สำหรับประเทศไทย เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน คือช่วงเวลาแห่งการสัมผัสอากาศเย็นชุ่มฉ่ำท่ามกลางผืนป่าเขียวขจีในฤดูปลายฝนต้นหนาว
แต่สำหรับประเทศในเขตอบอุ่น ช่วงเวลาดังกล่าวคือฤดูกาลที่ไม้ผลัดใบแข่งกันอวดสีสันจัดจ้านก่อนจะร่วงหล่นอำลาต้นเพื่อเข้าสู่ฤดูหนาว แม้หยาดฝนโปรยท่ามกลางอากาศเย็นเยียบจะทำให้ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่ชวนเหงาหงอยที่สุดฤดูกาลหนึ่งของปี แต่สีสันหลากเฉดทำให้ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูกาลที่เหมาะจะเก็บภาพความงดงามของธรรมชาติที่สุดหรือเพียงแค่เข้าไปอาบป่าเปลี่ยนสีก็อาจเปลี่ยนหัวใจเหงาให้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและจินตนาการ
สะพานไม้ทอดยาวลัดเลาะไปตามนินเขาและริมทะเลสาบคือภาพอันประทับใจของ “อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ เจเซรา” (Plitvice Jezera National Park) ในประเทศโครเอเชีย ในฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้น้อยใหญ่สารพัดพันธุ์ต่างแข่งกันอวดสีสันตัดกับทะเลสาบสีมรกตและสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ที่มีอยู่มากถึงกว่า 16 แห่ง แต่ละแห่งล้วนมีทิวทัศน์ต่างกันไปตามลักษณะภูมิประเทศ บ้างขนาบด้วยภูเขาหินปูน บ้างมีน้ำตกหลายชั้นที่ลดหลั่นลงไปสู่เวิ้งน้ำเบื้องล่าง ทั้งยังมีสัตว์ป่าน้อยใหญ่หลากชนิดนับตั้งแต่เป็ดไปจนถึงกวางและหมี
ความอุดมสมบูรณ์นี้เองที่ทำให้อุทยานแห่งชาติพลิตวิเช เจเซรา ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปีค.ศ.1979 อีกทั้งยังมีการประกาศขยายพื้นที่จนครอบคลุมพื้นที่ถึงกว่า 300 ตารางกิโลเมตรในเวลาต่อมา
ปลายสุดแผ่นดินด้านตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกาติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกและประเทศแคนาดา คือ รัฐเมน ดินแดนแห่งธรรมชาติสงบงามที่ป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติยังคงความอุดมสมบูรณ์
นอกเหนือจากเมนูเด็ดอย่าง “ล็อบสเตอร์” ที่สร้างชื่อให้รัฐเมนแล้ว ความงดงามของทัศนียภาพตามธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ถึงกับต้องมีการพยากรณ์และรายงานช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับความงามของใบไม้สีเหลืองอร่ามและป่าสีแดงเพลิงในทุกปี
ไม่ว่าจะเป็นที่ “อุทยานแห่งชาติอะคาเดีย” (Acadia National Park) อ่าวน้อยใหญ่ในเมืองแคมเดน (Camden) หรือสวนสาธารณะในเมืองต่าง ๆ สีสันแห่งธรรมชาติก็ล้วนแล้วแต่งดงามตระการตาจนบางครั้งนึกว่าตัวเองหลุดเข้าไปในภาพวาดแบบอิมเพรสชันนิสม์เลยทีเดียว
ท่ามกลางโอบกอดของตึกสูงระฟ้าที่นาฬิกาดูเหมือนจะเดินเร็วกว่าเมืองใดในโลก คือ แหล่งพักพิงกายใจของนิวยอร์กเกอร์ที่ความงามต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล
ในฤดูใบไม้ร่วงใบไม้ที่เคยเขียวครึ้มในฤดูร้อนกลายเป็นสีเหลืองแดงแต่งแต้มอารมณ์แตกต่างให้กับเมืองอันแสนวุ่นวาย พร้อมกับอากาศที่เย็นลงเรื่อย ๆ เป็นสัญญาณของการเดินทางของเวลาที่เคลื่อนเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของปี ไม่ว่าจะเป็นอุโมงค์ต้นไม้สีเหลืองอร่าม เงาสีทองที่ส่องสะท้อนผืนน้ำภายในสวน ภาพสะพาน Bow Bridge ที่มีสีสันจากธรรมชาติเป็นฉากหลังล้วนแล้วแต่ทำให้การอาบป่ากลางมหานครแห่งนี้พิเศษและน่าประทับใจไม่แพ้ที่ใดๆ
