ปารีสคือจุดหมายปลายทางอันเป็นที่รักของเหล่านักเดินทาง เพราะเป็นเมืองหลวงเต็มไปด้วยร้านอาหารระดับโลก และพิพิธภัณฑ์ชื่อดัง แต่ไกลออกไปในหมู่บ้านต่าง ๆ นั้นมีความงามพอจะสู้กับเมืองใหญ่ ๆ ทั่วโลกได้สบาย ๆ ด้วยทิวทัศน์บนยอดเขา ลำคลอง แต่งแต้มสีสันด้วยดอกไม้ และอาคารหลากสีสันราวกับหลุดออกมาจากหนังสือนิทาน และด้วยรถไฟความเร็วสูงและถนนที่สะดวกสบายทำให้แต่ละที่สามารถเดินทางไปเยี่ยมเยือนได้ภายในวันเดียว และนี่คือ 17 เมืองเล็ก ๆ ที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส จากเว็บไซต์ cntraveler.com
Colmar, Alsace
มีอีกชื่อเรียกว่า ลิตเติ้ลเวนิส ด้วยคลองเล็ก ๆ ที่ตัดผ่านบ้านเรือนสีสันลูกกวาด บางคนเชื่อว่าเมืองนี้คือต้นแบบหมู่บ้านของ เบลล์ จากการ์ตูนดิสนีย์สุดคลาสสิก Beauty and the Beast
บอร์โดซ์เป็นภูมิภาคที่โด่งดังเรื่องไวน์ แต่ภูมิทัศน์ที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นอาจเป็นเรื่องน่าเบื่อ ทว่าเมืองในยุคกลางของ Saint-Émilion เป็นข้อยกเว้น เพราะที่นี่คือมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 1999 โดดเด่นด้วย “ภูมิทัศน์อันยอดเยี่ยม” ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ ถนนที่คดเคี้ยวไปตามเนินเขาและบ้านหินปูน
เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เงียบสงบ เหมาะกับการใช้เวลายามบ่ายนั่งจิบกาแฟและเพลิดเพลินไปกับสายลมทะเลและแวะชม Chapelle St-Pierre โบสถ์ขนาดเล็กสมัยศตวรรษที่ 14 บน Quai Corbet ผนังด้านในนั้นวิจิตรตาด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่มีชีวิตชีวาและลึกลับโดย Jean Cocteau ศิลปินชาวฝรั่งเศส
เมืองริมทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาลาดชันและลำคลองที่ไหลผ่าน และแม้ว่าจะมีจำนวนประชากรมากกว่าเมืองอื่น ๆ แต่ถนนที่ปูด้วยหินกรวดและอาคารสีพาสเทลก็ให้ความรู้สึกราวกับเดินอยู่ในหมู่บ้านจากหนังสือนิทาน
หมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเนินเขาหิน 1,400 ฟุตเหนือทะเล ทำให้มองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้อย่างชัดเจน หลังจากเพลิดเพลินกับการเดินชมเมืองรอบ ๆ แล้วอย่าลืมแวะไปชิมอาหารฝรั่งเศสที่ La Chèvre d’Or ร้านอาหารมิชลินสองดาวที่อยู่ภายใต้การดูแลโดยเชฟ Arnaud Faye
เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ในนอร์มังดีที่โด่งดังที่สุด และมีประชากรอยู่เพียงห้าร้อยกว่าคน แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดคือ Claude Monet บ้านสีชมพูพาสเทลที่ปกคลุมไปด้วยไม้เลื้อยสีเขียว และสวนก็น่ารักราวกับหลุดมาจากภาพเขียนอิมเพรสชันนิสต์ ที่มีชีวิตขึ้นมาด้วยดอกบัว, ต้นหลิว, วิสทีเรีย, และสะพานญี่ปุ่นสีเขียว
Chamonix อยู่ใกล้กับ Mont Blanc ทำให้เป็นหนึ่งในแหล่งเล่นสกีและปีนเขาที่เป็นตำนานที่สุดในยุโรป แต่ก็สามารถมาเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี เพราะมีวิวภูเขาแบบพาโนรามา และอาคารหลังคาลาดเรียงเป็นแนวริมถนน
