ปัตตานี เมืองมากเสน่ห์แห่งชายแดนใต้ (2)

ชุมชนท่องเที่ยวต้นแบบแห่งปลายด้ามขวาน

การเดินทางไปเยือนปัตตานีครั้งนี้ ทีมงาน The Passport ได้รับการสนับสนุนจาก องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์กรมหาชน) หรือ อพท. ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ที่ดำเนินงานวิจัยด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) มาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการเดินทางในวันที่ 2 เราเริ่มต้นเดินทางกันไปสัมผัสวิถีชุมชนท่องเที่ยวคุณภาพอีกแห่ง คือ “ชุมชนบ้านบานา” อำเภอเมืองปัตตานี ที่นี่เป็นแหล่งทำนาเกลือโบราณ ที่เรียกว่า เกลือหวานตานี ซึ่งนับเป็นผืนนาเกลือสุดท้ายของแหลมมลายู

** การท่องเที่ยวชุมชนบานา ติดต่อคุณอนัน อาบูลี (ประธานชุมชนท่องเที่ยวบานา) โทรศัพท์ 08-5725-9613 **

 

เที่ยวไปกับชุมชนบานา จุดเด่นอย่างแรก คือ การได้ชมการทำนาเกลือแบบโบราณ และสามารถแวะซื้อเกลือหวานราคาย่อมเยากลับบ้านไปทำกับข้าวได้เลย ที่เรียกว่า เกลือหวาน ก็เพราะเป็นเกลือที่มีรสชาติไม่เค็มจัด ไม่เค็มปี๋ แต่มีความกลมกล่อมพอดีเป็นที่โปรดปรานของพ่อครัวแม่ครัวยิ่งนัก ไฮไลท์ห้ามพลาดของชุมชนบ้านบานา คือ สะพานไม้บานา จุดชมวิวป่าโกงกาง ที่มีทิวทัศน์ริมทะเลป่าชายเลนสวยงามร่มรื่น

กิจกรรมที่สะพานไม้ นอกจากเป็นจุดถ่ายภาพสวยๆแล้ว ยังเป็นสถานที่ลงเรือ ล่องออกไปชมวิถีประมงชายฝั่ง ชมทัศนียภาพของป่าอนุรักษ์ริมทะเล และฟังเรื่องราวการต่อสู้ของชาวบ้านเพื่อให้ได้มาซึ่งผืนป่าอนุรักษ์แห่งนี้ จนกลายเป็นที่ทำมาหากินและสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัด เมื่อมาเยือนถึงถิ่นบ้านบานา คือ อาหารที่ชาวบ้านจัดเตรียมสำรับมาให้กินแบบไม่อั้น ซึ่งอาหารสูตรเด็ดชายแดนใต้ และอาหารทะเลสดใหม่ ซึ่งถูกนำมาวางเรียงรายให้ผู้มาเยือนได้เติมพลัง นั่งกินกันในศาลาริมทะเล ช่วงบ่ายคล้อย เราเดินทางไปเยือนชุมชนท่องเที่ยวอีกแห่ง คือ ชุมชนตะโละกาโปร์ อำเภอยะหริ่ง ซึ่งมีกิจกรรมอันเพลิดเพลินอย่าง ”การล่องเรือกอและ” ปลายทางสู่อุโมงค์ป่าโกงกางอันร่มรื่น

** การท่องเที่ยวชุมชนตะโละกาโปร์ ติดต่อคุณมะเยะ แดเมาะ ประธานชุมชนท่องเที่ยวตะโละกาโปร์ (กลุ่มบูนาดารา) โทรศัพท์ 09-0715-1579 ** ความพิเศษของการล่องเรือที่นี่ ก็เพราะเรามีโอกาสได้ล่องเรือกอและ เรือประมงพื้นบ้านที่มีลวดลายงดงามเป็นเอกลักษณ์ ออกไปสู่พื้นที่ป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ ก่อนลงเรือแวะซื้อกาแฟ เครื่องดื่มของชาวบ้านติดขึ้นเรือไปด้วย แล้วไปจิบกาแฟคลายร้อนบนลานไม้ไผ่ริมอ่าวปัตตานี

การล่องเรือชมป่าโกงกาง จะได้ชมความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำของอ่าวปัตตานี ลอดป่าโกงกางที่ชาวบ้านเรียกกันว่าอเมซอนแห่งปัตตานีที่พวกเขาหวงแหนรักษา อันเป็นเสน่ห์การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่น่าประทับใจ ปิดท้ายก่อนกลับ เราแวะเที่ยวในตัวเมืองปัตตานีอีกหน่อย เดินเล่นบริเวณถนนอาเนาะรู ชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนซึ่งมีบ้านเรือนสมัยก่อนให้ถ่ายภาพกันเพลินๆ และยังมีสีสันของสตรีทอาร์ตที่ช่วยมาแต่งเติมให้เมืองปัตตานีมีมุมถ่ายภาพสวยๆเพิ่มมากขึ้น

การเดินทางทั้งหมดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ “ปัตตานี” หนึ่งในจังหวัดชายแดนใต้ที่อัดแน่นไปด้วยเสน่ห์ ซึ่งชาวปัตตานี ฝากบอกกับทีมงาน The Passport ว่า “อยากให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักในแง่มุมดีๆบ้าง”

และรอให้คุณไปสัมผัสด้วยตัวเอง แล้วจะรู้ว่า พื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ของประเทศไทย มีความงดงามทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และน้ำใจไมตรีของผู้คนไม่แพ้ที่อื่นเลย

You May Also Like