ข้อมูลจาก cntraveler.com รายงานว่า Copenhagenzie บริษัทออกแบบที่ตั้งอยู่ในโคเปนเฮเกน ได้จัดทำรายชื่อเมืองที่ดีที่สุดในการปั่นจักรยานในเมือง ติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2011 โดยปัจจัยหลักนั้นอยู่ที่โครงสร้างพื้นฐาน ความปลอดภัยด้านการจราจร และโครงการแบ่งปันจักรยานให้เช่า โดยแชมป์ทั้ง 20 เมืองในปีนี้ มีทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่พาเหรดเข้ามาในลิสต์
20. Montreal, Canada
ต้องขอบคุณที่มอนทรีออลยังคงเก็บเส้นทางปั่นจักรยานที่มีตั้งแต่ช่วง 1980 เอาไว้ นักท่องเที่ยวควรแวะไปปั่นตามเส้นทางขนาบริมคลอง Lachine เพื่อชมเส้นขอบฟ้าของเมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ออสโลมีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะหยุดการใช้รถยนต์ในเมืองหลวงตั้งแต่ปี 2019 นอกจากนั้นยังมีโครงการที่จะสร้างเส้นทางจักรยานสายใหม่ชื่อว่า Oslo Bysykkel จึงทำให้เมืองหลวงของนอร์เวย์ติดอันดับในปีนี้ 18. Helsinki, Finland
เมืองหลวงของฟินแลนด์ไม่ปรากฏนามในรายชื่อเมืองที่เป็นมิตรกับจัรยานมาตั้งแต่ปี 2011 แต่กลับมาอีกครั้งด้วยการสร้างความประทับใจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาด้วยการเปิดตัวโครงการแบ่งปันจักรยานที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2016 รวมถึงการเพิ่มเส้นทางจักรยานบนเส้นทางรถไฟเดิมในปี 2012
นอกเหนือจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปแล้ว EuroEyes Cyclassics (เดิมชื่อ Vattenfall Cyclassics) แล้วฮัมบูร์กยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาการขี่แบบสบาย ๆ ปั่นจักรยานนอกตัวเมืองเพื่อไปยัง Altes เพื่อชมกังหันลมโบราณและต้นแอปเปิ้ลที่กำลังเบ่งบาน
ความคิดริเริ่มที่จะทำให้เมืองนองต์เป็นเมืองที่เป็นมิตรกับจักรยานนั้นเหนือกว่าความประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎห้ามรถยนต์จากถนนสายหลักและอนุญาตให้ใช้จักรยานหรือยานพาหนะที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น นอกจากนี้ เหล่านักปั่นยังสามารถค้นหาเส้นทางจักรยานที่กว้างกว่าถนนทั่วไป และร้านค้าจักรยานใหม่ในเมืองได้ง่ายมาก ๆ
มิวนิกมีเส้นทางจักรยานกว่า 60 เส้นทาง ซึ่งมากกว่าเมืองอื่น ๆ ในเยอรมนี นอกเหนือจากนั้นเมืองได้ปรับปรุงป้ายชื่อถนน ให้มีขนาดตัวอักษรและทิศทางที่ชัดเจนขึ้น แถมในอนาคตยังมีแผนจะสร้างเส้นทางจักรยาน “ซุปเปอร์ไฮเวย์” เพื่อดึงดูดกระตุ้นให้ผู้คนเข้ามาสำรวจพื้นที่โดยรอบด้วยยานพาหนะสองล้อแทนที่สี่ล้อ
เมื่อหลายปีก่อนเซวิลล์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกระตือรือร้นมากที่จะเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับจักรยาน ทั้งการนำระบบแบ่งปันจักรยานมาใช้ และเส้นทางปั่นจักรยานไปตามถนน แม้ว่าความพยายามจะชะลอตัวลงในปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังถือว่าเป็นเมืองที่โดดเด่นเหมือนเดิม
