แม้ว่าหลาย ๆ พิพิธภัณฑ์และโบราณสถานในกรุงโรมจะเรียกเก็บค่าเข้าชม แต่ก็ยังมีอีกหลายแห่งที่สื่อท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง lonelyplanet.com แนะนำ ตั้งแต่ประตูโบสถ์ที่เต็มไปด้วยศิลปะ ถนนสายประวัติศาสตร์ จัตุรัสกลางเมือง ไปจนถึงสวนสาธารณะ ที่สามารถเข้าชมกันได้ฟรี ๆ และการเที่ยวชมเมืองหลวงอันงดงามของอิตาลีก็ไม่ได้มีราคาแพงอีกต่อไป
1. Pantheon
วิหารแพนธีออน คืออาคารโรมันอันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง อายุมากกว่า 2,000 ปี จุดเด่นคือหลังคาโดมขนาดใหญ่ มีช่องวงกลมตรงกลางที่เรียกกันว่า “Oculus” หมายถึง ”“ดวงตาแห่งสวรรค์” จะเห็นแสงอาทิตย์สาดส่องลงมาให้บรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ 2. St Peter’s Basilica
มหาวิหารแห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี แต่ก็ต้องแลกมากับการต่อคิวเพื่อชมรูปปั้น Pietàของ Michelangelo และ ซุ้มBaldacchino ของ Bernini
3. Piazza Navona
จัตุรัสนาโวนามีการแสดงเปิดหมวกให้ชมกันทุกวัน หรือจะเดินเลือกซื้อของที่ระลึกเป็นภาพวาดสวย ๆ ของศิลปินท้องถิ่น โดยมีฉากหลังเป็นโบสถ์สถาปัตยกรรมบาโรกและน้ำพุสุดหรูหรา
4. Trinità dei Monti
ที่ชั้นบนสุดของ Trinità dei Monti หรือบันไดสเปน เป็นบันไดที่กว้างและยาวที่สุดในยุโรป ด้านบนสุดเป็นที่ตั้งของโบสถ์มีผลงานศิลปะที่น่าทึ่ง รวมไปถึงจิตรกรรมฝาหนังที่มีชื่อว่า astrolabe หรือ ฝาหนังดวงดาว และ anamorphoses ที่มุมมองภาพจะเปลี่ยนไปตามตำแหน่งที่คุณยืน
5. Trevi Fountain
ด้วยความเชื่อว่า ใครก็ตามที่โยนเหรียญลงในน้ำพุเทรวี จะได้กลับมาเยือนกรุงโรมอีกครั้ง ทำให้เหล่านักท่องเที่ยวนับพันพากันมาที่น้ำพุอันโด่งดังนี้ ว่ากันว่าเป็นเงินจำนวนกว่า 3,000 ยูโรในแต่ละวันเลยทีเดียว 6. Via Margutta
Via Margutta เป็นถนนที่ข้างทางประดับด้วยไม้เลื้อยแสนมีเสน่ห์ และเป็นที่ซึ่ง Audrey Hepburn และ Gregory Peck พบกันในภาพยนตร์เรื่อง Roman Holiday สุดคลาสสิก
7. Villa Borghese
Villa Borghese สวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงโรมและได้ชื่อว่าเป็นโอเอซิสของเมือง มีร่มเงาสีเขียวร่มรื่นปกคลุมทางเดิน รวมถึงพิพิธภัณฑ์ให้แวะเข้าชม
8. Il Vittoriano
คุณสามารถชมทิวทิศน์ของกรุงโรมจากมุมสูงได้ที่อนุสาวรีย์หินอ่อน อิล วิตโตริอาโน คุณต้องจ่ายเงิน 10 ยูโรเพื่อขึ้นไปด้านบนสุด แต่ก็มีจุดชมวิวอีกมากมายให้เลือก รวมถึงพิพิธภัณฑ์ด้านในที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
9. Jewish Ghetto
ชุมชนชาวยิวในโรม เรียงรายไปด้วยสตูดิโอของช่างฝีมือ ร้านเบเกอรี่ และร้านอาหารยอดนิยม
10. Via Appia Antica