คำกล่าวที่ว่า “จิ่วจ้ายโกวคืออุทยานธารสวรรค์” นั้นไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงที่สีสันจัดจ้านของป่าตัดกับน้ำสีฟ้าใสจนและสายน้ำตกพลิ้วขาวงดงามราวกับดินแดนในจินตนาการน่าอัศจรรย์ใจ
ไฮไลต์เด็ดของการเยือนอุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกวคือ น้ำตกธารไข่มุกหรือน้ำตกนู่รือหลาง อันเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์จีนหลายเรื่อง ทะเลสาบห้าสี ทะเลสาบที่น้ำใสราวกระจกจนสามารถมองเห็นพื้นทะเลสาบได้ อีกทั้งมีสีต่างกันไล่ไปตามความลึกตื้นและปริมาณและชนิดของแร่ธาตุในทะเลสาบ ทะเลสาบกระจกที่สะท้อนเงางามของขุนเขาและท้องฟ้าราวกับส่องกระจก
ความงามในฤดูใบไม้ร่วงนี้เองทำให้เดือนตุลาคมเป็นช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนจิ่วจ้ายโกวมากที่สุด ดังนั้น หากต้องการดื่มด่ำไปกับความงามของธรรมชาติแบบเต็ม ๆ จึงควรวางแผนให้ดี
“โอะอิระเสะ” คือผืนป่าสงบงามในจังหวัดอะโอะโมะริ จังหวัดสุดท้ายปลายสุดทางตอนเหนือของเกาะฮอนชู ก่อนข้ามสู่เกาะฮอกไกโด
ป่าและลำธารโอะอิระเสะคือหนึ่งในสุดยอดจุดชมความงามของฤดูใบไม้ร่วงของภูมิภาคโทโฮะกุที่ธรรมชาติยังคงความบริสุทธิ์อยู่มาก อาจกล่าวได้ว่าการได้เดินดื่มด่ำไปกับความงดงามตามธรรมชาติในป่าโอะอิระเสะ คือ นิยามของการอาบป่าท่ามกลางฤดูใบไม้เปลี่ยนสีอย่างแท้จริงเพราะเส้นทางที่ทอดไกลนับสิบกิโลเมตรนั้น คือ การเดินเลียบลำธาร ข้ามสะพานไม้ และเดินลึกเข้าไปในใจกลางป่าสีทองและต้นสนสูงตระหง่าน ตลอดจนฟังเสียงธรรมชาติของน้ำตกน้อยใหญ่ในผืนป่าโอะอิระเสะ
แต่สำหรับประเทศในเขตอบอุ่น ช่วงเวลาดังกล่าวคือฤดูกาลที่ไม้ผลัดใบแข่งกันอวดสีสันจัดจ้านก่อนจะร่วงหล่นอำลาต้นเพื่อเข้าสู่ฤดูหนาว แม้หยาดฝนโปรยท่ามกลางอากาศเย็นเยียบจะทำให้ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่ชวนเหงาหงอยที่สุดฤดูกาลหนึ่งของปี แต่สีสันหลากเฉดทำให้ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูกาลที่เหมาะจะเก็บภาพความงดงามของธรรมชาติที่สุดหรือเพียงแค่เข้าไปอาบป่าเปลี่ยนสีก็อาจเปลี่ยนหัวใจเหงาให้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและจินตนาการ
สะพานไม้ทอดยาวลัดเลาะไปตามนินเขาและริมทะเลสาบคือภาพอันประทับใจของ “อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ เจเซรา” (Plitvice Jezera National Park) ในประเทศโครเอเชีย ในฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้น้อยใหญ่สารพัดพันธุ์ต่างแข่งกันอวดสีสันตัดกับทะเลสาบสีมรกตและสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ที่มีอยู่มากถึงกว่า 16 แห่ง แต่ละแห่งล้วนมีทิวทัศน์ต่างกันไปตามลักษณะภูมิประเทศ บ้างขนาบด้วยภูเขาหินปูน บ้างมีน้ำตกหลายชั้นที่ลดหลั่นลงไปสู่เวิ้งน้ำเบื้องล่าง ทั้งยังมีสัตว์ป่าน้อยใหญ่หลากชนิดนับตั้งแต่เป็ดไปจนถึงกวางและหมี
ความอุดมสมบูรณ์นี้เองที่ทำให้อุทยานแห่งชาติพลิตวิเช เจเซรา ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปีค.ศ.1979 อีกทั้งยังมีการประกาศขยายพื้นที่จนครอบคลุมพื้นที่ถึงกว่า 300 ตารางกิโลเมตรในเวลาต่อมา