นอกเหนือจากระบบแบ่งปันจักรยานและเส้นทางจักรยานที่มีประสิทธิภาพแล้ว ปารีสยังคงพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บริเวณริมแม่น้ำ Seine เพิ่งผ่านการปรับปรุงใหม่เมื่อไม่นานมานี้ และเป็นทางหลวงสายสำคัญที่ทอดยาวไปตามแม่น้ำที่ปลอดรถยนต์อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเปิดโอกาสให้นักปั่นจักรยานไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองโดยไม่มีมลพิษ
เวียนนาทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงตัวเมืองให้ดีขึ้นสำหรับนักปั่นจักรยาน ทั้งการจราจรที่เงียบสงบและเส้นทางปั่นจักรยานที่ยอดเยี่ยมมากมาย เส้นทางที่น่าสนใจคือ เส้นทางดานูบทอดตัวยาว 245 ไมล์ทั่วประเทศออสเตรีย รวมถึงส่วนต่าง ๆ ของ Stadtpark และ Karlskirche ของกรุงเวียนนา
บาร์เซโลน่ามีระบบแบ่งปันจักรยานที่ประสบความสำเร็จอย่าง Bicing ซึ่งผลักดันการปั่นจักรยานให้กลายเป็นแถวหน้าของการเดินทางและขนส่ง นักปั่นสามารถค้นหาเส้นทางที่ยอดเยี่ยมมากมายทั้งในเมืองและตามแนวชายฝั่ง โดยเฉพาะถนนจักรยาน Moll de la Fusta ซึ่งสามารถปั่นชมทิวทัศน์ผ่านต้นปาล์มและชายหาดได้
แม้จะมีฤดูหนาวที่หนาวจัดและมีชื่อเสียงในเรื่องความเร็ว แต่เบอร์ลินก็เหมาะสำหรับการปั่นจักรยาน ด้วยภูมิประเทศเป็นที่ราบ ถนนกว้าง และมีจุดจอดจักรยานตามลานบล็อกของตึกแถว การพยายามอย่างต่อเนื่องนี้จะทำให้เบอร์ลินมีท้องถนนปราศจากรถยนต์ และจะช่วยให้เบอร์ลินไต่อันดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในปีต่อไป 9. Tokyo, Japan
ร้อยละยี่สิบของผู้สัญจรทางรถไฟของเมือง ซึ่งมีจำนวน 20 ล้านคนที่ขี่จักรยานไปที่สถานีรถไฟ และมีที่จอดรถสำหรับจักรยานทั่วเมือง โครงสร้างพื้นฐานรวมถึงเลนจักรยานมีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากขึ้น เพื่อต้อนรับมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2020
ลูบลิยานาสร้างเส้นทางจักรยาน Copenhagen-esque ตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 1960 ฤดูร้อนคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยว ใช้เส้นทางจักรยานที่มีอยู่ทั่วทั้งเมืองเพื่อชมทิวทัศน์ภูเขาอันงดงามของสโลวีเนียชนบท
การปั่นจักรยานเป็นหนึ่งในโหมดหลักของการเดินทางในเมืองแอนต์เวิร์ป พร้อมระบบแบ่งปันจักรยานและที่จอดรถมากมาย รวมถึงเส้นทางจักรยานใหม่ตามแนวท่าเรือและสะพานคนเดินที่สร้างเสร็จในปี 2016 ทำให้วัฒนธรรมการปั่นจักรยานของคนเมืองนั้นมั่นคงมาก
การขี่จักรยานผ่านบอร์โดซ์นั้นเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจเสมอ ด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามและรถรางที่คอยกันรถยนต์ออกจากถนนในเมือง ยิ่งไปกว่านั้นเมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของระบบแบ่งปันจักรยานที่สามารถเข้าถึงได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งทำให้การปั่นจักรยานเป็นตัวเลือกยอดนิยมมากยิ่งขึ้น
มัลโมเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับจักรยานมากที่สุดในสวีเดน โดยมีเลนจักรยานมากกว่าเมืองอื่น ๆ และที่จอดรถยนต์ในเมืองนั้นเแทบจะเป็นศูนย์ นอกจากนั้นยังการันตีเรื่องความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยไฟจักรยาน ที่แยกสัญญาณไฟจราจรปกติ เครื่องสูบยางตามเส้นทางและจุดจอดจักรยานตามสถานีรถไฟ และที่เหนือกว่าเมืองอื่น ๆ คือ Cykelhuset (หรือ “บ้านจักรยาน”) เปิดในช่วงปลายปี 2016 เป็นอาคารพักอาศัยที่ออกแบบมาสำหรับผู้สัญจรทางจักรยาน โดยสร้างประตูที่กว้างขึ้นกล่องไปรษณีย์ใหญ่พอที่จะจัดส่งของชิ้นใหญ่ ๆ สำหรับจักรยานโดยเฉพาะ
สตราสบูร์กเป็นเมืองแห่งการปั่นจักรยานเมืองแรก ๆ ในฝรั่งเศส และการขี่จักรยานเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการเดินทางรอบเมือง เพราะมีเส้นทางจักรยานมากกว่า 300 ไมล์ และจักรยานให้เช่าจำนวนมาก บางประเภทมีตะกร้าและที่นั่งสำหรับเด็กให้ด้วย
อัมสเตอร์ดัมมีทุกอย่างที่เหมาะกับการปั่นจักรยาน ทั้งบรรยากาศการขี่จักรยานที่ผ่อนคลาย ลานจอดจักรยานและเส้นทางสำหรับนักปั่นโดยเฉพาะ การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของสกูตเตอร์จาก 8,000 คันในปี 2007 เป็น 35,000 คัน ในปี 2016 เป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างมาก แต่ความพยายามในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและลดความแออัดของจักรยานทำให้มั่นใจได้ว่าเมืองจะยังคงเป็นมิตรกับจักรยานเหมือนเดิม
Utrecht ปฏิเสธที่จะติดอยู่ในเงามืดของเมืองใหญ่อย่างอัมสเตอร์ดัม เมืองนี้มีแผนอย่างต่อเนื่องในการสร้างจุดจอดจักรยาน 33,000 จุดสำหรับจักรยานที่สถานีกลางในปี 2020 ซึ่งจะกลายเป็นที่จอดจักรยานที่ใหญ่ที่สุดในโลก
การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่ โคเปนเฮเกนจึงมาเป็นอันดับหนึ่งสองปีติดต่อกัน โดยการเปิดสะพานใหม่แปดแห่งสำหรับจักรยาน และอีกสี่แห่งอยู่ในช่วงกำลังก่อสร้าง และข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อปีที่แล้วแสดงให้เห็นว่าผู้คนเดินทางเข้าเมืองด้วยจักรยานมากกว่ารถยนต์
20. Montreal, Canada
ต้องขอบคุณที่มอนทรีออลยังคงเก็บเส้นทางปั่นจักรยานที่มีตั้งแต่ช่วง 1980 เอาไว้ นักท่องเที่ยวควรแวะไปปั่นตามเส้นทางขนาบริมคลอง Lachine เพื่อชมเส้นขอบฟ้าของเมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ออสโลมีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะหยุดการใช้รถยนต์ในเมืองหลวงตั้งแต่ปี 2019 นอกจากนั้นยังมีโครงการที่จะสร้างเส้นทางจักรยานสายใหม่ชื่อว่า Oslo Bysykkel จึงทำให้เมืองหลวงของนอร์เวย์ติดอันดับในปีนี้ 18. Helsinki, Finland
เมืองหลวงของฟินแลนด์ไม่ปรากฏนามในรายชื่อเมืองที่เป็นมิตรกับจัรยานมาตั้งแต่ปี 2011 แต่กลับมาอีกครั้งด้วยการสร้างความประทับใจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาด้วยการเปิดตัวโครงการแบ่งปันจักรยานที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2016 รวมถึงการเพิ่มเส้นทางจักรยานบนเส้นทางรถไฟเดิมในปี 2012
นอกเหนือจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปแล้ว EuroEyes Cyclassics (เดิมชื่อ Vattenfall Cyclassics) แล้วฮัมบูร์กยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาการขี่แบบสบาย ๆ ปั่นจักรยานนอกตัวเมืองเพื่อไปยัง Altes เพื่อชมกังหันลมโบราณและต้นแอปเปิ้ลที่กำลังเบ่งบาน
