การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มประวัติศาสตร์การบินสมัยใหม่ เที่ยวบินนับร้อยนับพันเที่ยวต้องหยุดบินกว่า 2 เดือนเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหลายประเทศได้เริ่มมีมาตรการผ่อนคลายและหลายสายการบินประกาศกลับมาทำการบินอีกครั้ง แต่ก็ใช่ว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม นักเดินทางจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและระเบียบวิธีแบบใหม่ ทั้งนี้ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์ว่าธุรกิจการบินจะกลับมาเป็นปกติอย่างเร็วที่สุดในปีค.ศ.2023 ลองมาดูกันว่านักเดินทางจะต้องปรับตัวอย่างไรบ้างเพื่อเผชิญความท้าทายดังกล่าว วีซ่า
ในช่วงการแพร่ระบาดของโรค หลายประเทศระงับการออกวีซ่าเป็นการชั่วคราว สถานทูตหรือศูนย์บริการรับคำร้องยื่นขอวีซ่าปิดทำการโดยไม่ระบุวันเปิดให้บริการจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม ดังนั้น ผู้ต้องการเดินทางจึงต้องตรวจสอบกับสถานทูตหรือศูนย์บริการฯ ของประเทศจุดหมายเพื่อให้ทราบวันเวลาให้บริการที่แน่นอน นอกจากนี้ เมื่อกลับมาเปิดให้บริการแล้ว สถานทูตและศูนย์บริการฯ ยังต้องดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค จึงอาจมีการจำกัดจำนวนผู้ยื่นคำร้อง รวมทั้งเพิ่มข้อกำหนดเรื่องใบรับรองการตรวจสุขภาพ ผู้ที่ต้องการขอวีซ่าจึงควรเตรียมตัววางแผนแต่เนิ่น ๆ ราคาบัตรโดยสารเครื่องบิน
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การเดินทางโดยเครื่องบินจึงต้องกำหนดมาตรการและแนวทางปฏิบัติใหม่ นับตั้งแต่บัตรโดยสารที่อาจมีราคาสูงขึ้นเนื่องจากข้อกำหนดที่ให้ผู้โดยสารนั่งแบบที่นั่งเว้นที่นั่งตามมาตรการเว้นระยะห่าง ระหว่างผู้โดยสาร (physical distancing) ทำให้จำนวนที่นั่งในแต่ละเที่ยวบินหายไปราว 30% เพิ่มเวลาเช็กอิน-ขึ้นเครื่อง
กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในการขึ้นเครื่องบินนับตั้งแต่การเช็กอิน ต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นเป็น 4 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำเนื่องจากต้องมีการจำกัดจำนวนเพื่อการเว้นระยะห่างระหว่างผู้โดยสาร การวัดอุณหภูมิไม่เกิน 37.3 องศาเซลเซียส การทำความสะอาดเครื่องบินและกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร การดูแลสุขอนามัยของพนักงานและผู้โดยสาร การลดจำนวนผู้โดยสารที่ขึ้นรถชัทเทิลบัสกรณีใช้บัสเกตจากรอบละ 60 คนเหลือ 20 คน เป็นต้น ความสะดวกสบายที่หายไป
เมื่อสุขอนามัยและความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญเป็นอันดับแรก สิ่งที่ผู้โดยสารต้องแลกมาคือความสะดวกสบายที่อาจหายไป อาทิ งดบริการอาหารและเครื่องดื่มสำหรับเที่ยวบินระยะใกล้ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการให้บริการอาหารสำหรับเที่ยวบินระยะไกล งดหรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริการภายในห้องรับรองสายการบิน งดใช้พื้นที่ส่วนกลางบนเครื่องบินสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ (สำหรับบางสายการบินที่มีบริการ) ลดการสัมผัสและการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างพนักงานและผู้โดยสารให้มากที่สุด กำหนดให้ผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากตลอดเวลาขณะเดินทาง รวมทั้งการให้พนักงานต้อนรับสวมชุด PPE เป็นต้น มองหาทางเลือกอื่นในการเดินทาง
เมื่อการเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารไม่สะดวก รวดเร็ว อีกต่อไป นักเดินทางอาจมองหาทางเลือกอื่น ๆ ในการเดินทาง อาทิ การเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง การเช่ารถขับ ซึ่งอาจใช้เวลาและงบประมาณไม่ต่างกันมาก ความไม่แน่นอนจากการระบาดรอบสอง
ตราบเท่าที่ยังไม่สามารถผลิตวัคซีนป้องกันโรคได้ ย่อมมีโอกาสที่โรคจะกลับมาระบาดซ้ำ ซึ่งส่งผลทั้งต่อการดำเนินชีวิตและการเดินทางอย่างแน่นอน จึงต้องตรวจสอบและวางแผนการเดินทางอย่างรัดกุมเช่น เลือกสำรองที่พักในอัตราที่สามารถยกเลิกการเข้าพักได้ เลือกเดินทางไปยังจุดหมายที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคต่ำ เป็นต้น
