10 เมืองจุดหมายปลายทางน่าไปเยือนที่สุดปี 2020 โดย Lonely Planet

Best in Travel 2020: Top Cities
ปีหน้าไปเที่ยวที่ไหนดี?

ถ้ายังไม่ได้ตัดสินใจ ตอนนี้ Lonely Planet ไกด์บุ๊กชื่อดังระดับโลก ได้ออกมาประกาศรายชื่อ 10 เมืองที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุดในปีหน้าแล้วเรียบร้อย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ออกไปตามหาความพิเศษที่จะเกิดขึ้น และนี่คือรายชื่อทั้ง 10 เมืองจากทั่วโลก ที่จะเปล่งประกายที่สุดในปี 2020 1. Salzburg, Austria
ไม่มีเทศกาลดนตรีคลาสสิกแห่งไหนที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่า Salzburg Festival ซึ่งจะเฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งศตวรรษอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2020 เพราะฉะนั้นตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมไปจนถึงกลางเดือนสิงหาคม ทั่วทั้งเมืองจะครื้นเครงไปด้วยโอเปร่า คอนเสิร์ต ดนตรีคลาสสิก การละคร และกิจกรรมพิเศษท่ามกลางบรรยากาศของเมืองแห่งประวัติศาสตร์ 2. Washington DC, USA
ทุกสายตาจับจ้องมาที่กรุงวอชิงตัน ดีซี เพราะจะมีการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกาในปี 2020 เลยทำให้เมืองหลวงแห่งนี้ดูจะมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ นอกเหนือจากเรื่องการเมือง กรุงวอชิงตัน ดีซี ยังมุ่งหน้าเปิดตัวพิพิธภัณฑ์ ไปจนถึงสร้างนวัตกรรมพื้นที่ชุ่มน้ำและพื้นที่สีเขียวใหม่ ๆ จนทำให้เมืองดูเขียวมากชอุ่มมากกว่าที่เคย 3. Cairo, Egypt
เตรียมตัวนับถอยหลังสู่วันเปิดตัว Cairo’s Grand Egyptian Museum ในปี 2020 สำหรับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์อียิปต์ พิพิธภัณฑ์ล้ำสมัยแห่งนี้ก็จะพาไปพบกับคอลเล็กชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและน่าทึ่งที่สุดของอารยธรรมสุดล้ำค่านี้ 4. Galway, Ireland
กัลเวย์ดึงดูดผู้คนด้วยผับ ดนตรีสด และคาเฟ่ ที่มีอยู่ทั่วทั้งเมือง ในฐานะของเมืองศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรมของยุโรป (European Capital of Culture) ประจำปี 2020 ผู้มาเยือนจะได้พบกับปฏิทินกิจกรรมน่าสนใจตลอดทั้งปี อย่างเช่น ไปปาร์ตี้ในผับกับคนท้องถิ่นทุกคืนวันเสาร์ ฟังดนตรีสดริมถนน ไปจนถึงโชว์ดนตรีคลาสสิกระดับโลก 5. Bonn, Germany
อดีตเมืองหลวงของเยอรมนี กลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง เพราะจะมีการเฉลิมฉลองครบรอบ 250 ปีของเบโธเฟน ถ้ามีโอกาสได้ไปเยือนบอนน์ในปี 2020 ก็เตรียมตัวพบกับคอนเสิร์ต ที่มีให้ชมตลอดทั้งปี ทั้งโอเปร่า วงออเคสตร้าชื่อดังระดับโลก และศิลปินเดี่ยว รวมไปถึงศิลปินท้องถิ่นที่จะมาโชว์และแข่งกันร้องเล่นบทเพลงของเบโธเฟนกันทั่วทั้งเมือง 6. La Paz, Bolivia
ลาปาซมีระบบเคเบิลคาร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากที่เคยมีเพียงเส้นทางเคเบิลคาร์เพียง 3 สายในปี 2014 จะเพิ่มเป็น 11 สายในปี 2020 ทำให้เมืองที่แสนแออัดในอดีตกลับมีอนาคตที่สดใสอีกครั้ง จำนวนของนักท่องเที่ยวนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่หยุด ด้วยเสน่ห์วัฒนธรรมพื้นเมืองของโบลิเวีย และการเป็นเมืองแห่งเเรงบันดาลใจไม่มีที่สิ้นสุด 7. Kochi, India
เมืองที่เงียบสงบแห่งนี้ทางตอนใต้ของอินเดียเริ่มส่องประกาย หลังจากเปิดตัวสนามบินพลังงานแสงอาทิตย์เต็มรูปแบบแห่งแรกของโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนได้รับรางวัล UN Champions of the Earth แต่นั่นเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ที่นี่มีทั้งร้านกาแฟ โฮมสเตย์ และแกลเลอรี่ และยังคงรักษามรดกวัฒนธรรมของตัวเองไว้ได้แน่นหนา นอกจากนั้น เทศกาลศิลปะ Kochi-Muziris Biennale ก็ยิ่งทำให้โคจิกลายเป็นดาวดวงใหม่ของอินเดียอย่างแท้จริง 8. Vancouver, Canada
ที่นี่มีทั้งน้ำทะเลสีฟ้าของมหาสมุทรแปซิฟิก และยอดเขาที่ปกคลุมด้วยป่าทางตอนเหนือ ตอนนี้แวนคูเวอร์เลยพยายามที่จะเป็นผู้นำโลกอย่างยั่งยืน ด้วยแผนปฏิบัติการ Greenest City 2020 ลองใช้เวลาขี่จักรยานและไปตามเส้นทางที่ครอบคลุมกว่า 28 กิโลเมตร หรือเพียงแค่นั่งเล่นใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ จำนวน 102,000 ต้นที่ปลูกตั้งแต่ปี 2010 9. Dubai, UAE
ดูไบจะเปิดตัวโครงการใหม่ ๆ อีกมากมายในปี 2020 สำหรับงานที่ยิ่งใหม่ที่สุด คงหนีไม่พ้นงานมหกรรม World Expo 2020 เป็นเวลานานหกเดือน มี 190 ประเทศจากทั่วโลกจะมาโชว์วิสัยทัศน์ในการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเทคโนโลยียานยนต์ ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ The Museum of The Future  ที่สะดุดตาด้วยอักขระอาหรับแปลกตา ในขณะเดียวกันสองไมล์นอกชายฝั่ง บนหมู่เกาะเทียมที่ชื่อว่า The World นั้นพร้อมที่จะต้อนรับแขกคนแรกที่จะได้สัมผัสปรากฏการณ์เพียงหนึ่งเดียวในดูไบ เช่น ห้องนอนใต้น้ำ และหิมะที่ตกตลอดทั้งปี 10. Denver, USA
เดนเวอร์กลายเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา เพราะเต็มไปด้วยพลังงานแห่งความสร้างสรรค์และอาหารชั้นเลิศ เส้นขอบฟ้าที่เต็มไปด้วยภูเขากลายเป็นโรงแรมใหม่สุดฮิป ในขณะเดียวกัน Meow Wolf ได้ติดตั้งเครื่องเล่นที่ชื่อว่า ‘Kaleidoscape’ ที่ Elitch Gardens Theme และ Water Park เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับศิลปะแนวใหม่ และ Kirkland Museum of Fine & Decorative Art ก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในอาคารที่ออกแบบโดย Olson Kundig ซึ่งตั้งอยู่ในเขต Golden Triangle Creative District ที่ใจกลางเมือง

You May Also Like