ถนนที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงโรม เหมาะสำหรับการเดินทอดน่องสบาย ๆ ขนาบข้างด้วยต้นสน ซากปรักหักพัง รวมถึงสุสานใต้ดินน่าขนลุก
11. Trastevere
ย่านทรัสเตอแวร์ส่งเสียงคึกคักตลอดทั้งคืน เพราะคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวจะออกไปเที่ยวบนถนนและจัตุรัสที่งดงาม 12. ทัวร์ชมเมืองฟรี
ทัวร์กรุงโรมฟรีจะมีวันละสองครั้ง โดยเป็นการเดินชมศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมือง สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ newromefreetour.com
13. Cimitero Acattolico
สถานที่พำนักแห่งสุดท้ายของ Keats และ Shelley สุสานเแสนสงบ เหมาะสำหรับการแวะพักชาร์จพลังงานระหว่างวัน
14. Museo Storico della Liberazione
ตามรอยประวัติศาสตร์เมื่อครั้งนาซียึดครองกรุงโรมในMuseum of the Liberation of Rome ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ทำการเก่าของ SS หรือ Schutzstaffel ซึ่งเป็นองค์กรสังกัดพรรคนาซี
15. Chiesa di Santa Prassede
ภายในมหาวิหารแห่งนี้มีศิลปะไบแซนไทน์อันโด่งดัง ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ให้คงสภาพเดิมไว้อย่างดี เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดชมเมื่อมาถึงกรุงโรม
16. EUR district
สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุดใน EUR district ตอนใต้ คือ Palazzo della Civiltà del Lavoro งานชิ้นเอกของเหล่าสถาปนิก Italian rationalism ที่รู้จักกันในชื่อ Square Colosseum 17. Chiesa di Santa Maria della Vittoria
ถนน Chiesa di Santa Maria della Vittoria มีหนึ่งในผลงานชิ้นเอกอันยิ่งใหญ่ของ Bernini นั่นก็คือผลงานรูปปั้นที่มีชื่อว่า Ecstasy of St Teresa
18. Gianicolo hill
บนเนินเขาแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ Tempietto di San Pietro in Montorio สร้างขึ้นโดยสถาปนิก Donato Bramante ถือเป็นอาคารที่ยิ่งใหญ่แห่งแรกของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา
19. Arco degli Acetari
ลานกว้างในยุคกลางที่สมบูรณ์แบบ ล้อมรอบด้วยกำแพงที่ถูกปกคุลมด้วยไม้เลื้อย ซ่อนตัวอยู่หลังซุ้มประตู Vinegar-Makers ‘Arch บนถนน Via del Pellegrino 19
20. Chiesa di San Pietro in Vincoli
รูปปั้นโมเสสที่งดงามด้วยเอกลักษณ์ของ Michelangelo เป็นดาวเด่นในช่วงศตวรรษที่ 5 นอกจากนี้ที่นี่ยังมีโซ่ตรวนที่เซนต์ปีเตอร์สวมใส่ในที่คุมขังอีกด้วย 21. Priorato dei Cavalieri di Malta
ตั้งอยู่บนเนินเขา Aventine Hill เป็นวิลล่าที่ล้อมรอบด้วยสวน แต่จุดเด่นนั้นอยู่ที่รูกุญแจของประตูทางเข้าทางทิศเหนือ ที่สามารถมองลอดออกไปแล้วจะเป็นโดมของมหาวิหารเซนต์ ปีเตอร์พอดี
22. La passeggiata