ปลายสุดแผ่นดินด้านตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกาติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกและประเทศแคนาดา คือ รัฐเมน ดินแดนแห่งธรรมชาติสงบงามที่ป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติยังคงความอุดมสมบูรณ์
นอกเหนือจากเมนูเด็ดอย่าง “ล็อบสเตอร์” ที่สร้างชื่อให้รัฐเมนแล้ว ความงดงามของทัศนียภาพตามธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ถึงกับต้องมีการพยากรณ์และรายงานช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับความงามของใบไม้สีเหลืองอร่ามและป่าสีแดงเพลิงในทุกปี
ไม่ว่าจะเป็นที่ “อุทยานแห่งชาติอะคาเดีย” (Acadia National Park) อ่าวน้อยใหญ่ในเมืองแคมเดน (Camden) หรือสวนสาธารณะในเมืองต่าง ๆ สีสันแห่งธรรมชาติก็ล้วนแล้วแต่งดงามตระการตาจนบางครั้งนึกว่าตัวเองหลุดเข้าไปในภาพวาดแบบอิมเพรสชันนิสม์เลยทีเดียว
ท่ามกลางโอบกอดของตึกสูงระฟ้าที่นาฬิกาดูเหมือนจะเดินเร็วกว่าเมืองใดในโลก คือ แหล่งพักพิงกายใจของนิวยอร์กเกอร์ที่ความงามต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล
ในฤดูใบไม้ร่วงใบไม้ที่เคยเขียวครึ้มในฤดูร้อนกลายเป็นสีเหลืองแดงแต่งแต้มอารมณ์แตกต่างให้กับเมืองอันแสนวุ่นวาย พร้อมกับอากาศที่เย็นลงเรื่อย ๆ เป็นสัญญาณของการเดินทางของเวลาที่เคลื่อนเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของปี ไม่ว่าจะเป็นอุโมงค์ต้นไม้สีเหลืองอร่าม เงาสีทองที่ส่องสะท้อนผืนน้ำภายในสวน ภาพสะพาน Bow Bridge ที่มีสีสันจากธรรมชาติเป็นฉากหลังล้วนแล้วแต่ทำให้การอาบป่ากลางมหานครแห่งนี้พิเศษและน่าประทับใจไม่แพ้ที่ใดๆ
คำกล่าวที่ว่า “จิ่วจ้ายโกวคืออุทยานธารสวรรค์” นั้นไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงที่สีสันจัดจ้านของป่าตัดกับน้ำสีฟ้าใสจนและสายน้ำตกพลิ้วขาวงดงามราวกับดินแดนในจินตนาการน่าอัศจรรย์ใจ
ไฮไลต์เด็ดของการเยือนอุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกวคือ น้ำตกธารไข่มุกหรือน้ำตกนู่รือหลาง อันเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์จีนหลายเรื่อง ทะเลสาบห้าสี ทะเลสาบที่น้ำใสราวกระจกจนสามารถมองเห็นพื้นทะเลสาบได้ อีกทั้งมีสีต่างกันไล่ไปตามความลึกตื้นและปริมาณและชนิดของแร่ธาตุในทะเลสาบ ทะเลสาบกระจกที่สะท้อนเงางามของขุนเขาและท้องฟ้าราวกับส่องกระจก
ความงามในฤดูใบไม้ร่วงนี้เองทำให้เดือนตุลาคมเป็นช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนจิ่วจ้ายโกวมากที่สุด ดังนั้น หากต้องการดื่มด่ำไปกับความงามของธรรมชาติแบบเต็ม ๆ จึงควรวางแผนให้ดี
“โอะอิระเสะ” คือผืนป่าสงบงามในจังหวัดอะโอะโมะริ จังหวัดสุดท้ายปลายสุดทางตอนเหนือของเกาะฮอนชู ก่อนข้ามสู่เกาะฮอกไกโด
ป่าและลำธารโอะอิระเสะคือหนึ่งในสุดยอดจุดชมความงามของฤดูใบไม้ร่วงของภูมิภาคโทโฮะกุที่ธรรมชาติยังคงความบริสุทธิ์อยู่มาก อาจกล่าวได้ว่าการได้เดินดื่มด่ำไปกับความงดงามตามธรรมชาติในป่าโอะอิระเสะ คือ นิยามของการอาบป่าท่ามกลางฤดูใบไม้เปลี่ยนสีอย่างแท้จริงเพราะเส้นทางที่ทอดไกลนับสิบกิโลเมตรนั้น คือ การเดินเลียบลำธาร ข้ามสะพานไม้ และเดินลึกเข้าไปในใจกลางป่าสีทองและต้นสนสูงตระหง่าน ตลอดจนฟังเสียงธรรมชาติของน้ำตกน้อยใหญ่ในผืนป่าโอะอิระเสะ
