกว่าน้ำตกใหญ่ ซึ่งขนาดของน้ำตกแห่งนี้ นับว่าติดหนึ่งในสิบของเอเชียอาคเนย์” จุดขายสำคัญที่นักท่องเที่ยวฟันฝ่าความยากลำบากของการเดินทางมาถึงน้ำตก เพราะที่นี่เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ด้วยสถานะของเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องทำหน้าที่ดูแลป่าเป็นหลัก จึงมีข้อจำกัดสำหรับกำลังคนและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว มีกฎข้อบังคับที่เข้มงวด เช่น การควบคุมพลาสติก ไม่มีถังขยะ หรือการทำลายขยะ นักท่องเที่ยวต้องนำกลับไปเอง
กฎระเบียบที่จริงจัง และการเดินทางที่อาศัยความตั้งใจมุ่งมั่น ช่วยคัดกรองคุณภาพของนักท่องเที่ยวไปกลายๆ ว่าผู้มาเยือนสายน้ำและผืนป่าแห่งอำเภออุ้มผาง ต้องชื่นชอบธรรมชาติบริสุทธิ์ ที่ไม่จำเป็นต้องมีสิ่งก่อสร้างหรือความเจริญทันสมัยเอาใจคนเมือง เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ป่ากว่า 1.6 ล้านไร่ ซึ่งแทบไม่ต่างจากปอดขนาดใหญ่ของเมืองไทยให้เป็นธรรมชาติสุดยิ่งใหญ่ต่อไปตราบนานเท่านาน More Information
ทีลอซู ริเวอร์ไซด์ ให้บริการที่พักและการท่องเที่ยวในอุ้มผาง
โทร. 08-9832-1455, 08-1862-0533
www.theelorsuriverside.com
“อุ้มผาง น่าจะเป็นชื่อที่เกิดขึ้นในยุคที่มีนักสำรวจมาเจอหมู่บ้าน ซึ่งเพี้ยนมาจากคำว่า อุพะ เป็นภาษากะเหรี่ยง หมายถึง กระบอกไม้ไผ่ใส่เอกสาร เพราะการเดินทางที่ยากลำบากสมัยก่อนจำเป็นต้องใส่เอกสารไว้ในกระบอกไม้ไผ่” ฝีพายหนุ่มเล่าให้ฟัง เมื่อเรือล่องไปได้พักใหญ่
แม้ว่าการล่องเรือชมธรรมชาติ อาจเป็นกิจกรรมที่พร่องความตื่นเต้นแนวผจญภัยไปบ้าง แต่ก็ตอบโจทย์สำหรับการพักผ่อน นั่งไปสบายๆสูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางสายน้ำโอบขนาบแมกไม้ป่าร้อนชื้นที่มักจะมีนกกระเต็นน้อยสีน้ำเงิน เกาะอยู่ตามกิ่งต้นไคร้ที่โผล่ขึ้นกลางลำน้ำ ก่อนมันจะโผบินหนีไปไกลลิบเมื่อเรือล่องเข้าไปใกล้
ไฮไลท์ของน้ำตกทีลอจ่อ จุดแรก คือ โตรกผาหินปูนรูปร่างประหลาดราวกับฉากในยุคดึกดำบรรพ์ลักษณะคล้ายหินย้อยเป็นแนวกำแพงเหนือศีรษะสูงกว่า 50 เมตร มีละอองน้ำพร้อมกับหยดน้ำเม็ดโตตกลงมาจากโพรงหินด้านบนเหมือนสายฝนโปรยปราย มอสกับตะไคร่น้ำสีเขียวสดเกาะบนแนวหิน บ่งบอกความชุ่มชื้นที่มีตลอดปี
ก่อนจะลัดเลียบแนวผาไปเจอช่วงที่สองของน้ำตก ลักษณะคล้ายช่วงแรก แต่มีสายรุ้งพาดผ่านกลางลำน้ำ เพราะจังหวะที่แสงกระทบกับสายน้ำที่ตกลงมาจากผาเบื้องบนในช่วงตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 11 โมง นับเป็นความพิเศษเพราะสายรุ้งไม่ได้อยู่บนฟ้า แต่สามารถล่องเรือเข้าไปสัมผัสถึงใจกลางสีสันนั้น
แต่ความยากลำบากทั้งหมดเปลี่ยนเป็นผลลัพธ์ที่คุ้มค่า เมื่อเสียงสายน้ำไหลค่อยๆดังใกล้ตัวมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมองเห็นน้ำตกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในผืนแผ่นดินไทย ภาพที่อยู่ตรงหน้า คือ แนวผากว้างประมาณ 400 เมตร สายน้ำลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆเสียงดังกึกก้อง แม้มาเยือนในช่วงปลายฤดูหนาวก็ยังมีน้ำไหลแรง ละอองความชื้นล่องลอยฟุ้งในอากาศไปทั่ว ท่ามกลางผืนป่าดิบและแสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านทิวเขาทะมึนด้านหลัง
กฎระเบียบที่จริงจัง และการเดินทางที่อาศัยความตั้งใจมุ่งมั่น ช่วยคัดกรองคุณภาพของนักท่องเที่ยวไปกลายๆ ว่าผู้มาเยือนสายน้ำและผืนป่าแห่งอำเภออุ้มผาง ต้องชื่นชอบธรรมชาติบริสุทธิ์ ที่ไม่จำเป็นต้องมีสิ่งก่อสร้างหรือความเจริญทันสมัยเอาใจคนเมือง เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ป่ากว่า 1.6 ล้านไร่ ซึ่งแทบไม่ต่างจากปอดขนาดใหญ่ของเมืองไทยให้เป็นธรรมชาติสุดยิ่งใหญ่ต่อไปตราบนานเท่านาน
ทีลอซู ริเวอร์ไซด์ ให้บริการที่พักและการท่องเที่ยวในอุ้มผาง
โทร. 08-9832-1455, 08-1862-0533
www.theelorsuriverside.com