เรียกว่าเป็นหนึ่งในประเพณีของคนท้องถิ่นเลยก็ว่าได้ กับการแต่งตัวกึ่งทางการออกมาเดินเล่นในตอนเย็น มุ่งหน้าไปยัง Via del Corso และลองไปเดินเล่นยามเย็นกับพวกเขาดูสักครั้ง
23. Chiesa di San Luigi dei Francesi
โบสถ์ Chiesa di San Luigi dei Francesi เป็นที่ตั้งของ St Matthew cycle ซึ่งเป็นภาพวาดทางศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดของศิลปิน Caravaggio 24. Campo de ‘Fiori
ตลาดท้องถิ่นที่จัตุรัส Campo de’ Fiori เต็มไปด้วยร้านขายผัก ผัลไม้ และของสด ส่วนตอนกลางคืนก็จะแตกต่างออกไป เพราะเป็นเวลาของการดื่มอย่างแท้จริง
25. Quartiere Coppedè
เป็นหนึ่งในละแวกที่น่าสนใจที่สุดในโรม เต็มไปด้วยศิลปะอาร์ต-นูโว มีตั้งแต่วิลล่า ป้อมปืน หอคอยเทพนิยาย และซุ้มประตูสุดตระการตา
26.Piazza del Popolo
ในจัตุรัสนีโอคลาสสิกอันยิ่งใหญ่บริเวณใกล้เคียงโบสถ์ Chiesa di Santa del Popolo อุดมไปด้วยศิลปะที่ควรไปชม ใจกลางจัตุรัสคือเสาโอเบลิสก์ 27. Teatro di Marcello
เป็นโรงละครกลางแจ้งโบราณในกรุงโรม ในอดีตนั้นเป็นโรงละครที่ชาวบ้านและผู้เยี่ยมชมสามารถชมการแสดงละครและเพลง
28. Largo di Torre Argentina
ว่ากันว่าซากปรักหักพังของมหาวิหารโบราณสี่แห่งนี้ คือลานประหารจักรพรรดิจูเลิยส ซีซาร์ ผู้ยิ่งใหญ่ ทุกวันนี้กลายเป็นแหล่งพักพิงของเหล่าแมวจรหลายร้อยตัว
29. เข้าชมคอนเสิร์ต Estate Romana
เทศกาลฤดูร้อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกรุงโรม มีการแสดงทุกอย่างตั้งแต่คอนเสิร์ต การเต้นรำ ไปจนถึงงานแสดงสินค้า และการเปิดพิพิธภัณฑ์ช่วงดึก บางแห่งเปิดให้เข้าชมฟรี
30. Piazza del Campidoglio
เป็นเพราะการออกแบบอย่างประณีตของ Michelangelo ทำให้จัตุรัสแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่สาธารณะที่สวยที่สุดของกรุงโรม รอบ ๆ ประกอบด้วยอาคารทั้งหมดสามอาคาร หนึ่งในนั้นเป็นที่ทำการเทศบาลและที่เหลือคือพิพิธภัณฑ์ 31. Trajan’s Column
หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เสาไตรยานุส เพราะก่อนหน้านั้นยอดบนสุดประดับด้วยรูปปั้นของจักรพรรดิไตรยานุส แต่พอถึงช่วงปลายศตวรรษที่ 16 สมเด็จพระสันตปาปา Sixtus V ก็แทนที่ด้วยรูปปั้นของเซนต์ปีเตอร์อย่างที่เห็นกันในทุกวันนี้
32. Garbatella
เดิมเคยเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าคนงานก่อสร้าง แต่ทุกวันนี้กลายเป็นย่านสุดโปรดของเหล่าคนทำภาพยนตร์ ด้วยอาคารสีแดงและสวนของชุมชน
33. Circo Massimo
ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเต็มไปด้วยฝูงชนโห่ร้องเชียร์นักแข่งรถม้าในสนามกีฬาที่ใหญ่โตของกรุงโรม แต่ในทุกวันนี้ชาวเมืองมาที่นี่เพื่อวิ่งออกกำลังและพักผ่อนหย่อนใจ สถานที่ท่องเที่ยวที่ให้บริการฟรีในบางช่วงเวลา:
34. Colosseum, Palatino, และ Roman Forum; วันอาทิตย์แรกของเดือน