ความคิดริเริ่มที่จะทำให้เมืองนองต์เป็นเมืองที่เป็นมิตรกับจักรยานนั้นเหนือกว่าความประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎห้ามรถยนต์จากถนนสายหลักและอนุญาตให้ใช้จักรยานหรือยานพาหนะที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น นอกจากนี้ เหล่านักปั่นยังสามารถค้นหาเส้นทางจักรยานที่กว้างกว่าถนนทั่วไป และร้านค้าจักรยานใหม่ในเมืองได้ง่ายมาก ๆ
มิวนิกมีเส้นทางจักรยานกว่า 60 เส้นทาง ซึ่งมากกว่าเมืองอื่น ๆ ในเยอรมนี นอกเหนือจากนั้นเมืองได้ปรับปรุงป้ายชื่อถนน ให้มีขนาดตัวอักษรและทิศทางที่ชัดเจนขึ้น แถมในอนาคตยังมีแผนจะสร้างเส้นทางจักรยาน “ซุปเปอร์ไฮเวย์” เพื่อดึงดูดกระตุ้นให้ผู้คนเข้ามาสำรวจพื้นที่โดยรอบด้วยยานพาหนะสองล้อแทนที่สี่ล้อ
เมื่อหลายปีก่อนเซวิลล์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกระตือรือร้นมากที่จะเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับจักรยาน ทั้งการนำระบบแบ่งปันจักรยานมาใช้ และเส้นทางปั่นจักรยานไปตามถนน แม้ว่าความพยายามจะชะลอตัวลงในปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังถือว่าเป็นเมืองที่โดดเด่นเหมือนเดิม
นอกเหนือจากระบบแบ่งปันจักรยานและเส้นทางจักรยานที่มีประสิทธิภาพแล้ว ปารีสยังคงพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บริเวณริมแม่น้ำ Seine เพิ่งผ่านการปรับปรุงใหม่เมื่อไม่นานมานี้ และเป็นทางหลวงสายสำคัญที่ทอดยาวไปตามแม่น้ำที่ปลอดรถยนต์อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเปิดโอกาสให้นักปั่นจักรยานไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองโดยไม่มีมลพิษ
เวียนนาทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงตัวเมืองให้ดีขึ้นสำหรับนักปั่นจักรยาน ทั้งการจราจรที่เงียบสงบและเส้นทางปั่นจักรยานที่ยอดเยี่ยมมากมาย เส้นทางที่น่าสนใจคือ เส้นทางดานูบทอดตัวยาว 245 ไมล์ทั่วประเทศออสเตรีย รวมถึงส่วนต่าง ๆ ของ Stadtpark และ Karlskirche ของกรุงเวียนนา
บาร์เซโลน่ามีระบบแบ่งปันจักรยานที่ประสบความสำเร็จอย่าง Bicing ซึ่งผลักดันการปั่นจักรยานให้กลายเป็นแถวหน้าของการเดินทางและขนส่ง นักปั่นสามารถค้นหาเส้นทางที่ยอดเยี่ยมมากมายทั้งในเมืองและตามแนวชายฝั่ง โดยเฉพาะถนนจักรยาน Moll de la Fusta ซึ่งสามารถปั่นชมทิวทัศน์ผ่านต้นปาล์มและชายหาดได้
แม้จะมีฤดูหนาวที่หนาวจัดและมีชื่อเสียงในเรื่องความเร็ว แต่เบอร์ลินก็เหมาะสำหรับการปั่นจักรยาน ด้วยภูมิประเทศเป็นที่ราบ ถนนกว้าง และมีจุดจอดจักรยานตามลานบล็อกของตึกแถว การพยายามอย่างต่อเนื่องนี้จะทำให้เบอร์ลินมีท้องถนนปราศจากรถยนต์ และจะช่วยให้เบอร์ลินไต่อันดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในปีต่อไป 9. Tokyo, Japan
ร้อยละยี่สิบของผู้สัญจรทางรถไฟของเมือง ซึ่งมีจำนวน 20 ล้านคนที่ขี่จักรยานไปที่สถานีรถไฟ และมีที่จอดรถสำหรับจักรยานทั่วเมือง โครงสร้างพื้นฐานรวมถึงเลนจักรยานมีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากขึ้น เพื่อต้อนรับมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2020
