Emma Sparks นักเขียนจาก Lonely Planet เพิ่งปล่อยบทความท่องเที่ยวที่น่าสนใจเมื่อเดือนที่แล้ว สำหรับใครก็ตามที่กำลังมีความรัก แล้วอยากใช้เวลาแสนพิเศษไปกับคนที่ใช่ ! … ลองเพิ่มดีกรีความหวานให้มากขึ้นไปอีกกับ 10 เมืองที่ได้ชื่อว่าเหมาะกับการขอแต่งงานมากที่สุด ด้วยบรรยากาศที่แสนโรแมนติกและไม่เหมือนใคร
Cappadocia, Turkeyคู่รักที่ได้นั่งบอลลูนที่คัปปาโดเคีย มักจะอธิบายความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนปุยเมฆในยามรุ่งอรุณ โดยด้านล่างคือภูมิประเทศที่งดงามราวกับเทพนิยาย มีสีชมพูอ่อน ๆ ของท้องฟ้าเป็นฉากประกอบ เมื่อตกเย็นอย่าลืมแวะไปที่จุดชมวิว Red Valley และเข้าพักในหนึ่งในโรงแรมถ้ำสุดหรู เป็นการจบอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับทริปของคู่รัก
เมืองอูซัวยา ทางใต้สุดของอาร์เจนตินา คู่รักสามารถไต่เขาผ่านอุทยานแห่งชาติ Tierra del Fuego เยี่ยมชมฝูงนกเพนกวินเกาะ Martillo หรือพายเรือคายัคในช่องแคบ Beagle ในตัวเมืองมีร้านอาหารมากมายรวมไปถึงเบียร์รสเลิศเหมาะสำหรับการฉลองให้กับความรัก ถ้าคุณมีงบเหลือ ๆ แนะนำให้ไปล่องเรือในคาบสมุทรแอนตาร์กติกสักครั้งหนึ่งในชีวิต
คุกเข่าขอคนรักแต่งงานที่ Central Park หลังจากเดินเล่นในตอนเช้าก็น่าสนใจไม่น้อย อีกทางเลือกหนึ่งคือการเดินเล่นแสนโรแมนติกไปตาม Brooklyn Heights Promenade เนื่องจากพระอาทิตย์ตกดินด้านหลังตึกระฟ้าของแมนฮัตตัน จะช่วยให้บรรยากาศแห่งความรักนั้นน่าจดจำมากขึ้นไปอีก
เกาะเล็ก ๆ นอกชายฝั่งของแองเกิ้ลซีย์ ในป่าทางตอนเหนือของเวลส์ ทัศนียภาพของเกาะจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อน้ำขึ้นและน้ำลง ที่นี่จึงมีแลนด์มาร์คอยู่ตรงโบสถ์กลางน้ำ ที่นี่ยังเป็นบ้านของนักบุญ St Dwynwen นักบุญแห่งความรักของชาวเวลส์ หากวันที่ 14 กุมภาพันธ์ดูจะธรรมดาเกินไป ให้มาที่นี่แล้วลองขอแต่งงานในวัน St Dwynwen (25 มกราคม) แทน ก็น่าตื่นเต้นไปอีกแบบ แต่ถ้าอยากเจอกับสภาพอากาศดี ๆ แนะนำให้มาช่วงปลายฤดูร้อนจะดีกว่า
มัลดีฟส์เป็นจุดหมายปลายทางโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่ง คุณสามารถขอแต่งงานจากดาดฟ้าบังกะโลที่ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลที่คราม มีแสงเทียนบนโต๊ะอาหารค่ำส่วนตัวบนชายหาดสีขาวบริสุทธิ์ หรือล่องเรือในเรือคาตามารันอันหรูหรายามพระอาทิตย์ตกดิน ในขณะที่คุณดูปลาโลมาปินเนอร์กระโดดจากมหาสมุทรอินเดียรอบตัวคุณ
ถนนสายนี้จะกลายเป็นความทรงจำที่ไม่รู้ลืมของคู่รัก เพียงแค่ขับรถไปตามเส้นทาง Garden Route ของแอฟริกาใต้ ทอดยาวจาก Mossel Bay ไปยัง Storms River ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแนวชายฝั่งที่สวยที่สุดในโลก จากนั้นเดินเท้าเปล่าทอดน่องไปตามชายหาด Noetzie หรือเพิ่มความกล้าหาญด้วยไวน์สักขวดหรือสองขวดที่ไร่องุ่นนอกอ่าว Plettenberg
ทัชมาฮาลคือไอคอนของความรักแสนโรแมนติกอย่างแท้จริง จากประวัติศาสตร์ของจักรพรรดิชาห์จาฮาน ในศตวรรษที่ 17 ที่สร้างสุสานหินอ่อนสีขาวแห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงภรรยาผู้ล่วงลับ และร่างของเขาถูกวางเคียงคู่กับเธอในอีก 35 ปีต่อมา หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ใหม่ของโลกต้อนรับผู้เยี่ยมชมหลายล้านคนในแต่ละปี รีบมาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น และอากาศก็ยังไม่ร้อนมาก และขอให้เตรียมพร้อมสำหรับจำนวนของนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลที่จะเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสาย
ทัศนียภาพรอบ Byron Bay จะช่วยให้คุณลืมความกระวนกระวายใจ และการคุกเข่าขอแต่งงานจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป สิ่งที่คุณต้องทำคือจัดเตรียมปิกนิกและแชมเปญไปฉลองที่ชายหาด ถ้าอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายนคุณอาจจะได้เห็นวาฬแหวกว่ายเข้ามาใกล้ฝั่ง แล้วอย่าลืมเดินขึ้นไปชมวิวที่ประภาคาร Cape Byron เพื่อชมนก
ไอซ์แลนด์เต็มไปด้วยภูมิประเทศอันน่าทึ่ง ทั้งน้ำตก น้ำพุร้อน ชายฝั่งทะเล และถ้ำน้ำแข็ง จนตัดสินใจไม่ถูกเลยล่ะว่าจะพาคนรักไปขอแต่งงานที่ไหนดี ลองพิจารณาทะเลสาบ Jökulsárlón สักหน่อยเพราะภูเขาน้ำแข็งของทะเลสาบแห่งนี้ดูน่าอัศจรรย์เป็นพิเศษภายใต้แสงเหนือ และหาดไดมอนด์ที่อยู่ใกล้ ๆ กันก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่เหมาะกับการคุกเข่าสวมแหวนที่สุด
แวนคูเวอร์คือสวรรค์สำหรับคู่รักที่เอ็นจอยกับการลิ้มลองอาหารในร้านสุดแฟนซี เพราะบรรดาอาหารนานาชาติในเมืองนั้นไม่เป็นสองรองใคร เหมาะกับการฉลองหลังจากใช้เวลาทั้งวันไปกับการสำรวจ Capilano Suspension Bridge Park หรือขี่จักรยานไปตามเส้นทางจักรยาน Stanley Park Seawall จองโต๊ะที่ Hawksworth สำหรับอาหารแคนาดาระดับไฮเอนด์ หรือจะมุ่งหน้าไปที่เกาะแวนคูเวอร์ที่คุณสามารถพายคายัค หรือเทรกกิ้งบนยอดเขาดักลาส