35. Vatican Museums; วันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน
36. พิพิธภัณฑ์ของรัฐทั้งหมด; วันอาทิตย์แรกของเดือน
37. เข้าพบสมเด็จพระสันตะปาปา; ทุกเช้าวันพุธ
38. ตลาด Porta Portese; ทุกเช้าวันอาทิตย์
39. Palazzo di Montecitorio; วันอาทิตย์แรกของเดือน
40. คอนเสิร์ตเมย์เดย์; 1 พฤษภาคม
1. Pantheon
วิหารแพนธีออน คืออาคารโรมันอันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง อายุมากกว่า 2,000 ปี จุดเด่นคือหลังคาโดมขนาดใหญ่ มีช่องวงกลมตรงกลางที่เรียกกันว่า “Oculus” หมายถึง ”“ดวงตาแห่งสวรรค์” จะเห็นแสงอาทิตย์สาดส่องลงมาให้บรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์
มหาวิหารแห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี แต่ก็ต้องแลกมากับการต่อคิวเพื่อชมรูปปั้น Pietàของ Michelangelo และ ซุ้มBaldacchino ของ Bernini
3. Piazza Navona
จัตุรัสนาโวนามีการแสดงเปิดหมวกให้ชมกันทุกวัน หรือจะเดินเลือกซื้อของที่ระลึกเป็นภาพวาดสวย ๆ ของศิลปินท้องถิ่น โดยมีฉากหลังเป็นโบสถ์สถาปัตยกรรมบาโรกและน้ำพุสุดหรูหรา
4. Trinità dei Monti
ที่ชั้นบนสุดของ Trinità dei Monti หรือบันไดสเปน เป็นบันไดที่กว้างและยาวที่สุดในยุโรป ด้านบนสุดเป็นที่ตั้งของโบสถ์มีผลงานศิลปะที่น่าทึ่ง รวมไปถึงจิตรกรรมฝาหนังที่มีชื่อว่า astrolabe หรือ ฝาหนังดวงดาว และ anamorphoses ที่มุมมองภาพจะเปลี่ยนไปตามตำแหน่งที่คุณยืน
5. Trevi Fountain
ด้วยความเชื่อว่า ใครก็ตามที่โยนเหรียญลงในน้ำพุเทรวี จะได้กลับมาเยือนกรุงโรมอีกครั้ง ทำให้เหล่านักท่องเที่ยวนับพันพากันมาที่น้ำพุอันโด่งดังนี้ ว่ากันว่าเป็นเงินจำนวนกว่า 3,000 ยูโรในแต่ละวันเลยทีเดียว
Via Margutta เป็นถนนที่ข้างทางประดับด้วยไม้เลื้อยแสนมีเสน่ห์ และเป็นที่ซึ่ง Audrey Hepburn และ Gregory Peck พบกันในภาพยนตร์เรื่อง Roman Holiday สุดคลาสสิก
7. Villa Borghese
Villa Borghese สวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงโรมและได้ชื่อว่าเป็นโอเอซิสของเมือง มีร่มเงาสีเขียวร่มรื่นปกคลุมทางเดิน รวมถึงพิพิธภัณฑ์ให้แวะเข้าชม
8. Il Vittoriano
คุณสามารถชมทิวทิศน์ของกรุงโรมจากมุมสูงได้ที่อนุสาวรีย์หินอ่อน อิล วิตโตริอาโน คุณต้องจ่ายเงิน 10 ยูโรเพื่อขึ้นไปด้านบนสุด แต่ก็มีจุดชมวิวอีกมากมายให้เลือก รวมถึงพิพิธภัณฑ์ด้านในที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
9. Jewish Ghetto
ชุมชนชาวยิวในโรม เรียงรายไปด้วยสตูดิโอของช่างฝีมือ ร้านเบเกอรี่ และร้านอาหารยอดนิยม
10. Via Appia Antica
ถนนที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงโรม เหมาะสำหรับการเดินทอดน่องสบาย ๆ ขนาบข้างด้วยต้นสน ซากปรักหักพัง รวมถึงสุสานใต้ดินน่าขนลุก