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนับเป็นเรื่องใหม่และเรื่องใหญ่ที่สุดเท่าที่อุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวทั้งโลกเคยประสบมา น่าจับตามองว่ามนุษย์เราจะผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้อย่างไรโดยเกิดความเสียหายน้อยที่สุดต่อเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่
ในช่วงการแพร่ระบาดของโรค หลายประเทศระงับการออกวีซ่าเป็นการชั่วคราว สถานทูตหรือศูนย์บริการรับคำร้องยื่นขอวีซ่าปิดทำการโดยไม่ระบุวันเปิดให้บริการจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม ดังนั้น ผู้ต้องการเดินทางจึงต้องตรวจสอบกับสถานทูตหรือศูนย์บริการฯ ของประเทศจุดหมายเพื่อให้ทราบวันเวลาให้บริการที่แน่นอน นอกจากนี้ เมื่อกลับมาเปิดให้บริการแล้ว สถานทูตและศูนย์บริการฯ ยังต้องดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค จึงอาจมีการจำกัดจำนวนผู้ยื่นคำร้อง รวมทั้งเพิ่มข้อกำหนดเรื่องใบรับรองการตรวจสุขภาพ ผู้ที่ต้องการขอวีซ่าจึงควรเตรียมตัววางแผนแต่เนิ่น ๆ
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การเดินทางโดยเครื่องบินจึงต้องกำหนดมาตรการและแนวทางปฏิบัติใหม่ นับตั้งแต่บัตรโดยสารที่อาจมีราคาสูงขึ้นเนื่องจากข้อกำหนดที่ให้ผู้โดยสารนั่งแบบที่นั่งเว้นที่นั่งตามมาตรการเว้นระยะห่าง ระหว่างผู้โดยสาร (physical distancing) ทำให้จำนวนที่นั่งในแต่ละเที่ยวบินหายไปราว 30%
กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในการขึ้นเครื่องบินนับตั้งแต่การเช็กอิน ต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นเป็น 4 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำเนื่องจากต้องมีการจำกัดจำนวนเพื่อการเว้นระยะห่างระหว่างผู้โดยสาร การวัดอุณหภูมิไม่เกิน 37.3 องศาเซลเซียส การทำความสะอาดเครื่องบินและกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร การดูแลสุขอนามัยของพนักงานและผู้โดยสาร การลดจำนวนผู้โดยสารที่ขึ้นรถชัทเทิลบัสกรณีใช้บัสเกตจากรอบละ 60 คนเหลือ 20 คน เป็นต้น
เมื่อสุขอนามัยและความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญเป็นอันดับแรก สิ่งที่ผู้โดยสารต้องแลกมาคือความสะดวกสบายที่อาจหายไป อาทิ งดบริการอาหารและเครื่องดื่มสำหรับเที่ยวบินระยะใกล้ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการให้บริการอาหารสำหรับเที่ยวบินระยะไกล งดหรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริการภายในห้องรับรองสายการบิน งดใช้พื้นที่ส่วนกลางบนเครื่องบินสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ (สำหรับบางสายการบินที่มีบริการ) ลดการสัมผัสและการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างพนักงานและผู้โดยสารให้มากที่สุด กำหนดให้ผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากตลอดเวลาขณะเดินทาง รวมทั้งการให้พนักงานต้อนรับสวมชุด PPE เป็นต้น
เมื่อการเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารไม่สะดวก รวดเร็ว อีกต่อไป นักเดินทางอาจมองหาทางเลือกอื่น ๆ ในการเดินทาง อาทิ การเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง การเช่ารถขับ ซึ่งอาจใช้เวลาและงบประมาณไม่ต่างกันมาก
ตราบเท่าที่ยังไม่สามารถผลิตวัคซีนป้องกันโรคได้ ย่อมมีโอกาสที่โรคจะกลับมาระบาดซ้ำ ซึ่งส่งผลทั้งต่อการดำเนินชีวิตและการเดินทางอย่างแน่นอน จึงต้องตรวจสอบและวางแผนการเดินทางอย่างรัดกุมเช่น เลือกสำรองที่พักในอัตราที่สามารถยกเลิกการเข้าพักได้ เลือกเดินทางไปยังจุดหมายที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคต่ำ เป็นต้น
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนับเป็นเรื่องใหม่และเรื่องใหญ่ที่สุดเท่าที่อุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวทั้งโลกเคยประสบมา น่าจับตามองว่ามนุษย์เราจะผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้อย่างไรโดยเกิดความเสียหายน้อยที่สุดต่อเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่