โดดเด่นด้วยทัศนียภาพอันงดงามเหนือหุบเขา Alzou และเป็นเมืองที่มีถนนสายเดียว เหล่านักท่องเที่ยวรู้จักกันดีว่าหมู่บ้านแห่งนี้เป็นศูนย์รวมศาสนสถาน ซึ่งรวมถึง Chapelle Notre Dame ที่มีรูปปั้นแบล็กมาดอนน่าที่มีชื่อเสียง
โววองต์ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของป่า ซึ่งทำให้เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย หมู่บ้านแห่งนี้ยังมีกำแพงป้อมปราการดั้งเดิมตั้งอยู่รอบ ๆ และสะพานสมัยศตวรรษที่ 14 ข้ามแม่น้ำลัวร์ที่ไหลตัดผ่านเมือง
ภูมิภาค Languedoc นั้นไม่เหมือนที่อื่นในประเทศฝรั่งเศส ต้องยกความดีความชอบให้ชายหาด ยอดเขาป่า และความหนาแน่นของไร่องุ่น นอกจากนั้นยังเป็นภาพของเมืองยุคกลางการ์กาซอน ที่มีแม่น้ำ Aude หล่อเลี้ยงเมือง สิ่งที่เป็นไฮไลต์ของเมืองคือ La Cité ซึ่งเป็นป้อมปราการสมัยศตวรรษที่ 10 และสะพานชัก
เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดในโพรวองซ์ รวมถึงในฝรั่งเศส เป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวจะได้ถ่ายรูปกับทุ่งลาเวนเดอร์ในฤดูร้อน ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์เพียง 10 นาทีจากใจกลางเมืองไปยังโบสถ์ Sénanque ซึ่งเป็นโบสถ์สมัยศตวรรษที่ 12 ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้สีม่วง Amiens, Picardy
ประชากรของเมืองนี้อาจจะสูงกว่าเมืองอื่น ๆ เล็กน้อย แต่อาเมียงส์ยังคงมีเสน่ห์ แถมยังเดินทางง่าย เพราะเมืองอยู่ห่างออกไปทางเหนือประมาณสองชั่วโมงจากปารีส และเป็นที่ตั้งของมหาวิหารกอธิคที่สวยงาม อย่าลืมแวะไปพายเรือลำเล็กชม Les hortillonnages สวนลอยน้ำสุดน่ารัก
เมืองบนยอดเขายุคกลางของ Vézelay เป็นจุดที่ห้ามพลาดในการเดินทางสู่เบอร์กันดี ลองขับรถอ้อมสักเล็กน้อยเพื่อไปเยี่ยมชม Vézelay Abbey ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่คุณจะได้เห็นมุมมองที่กว้างไกลของหมู่บ้านชนบทโดยรอบ
อารามเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 10 นั้นเป็นเสมือนหัวใจของเมืองนี้ ด้วยความสง่างามของสถาปัตยกรรมที่สร้างด้วยอิฐและหิน กับความงดงามของรูปปั้นสุดตระการตา ในขณะที่อีกหนึ่งไฮไลต์ของเมืองคือ Cluny Abbey ที่ให้ภาพของไร่นาสีเขียวที่ทอดยาวในชนบทของเบอร์กันดี Roussillon, Provence
ชัยปุระแห่งอินเดียมีชื่อเสียงเพราะเป็นเมืองสีชมพู ขณะเดียวกัน Roussillon ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขา ก็เรียกได้ว่าเป็นเมืองสีเหลืองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก คุณจะได้เห็นเฉดสีที่แตกต่างกันออกไปของอาคารที่อยู่บนหน้าผา
บาเยอมีชื่อเสียงเรื่องพรมศตวรรษที่ 11 และก็เป็นสถานที่พิเศษในประวัติศาสตร์ เพราะเมืองแรกที่ได้รับอิสรภาพจากฝ่านสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากที่ยกพลลงจอดบนชายหาดนอร์มังดีในปี 1944 สิ่งที่น่าสนใจคือ การผสมผสานระหว่างความคลาสสิกของ Bayeux Cathedral และความเรียบง่ายของสุสานหลังสงครามโลก