11. Trastevere
ย่านทรัสเตอแวร์ส่งเสียงคึกคักตลอดทั้งคืน เพราะคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวจะออกไปเที่ยวบนถนนและจัตุรัสที่งดงาม
ทัวร์กรุงโรมฟรีจะมีวันละสองครั้ง โดยเป็นการเดินชมศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมือง สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ newromefreetour.com
13. Cimitero Acattolico
สถานที่พำนักแห่งสุดท้ายของ Keats และ Shelley สุสานเแสนสงบ เหมาะสำหรับการแวะพักชาร์จพลังงานระหว่างวัน
14. Museo Storico della Liberazione
ตามรอยประวัติศาสตร์เมื่อครั้งนาซียึดครองกรุงโรมในMuseum of the Liberation of Rome ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ทำการเก่าของ SS หรือ Schutzstaffel ซึ่งเป็นองค์กรสังกัดพรรคนาซี
15. Chiesa di Santa Prassede
ภายในมหาวิหารแห่งนี้มีศิลปะไบแซนไทน์อันโด่งดัง ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ให้คงสภาพเดิมไว้อย่างดี เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดชมเมื่อมาถึงกรุงโรม
16. EUR district
สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุดใน EUR district ตอนใต้ คือ Palazzo della Civiltà del Lavoro งานชิ้นเอกของเหล่าสถาปนิก Italian rationalism ที่รู้จักกันในชื่อ Square Colosseum
ถนน Chiesa di Santa Maria della Vittoria มีหนึ่งในผลงานชิ้นเอกอันยิ่งใหญ่ของ Bernini นั่นก็คือผลงานรูปปั้นที่มีชื่อว่า Ecstasy of St Teresa
18. Gianicolo hill
บนเนินเขาแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ Tempietto di San Pietro in Montorio สร้างขึ้นโดยสถาปนิก Donato Bramante ถือเป็นอาคารที่ยิ่งใหญ่แห่งแรกของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา
19. Arco degli Acetari
ลานกว้างในยุคกลางที่สมบูรณ์แบบ ล้อมรอบด้วยกำแพงที่ถูกปกคุลมด้วยไม้เลื้อย ซ่อนตัวอยู่หลังซุ้มประตู Vinegar-Makers ‘Arch บนถนน Via del Pellegrino 19
20. Chiesa di San Pietro in Vincoli
รูปปั้นโมเสสที่งดงามด้วยเอกลักษณ์ของ Michelangelo เป็นดาวเด่นในช่วงศตวรรษที่ 5 นอกจากนี้ที่นี่ยังมีโซ่ตรวนที่เซนต์ปีเตอร์สวมใส่ในที่คุมขังอีกด้วย
ตั้งอยู่บนเนินเขา Aventine Hill เป็นวิลล่าที่ล้อมรอบด้วยสวน แต่จุดเด่นนั้นอยู่ที่รูกุญแจของประตูทางเข้าทางทิศเหนือ ที่สามารถมองลอดออกไปแล้วจะเป็นโดมของมหาวิหารเซนต์ ปีเตอร์พอดี
22. La passeggiata
เรียกว่าเป็นหนึ่งในประเพณีของคนท้องถิ่นเลยก็ว่าได้ กับการแต่งตัวกึ่งทางการออกมาเดินเล่นในตอนเย็น มุ่งหน้าไปยัง Via del Corso และลองไปเดินเล่นยามเย็นกับพวกเขาดูสักครั้ง
23. Chiesa di San Luigi dei Francesi