ลูบลิยานาสร้างเส้นทางจักรยาน Copenhagen-esque ตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 1960 ฤดูร้อนคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยว ใช้เส้นทางจักรยานที่มีอยู่ทั่วทั้งเมืองเพื่อชมทิวทัศน์ภูเขาอันงดงามของสโลวีเนียชนบท
การปั่นจักรยานเป็นหนึ่งในโหมดหลักของการเดินทางในเมืองแอนต์เวิร์ป พร้อมระบบแบ่งปันจักรยานและที่จอดรถมากมาย รวมถึงเส้นทางจักรยานใหม่ตามแนวท่าเรือและสะพานคนเดินที่สร้างเสร็จในปี 2016 ทำให้วัฒนธรรมการปั่นจักรยานของคนเมืองนั้นมั่นคงมาก
การขี่จักรยานผ่านบอร์โดซ์นั้นเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจเสมอ ด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามและรถรางที่คอยกันรถยนต์ออกจากถนนในเมือง ยิ่งไปกว่านั้นเมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของระบบแบ่งปันจักรยานที่สามารถเข้าถึงได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งทำให้การปั่นจักรยานเป็นตัวเลือกยอดนิยมมากยิ่งขึ้น
มัลโมเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับจักรยานมากที่สุดในสวีเดน โดยมีเลนจักรยานมากกว่าเมืองอื่น ๆ และที่จอดรถยนต์ในเมืองนั้นเแทบจะเป็นศูนย์ นอกจากนั้นยังการันตีเรื่องความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยไฟจักรยาน ที่แยกสัญญาณไฟจราจรปกติ เครื่องสูบยางตามเส้นทางและจุดจอดจักรยานตามสถานีรถไฟ และที่เหนือกว่าเมืองอื่น ๆ คือ Cykelhuset (หรือ “บ้านจักรยาน”) เปิดในช่วงปลายปี 2016 เป็นอาคารพักอาศัยที่ออกแบบมาสำหรับผู้สัญจรทางจักรยาน โดยสร้างประตูที่กว้างขึ้นกล่องไปรษณีย์ใหญ่พอที่จะจัดส่งของชิ้นใหญ่ ๆ สำหรับจักรยานโดยเฉพาะ
สตราสบูร์กเป็นเมืองแห่งการปั่นจักรยานเมืองแรก ๆ ในฝรั่งเศส และการขี่จักรยานเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการเดินทางรอบเมือง เพราะมีเส้นทางจักรยานมากกว่า 300 ไมล์ และจักรยานให้เช่าจำนวนมาก บางประเภทมีตะกร้าและที่นั่งสำหรับเด็กให้ด้วย
อัมสเตอร์ดัมมีทุกอย่างที่เหมาะกับการปั่นจักรยาน ทั้งบรรยากาศการขี่จักรยานที่ผ่อนคลาย ลานจอดจักรยานและเส้นทางสำหรับนักปั่นโดยเฉพาะ การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของสกูตเตอร์จาก 8,000 คันในปี 2007 เป็น 35,000 คัน ในปี 2016 เป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างมาก แต่ความพยายามในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและลดความแออัดของจักรยานทำให้มั่นใจได้ว่าเมืองจะยังคงเป็นมิตรกับจักรยานเหมือนเดิม
Utrecht ปฏิเสธที่จะติดอยู่ในเงามืดของเมืองใหญ่อย่างอัมสเตอร์ดัม เมืองนี้มีแผนอย่างต่อเนื่องในการสร้างจุดจอดจักรยาน 33,000 จุดสำหรับจักรยานที่สถานีกลางในปี 2020 ซึ่งจะกลายเป็นที่จอดจักรยานที่ใหญ่ที่สุดในโลก
การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่ โคเปนเฮเกนจึงมาเป็นอันดับหนึ่งสองปีติดต่อกัน โดยการเปิดสะพานใหม่แปดแห่งสำหรับจักรยาน และอีกสี่แห่งอยู่ในช่วงกำลังก่อสร้าง และข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อปีที่แล้วแสดงให้เห็นว่าผู้คนเดินทางเข้าเมืองด้วยจักรยานมากกว่ารถยนต์
