Zermatt, Switzerland
เซอร์แมท ได้รับการพลิกโฉมจากเมืองเกษตรกรรมที่ยากจนในอดีต กลายมาเป็นเมืองตากอากาศแสนโรแมนติกที่คู่รักหลายคู่ใฝ่ฝัน ไฮไลท์สำคัญ คือ แมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ยอดเขาหิมะที่คุ้นตาบนช็อกโกแลต Toblerone เป็นเอกลักษณ์ แม้ที่นี่รองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเป็นปริมาณมาก แต่ก็เป็นต้นแบบเมืองสะอาด และปลอดรถยนต์ โดยมีรถบัส เคเบิลคาร์ ไม่ก็รถม้า ให้บริการ
ยังไงเมืองนี้ก็ติดอันดับ เมืองสุดโรแมนติกที่ค่ามลพิษบางเบาแน่ๆ เพราะใครๆก็รู้ว่า เวนิซ คือสวรรค์แห่งการล่องเรือกอนโดลา ลัดเลาะไปตามลำคลองที่มีบ้านเรือนสีลูกกวาดรายล้อม ไม่งั้นคุณก็เดินเท้าได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ
เมืองท่าอย่างฮัมบูร์ก อาจไม่ใช่เมืองหวานๆที่ใครนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ แต่ที่นี่ก็เป็นจุดหมายปลายทางที่มีบรรยากาศดีทีเดียว โดยเฉพาะการเป็นหนึ่งในต้นแบบการพัฒนาเมืองสีเขียว เพิ่มเส้นทางจักรยาน เพิ่มสวนสาธารณะ เชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวให้เข้าถึงง่ายโดยไม่ต้องใช้รถยนต์ บริเวณท่าเรือและแม่น้ำเอลเบ ก็มีบาร์ริมน้ำที่เปิดทั้งปี มีสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืน และเสน่ห์ของอาคารบ้านเรือนที่มีเอกลักษณ์ดี
ความสวยงาม น่าหลงใหลของเมืองหลวงสเปนนั้นไม่เป็นรองใคร คู่รักไหนๆก็น่าประทับใจไม่ยาก แถมเรื่องการแก้ปัญหาฝุ่นควันก็เป็นเรื่องที่กำลังโดดเด่นมาก เพราะเดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรักเมื่อปีก่อนนี่เอง ทางการประกาศข้อบังคับห้ามรถยนต์ของผู้ที่ไม่ได้อยู่อาศัยในเขตเมืองเข้าไปเด็ดขาด แถมยานพาหนะสาธารณะทั้งรถบัส หรือแท็กซี่ ก็ต้องเป็นรถรุ่นใหม่โลว์คาร์บอนเท่านั้น เท่านั้นยังไม่พอ ปีหน้าพื้นที่ใจกลางเมืองจะขยายโซนปลอดรถยนต์เพิ่มขึ้นอีก โดยจะเพิ่มถนนที่ง่ายต่อการเดินเท้าแทน
เมืองสวยแสนโรแมนติกทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ประกาศแบนรถยนต์มาตั้งแต่ 2 ปีก่อน บนถนนสายเศรษฐกิจบางเส้น แม้ระยะทางอาจไม่มากนัก แค่ประมาณ 2 ไมล์กว่าๆ แต่สิ่งที่ทำควบคู่กัน คือ การเพิ่มไบค์เลน เป็นระยะทางรวมกว่า 120 ไมล์ และซ่อมแซมเพิ่มเติมทางเดินเท้าให้เป็นมิตรมากขึ้น
ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก หรือใครจะให้ฉายาว่าเป็น Kings’ Landing แห่ง Game of Thrones ก็ไม่ผิด เมืองมรดกโลกแห่งนี้ ราวกับย้อนเวลาให้เหล่าคู่รักเดินทางกลับไปในอดีต ลัดเลาะชมสถาปัตยกรรมผสมผสานสุดคลาสสิค โดยไม่ต้องกังวลใจเรื่องฝุ่นควัน เพราะย่านเมืองเก่านั้นห้ามรถยนต์เข้าไปกวนใจ
กีธอร์น เป็นหมู่บ้านที่คู่รักต้องชื่นชอบแน่ๆ ที่นี่ใช้คลองต่างถนน จนได้รับฉายาว่า ‘เวนิซแห่งทิศเหนือ’ ลองล่องเรือลัดเลาะไปตามลำคลอง ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนโอ่อ่า ฟาร์มมุงหลังคาฟางและสะพานไม้ ท่ามกลางพืชพรรณสวยๆราวกับเมืองในเทพนิยาย ส่วนเรื่องสภาพอากาศนั้น สดชื่นหายห่วงเลย