โบสถ์ Chiesa di San Luigi dei Francesi เป็นที่ตั้งของ St Matthew cycle ซึ่งเป็นภาพวาดทางศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดของศิลปิน Caravaggio
ตลาดท้องถิ่นที่จัตุรัส Campo de’ Fiori เต็มไปด้วยร้านขายผัก ผัลไม้ และของสด ส่วนตอนกลางคืนก็จะแตกต่างออกไป เพราะเป็นเวลาของการดื่มอย่างแท้จริง
25. Quartiere Coppedè
เป็นหนึ่งในละแวกที่น่าสนใจที่สุดในโรม เต็มไปด้วยศิลปะอาร์ต-นูโว มีตั้งแต่วิลล่า ป้อมปืน หอคอยเทพนิยาย และซุ้มประตูสุดตระการตา
26.Piazza del Popolo
ในจัตุรัสนีโอคลาสสิกอันยิ่งใหญ่บริเวณใกล้เคียงโบสถ์ Chiesa di Santa del Popolo อุดมไปด้วยศิลปะที่ควรไปชม ใจกลางจัตุรัสคือเสาโอเบลิสก์
เป็นโรงละครกลางแจ้งโบราณในกรุงโรม ในอดีตนั้นเป็นโรงละครที่ชาวบ้านและผู้เยี่ยมชมสามารถชมการแสดงละครและเพลง
28. Largo di Torre Argentina
ว่ากันว่าซากปรักหักพังของมหาวิหารโบราณสี่แห่งนี้ คือลานประหารจักรพรรดิจูเลิยส ซีซาร์ ผู้ยิ่งใหญ่ ทุกวันนี้กลายเป็นแหล่งพักพิงของเหล่าแมวจรหลายร้อยตัว
29. เข้าชมคอนเสิร์ต Estate Romana
เทศกาลฤดูร้อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกรุงโรม มีการแสดงทุกอย่างตั้งแต่คอนเสิร์ต การเต้นรำ ไปจนถึงงานแสดงสินค้า และการเปิดพิพิธภัณฑ์ช่วงดึก บางแห่งเปิดให้เข้าชมฟรี
30. Piazza del Campidoglio
เป็นเพราะการออกแบบอย่างประณีตของ Michelangelo ทำให้จัตุรัสแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่สาธารณะที่สวยที่สุดของกรุงโรม รอบ ๆ ประกอบด้วยอาคารทั้งหมดสามอาคาร หนึ่งในนั้นเป็นที่ทำการเทศบาลและที่เหลือคือพิพิธภัณฑ์
หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เสาไตรยานุส เพราะก่อนหน้านั้นยอดบนสุดประดับด้วยรูปปั้นของจักรพรรดิไตรยานุส แต่พอถึงช่วงปลายศตวรรษที่ 16 สมเด็จพระสันตปาปา Sixtus V ก็แทนที่ด้วยรูปปั้นของเซนต์ปีเตอร์อย่างที่เห็นกันในทุกวันนี้
32. Garbatella
เดิมเคยเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าคนงานก่อสร้าง แต่ทุกวันนี้กลายเป็นย่านสุดโปรดของเหล่าคนทำภาพยนตร์ ด้วยอาคารสีแดงและสวนของชุมชน
33. Circo Massimo
ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเต็มไปด้วยฝูงชนโห่ร้องเชียร์นักแข่งรถม้าในสนามกีฬาที่ใหญ่โตของกรุงโรม แต่ในทุกวันนี้ชาวเมืองมาที่นี่เพื่อวิ่งออกกำลังและพักผ่อนหย่อนใจ
34. Colosseum, Palatino, และ Roman Forum; วันอาทิตย์แรกของเดือน
35. Vatican Museums; วันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน
36. พิพิธภัณฑ์ของรัฐทั้งหมด; วันอาทิตย์แรกของเดือน
37. เข้าพบสมเด็จพระสันตะปาปา; ทุกเช้าวันพุธ
38. ตลาด Porta Portese; ทุกเช้าวันอาทิตย์
39. Palazzo di Montecitorio; วันอาทิตย์แรกของเดือน
40. คอนเสิร์ตเมย์เดย์; 1 พฤษภาคม