Village préféré des Français รายการโทรทัศน์ที่สร้างโพลสำรวจจากประชาชนเป็นประจำปี เพื่อหาหมู่บ้านที่ครองใจชาวฝรั่งเศสมากที่สุดในประเทศ และ Kayersberg ยังคงชนะใจคนท้องถิ่นและนักเดินทางอย่างต่อเนื่อง ด้วยชาวเมืองที่เป็นมิตร ถนนที่เดินได้อย่างสะดวกสบาย และสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย เช่น Oberhof Chapel ในศตวรรษที่ 14 และ Château de Kaysersberg ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์
Colmar, Alsace
มีอีกชื่อเรียกว่า ลิตเติ้ลเวนิส ด้วยคลองเล็ก ๆ ที่ตัดผ่านบ้านเรือนสีสันลูกกวาด บางคนเชื่อว่าเมืองนี้คือต้นแบบหมู่บ้านของ เบลล์ จากการ์ตูนดิสนีย์สุดคลาสสิก Beauty and the Beast
บอร์โดซ์เป็นภูมิภาคที่โด่งดังเรื่องไวน์ แต่ภูมิทัศน์ที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นอาจเป็นเรื่องน่าเบื่อ ทว่าเมืองในยุคกลางของ Saint-Émilion เป็นข้อยกเว้น เพราะที่นี่คือมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 1999 โดดเด่นด้วย “ภูมิทัศน์อันยอดเยี่ยม” ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ ถนนที่คดเคี้ยวไปตามเนินเขาและบ้านหินปูน
เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เงียบสงบ เหมาะกับการใช้เวลายามบ่ายนั่งจิบกาแฟและเพลิดเพลินไปกับสายลมทะเลและแวะชม Chapelle St-Pierre โบสถ์ขนาดเล็กสมัยศตวรรษที่ 14 บน Quai Corbet ผนังด้านในนั้นวิจิตรตาด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่มีชีวิตชีวาและลึกลับโดย Jean Cocteau ศิลปินชาวฝรั่งเศส
เมืองริมทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาลาดชันและลำคลองที่ไหลผ่าน และแม้ว่าจะมีจำนวนประชากรมากกว่าเมืองอื่น ๆ แต่ถนนที่ปูด้วยหินกรวดและอาคารสีพาสเทลก็ให้ความรู้สึกราวกับเดินอยู่ในหมู่บ้านจากหนังสือนิทาน
หมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเนินเขาหิน 1,400 ฟุตเหนือทะเล ทำให้มองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้อย่างชัดเจน หลังจากเพลิดเพลินกับการเดินชมเมืองรอบ ๆ แล้วอย่าลืมแวะไปชิมอาหารฝรั่งเศสที่ La Chèvre d’Or ร้านอาหารมิชลินสองดาวที่อยู่ภายใต้การดูแลโดยเชฟ Arnaud Faye
เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ในนอร์มังดีที่โด่งดังที่สุด และมีประชากรอยู่เพียงห้าร้อยกว่าคน แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดคือ Claude Monet บ้านสีชมพูพาสเทลที่ปกคลุมไปด้วยไม้เลื้อยสีเขียว และสวนก็น่ารักราวกับหลุดมาจากภาพเขียนอิมเพรสชันนิสต์ ที่มีชีวิตขึ้นมาด้วยดอกบัว, ต้นหลิว, วิสทีเรีย, และสะพานญี่ปุ่นสีเขียว
Chamonix อยู่ใกล้กับ Mont Blanc ทำให้เป็นหนึ่งในแหล่งเล่นสกีและปีนเขาที่เป็นตำนานที่สุดในยุโรป แต่ก็สามารถมาเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี เพราะมีวิวภูเขาแบบพาโนรามา และอาคารหลังคาลาดเรียงเป็นแนวริมถนน
โดดเด่นด้วยทัศนียภาพอันงดงามเหนือหุบเขา Alzou และเป็นเมืองที่มีถนนสายเดียว เหล่านักท่องเที่ยวรู้จักกันดีว่าหมู่บ้านแห่งนี้เป็นศูนย์รวมศาสนสถาน ซึ่งรวมถึง Chapelle Notre Dame ที่มีรูปปั้นแบล็กมาดอนน่าที่มีชื่อเสียง