เซอร์แมท ได้รับการพลิกโฉมจากเมืองเกษตรกรรมที่ยากจนในอดีต กลายมาเป็นเมืองตากอากาศแสนโรแมนติกที่คู่รักหลายคู่ใฝ่ฝัน ไฮไลท์สำคัญ คือ แมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ยอดเขาหิมะที่คุ้นตาบนช็อกโกแลต Toblerone เป็นเอกลักษณ์ แม้ที่นี่รองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเป็นปริมาณมาก แต่ก็เป็นต้นแบบเมืองสะอาด และปลอดรถยนต์ โดยมีรถบัส เคเบิลคาร์ ไม่ก็รถม้า ให้บริการ
ยังไงเมืองนี้ก็ติดอันดับ เมืองสุดโรแมนติกที่ค่ามลพิษบางเบาแน่ๆ เพราะใครๆก็รู้ว่า เวนิซ คือสวรรค์แห่งการล่องเรือกอนโดลา ลัดเลาะไปตามลำคลองที่มีบ้านเรือนสีลูกกวาดรายล้อม ไม่งั้นคุณก็เดินเท้าได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ
เมืองท่าอย่างฮัมบูร์ก อาจไม่ใช่เมืองหวานๆที่ใครนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ แต่ที่นี่ก็เป็นจุดหมายปลายทางที่มีบรรยากาศดีทีเดียว โดยเฉพาะการเป็นหนึ่งในต้นแบบการพัฒนาเมืองสีเขียว เพิ่มเส้นทางจักรยาน เพิ่มสวนสาธารณะ เชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวให้เข้าถึงง่ายโดยไม่ต้องใช้รถยนต์ บริเวณท่าเรือและแม่น้ำเอลเบ ก็มีบาร์ริมน้ำที่เปิดทั้งปี มีสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืน และเสน่ห์ของอาคารบ้านเรือนที่มีเอกลักษณ์ดี
ความสวยงาม น่าหลงใหลของเมืองหลวงสเปนนั้นไม่เป็นรองใคร คู่รักไหนๆก็น่าประทับใจไม่ยาก แถมเรื่องการแก้ปัญหาฝุ่นควันก็เป็นเรื่องที่กำลังโดดเด่นมาก เพราะเดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรักเมื่อปีก่อนนี่เอง ทางการประกาศข้อบังคับห้ามรถยนต์ของผู้ที่ไม่ได้อยู่อาศัยในเขตเมืองเข้าไปเด็ดขาด แถมยานพาหนะสาธารณะทั้งรถบัส หรือแท็กซี่ ก็ต้องเป็นรถรุ่นใหม่โลว์คาร์บอนเท่านั้น เท่านั้นยังไม่พอ ปีหน้าพื้นที่ใจกลางเมืองจะขยายโซนปลอดรถยนต์เพิ่มขึ้นอีก โดยจะเพิ่มถนนที่ง่ายต่อการเดินเท้าแทน
เมืองสวยแสนโรแมนติกทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ประกาศแบนรถยนต์มาตั้งแต่ 2 ปีก่อน บนถนนสายเศรษฐกิจบางเส้น แม้ระยะทางอาจไม่มากนัก แค่ประมาณ 2 ไมล์กว่าๆ แต่สิ่งที่ทำควบคู่กัน คือ การเพิ่มไบค์เลน เป็นระยะทางรวมกว่า 120 ไมล์ และซ่อมแซมเพิ่มเติมทางเดินเท้าให้เป็นมิตรมากขึ้น
ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก หรือใครจะให้ฉายาว่าเป็น Kings’ Landing แห่ง Game of Thrones ก็ไม่ผิด เมืองมรดกโลกแห่งนี้ ราวกับย้อนเวลาให้เหล่าคู่รักเดินทางกลับไปในอดีต ลัดเลาะชมสถาปัตยกรรมผสมผสานสุดคลาสสิค โดยไม่ต้องกังวลใจเรื่องฝุ่นควัน เพราะย่านเมืองเก่านั้นห้ามรถยนต์เข้าไปกวนใจ
กีธอร์น เป็นหมู่บ้านที่คู่รักต้องชื่นชอบแน่ๆ ที่นี่ใช้คลองต่างถนน จนได้รับฉายาว่า ‘เวนิซแห่งทิศเหนือ’ ลองล่องเรือลัดเลาะไปตามลำคลอง ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนโอ่อ่า ฟาร์มมุงหลังคาฟางและสะพานไม้ ท่ามกลางพืชพรรณสวยๆราวกับเมืองในเทพนิยาย ส่วนเรื่องสภาพอากาศนั้น สดชื่นหายห่วงเลย