โววองต์ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของป่า ซึ่งทำให้เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย หมู่บ้านแห่งนี้ยังมีกำแพงป้อมปราการดั้งเดิมตั้งอยู่รอบ ๆ และสะพานสมัยศตวรรษที่ 14 ข้ามแม่น้ำลัวร์ที่ไหลตัดผ่านเมือง
ภูมิภาค Languedoc นั้นไม่เหมือนที่อื่นในประเทศฝรั่งเศส ต้องยกความดีความชอบให้ชายหาด ยอดเขาป่า และความหนาแน่นของไร่องุ่น นอกจากนั้นยังเป็นภาพของเมืองยุคกลางการ์กาซอน ที่มีแม่น้ำ Aude หล่อเลี้ยงเมือง สิ่งที่เป็นไฮไลต์ของเมืองคือ La Cité ซึ่งเป็นป้อมปราการสมัยศตวรรษที่ 10 และสะพานชัก
เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดในโพรวองซ์ รวมถึงในฝรั่งเศส เป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวจะได้ถ่ายรูปกับทุ่งลาเวนเดอร์ในฤดูร้อน ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์เพียง 10 นาทีจากใจกลางเมืองไปยังโบสถ์ Sénanque ซึ่งเป็นโบสถ์สมัยศตวรรษที่ 12 ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้สีม่วง Amiens, Picardy
ประชากรของเมืองนี้อาจจะสูงกว่าเมืองอื่น ๆ เล็กน้อย แต่อาเมียงส์ยังคงมีเสน่ห์ แถมยังเดินทางง่าย เพราะเมืองอยู่ห่างออกไปทางเหนือประมาณสองชั่วโมงจากปารีส และเป็นที่ตั้งของมหาวิหารกอธิคที่สวยงาม อย่าลืมแวะไปพายเรือลำเล็กชม Les hortillonnages สวนลอยน้ำสุดน่ารัก
เมืองบนยอดเขายุคกลางของ Vézelay เป็นจุดที่ห้ามพลาดในการเดินทางสู่เบอร์กันดี ลองขับรถอ้อมสักเล็กน้อยเพื่อไปเยี่ยมชม Vézelay Abbey ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่คุณจะได้เห็นมุมมองที่กว้างไกลของหมู่บ้านชนบทโดยรอบ
อารามเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 10 นั้นเป็นเสมือนหัวใจของเมืองนี้ ด้วยความสง่างามของสถาปัตยกรรมที่สร้างด้วยอิฐและหิน กับความงดงามของรูปปั้นสุดตระการตา ในขณะที่อีกหนึ่งไฮไลต์ของเมืองคือ Cluny Abbey ที่ให้ภาพของไร่นาสีเขียวที่ทอดยาวในชนบทของเบอร์กันดี Roussillon, Provence
ชัยปุระแห่งอินเดียมีชื่อเสียงเพราะเป็นเมืองสีชมพู ขณะเดียวกัน Roussillon ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขา ก็เรียกได้ว่าเป็นเมืองสีเหลืองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก คุณจะได้เห็นเฉดสีที่แตกต่างกันออกไปของอาคารที่อยู่บนหน้าผา
บาเยอมีชื่อเสียงเรื่องพรมศตวรรษที่ 11 และก็เป็นสถานที่พิเศษในประวัติศาสตร์ เพราะเมืองแรกที่ได้รับอิสรภาพจากฝ่านสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากที่ยกพลลงจอดบนชายหาดนอร์มังดีในปี 1944 สิ่งที่น่าสนใจคือ การผสมผสานระหว่างความคลาสสิกของ Bayeux Cathedral และความเรียบง่ายของสุสานหลังสงครามโลก
Village préféré des Français รายการโทรทัศน์ที่สร้างโพลสำรวจจากประชาชนเป็นประจำปี เพื่อหาหมู่บ้านที่ครองใจชาวฝรั่งเศสมากที่สุดในประเทศ และ Kayersberg ยังคงชนะใจคนท้องถิ่นและนักเดินทางอย่างต่อเนื่อง ด้วยชาวเมืองที่เป็นมิตร ถนนที่เดินได้อย่างสะดวกสบาย และสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย เช่น Oberhof Chapel ในศตวรรษที่ 14 และ Château de Kaysersberg ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์
