ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขึ้นชื่อเรื่องอุณหภูมิที่อบอุ่นตลอดทั้งปี ทำให้ท้องทะเลในแถบนี้เป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยากมาใช้วันหยุดพักผ่อนตามเกาะต่าง ๆ
The Passport คัดเลือก 6 เกาะ ที่ได้ชื่อว่างดงามและโด่งดังที่สุดจากหลากหลายประเทศเพื่อนบ้าน ที่ควรค่าแก่การไปเยือนสักครั้งหนึ่ง
เกาะปาลาวัน ฟิลิปปินส์
ด้วยแนวชายฝั่งที่ทอดยาวกว่า 1,200 ไมล์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บรรดาชายหาดและหมู่เกาะต่าง ๆ ของฟิลิปปินส์จะเป็นสวรรค์สำหรับวันหยุดพักผ่อน ซึ่งเกาะปาลาวันที่ตั้งอยู่บนแนวชายฝั่งทางด้านตะวันตกของประเทศก็เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตตลอดกาล มีชายหาดให้เอนหลังผ่อนคลายรับแสงแดดและว่ายน้ำได้ตลอดทั้งวัน มีแม่น้ำกาบายูกัน ซึ่งเป็นแม่น้ำในถ้ำที่ยาวที่สุดในโลกให้นักท่องเที่ยวได้พายเรือเข้าชมความมหัศจรรย์ด้านใน และที่สำคัญคืออาหารและเบียร์ท้องถิ่นที่เติมเต็มวันหยุดพักผ่อนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
หาดทรายขาวบริสุทธิ์และน้ำทะเลใสดุจคริสตัลของเกาะรงสามารถไปสัมผัสได้ง่าย ๆ เพียงนั่งเรือเร็วจากสีหนุวิลล์ โดยใช้เวลาไม่เกิน 45 นาที ธรรมชาติแสนสมบูรณ์แบบบนเกาะทรอปิคอลแห่งนี้จะพาให้ผู้มาเยือนหลุดไปอยู่อีกโลกใบหนึ่ง เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าทึบ มีถนนเพียงไม่กี่สาย และมีข้อจำกัดด้านอินเตอร์เน็ต จึงทำให้นักท่องเที่ยวมีเวลาอยู่กับตัวเองและซึมซับกับบรรยากาศรอบ ๆ มากขึ้น และกิจกรรมบนเกาะก็จะออกแนวแอดเวนเจอร์และอยู่กลางแจ้งเสียส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นซิปไลน์กลางป่า เทรกกิ้ง ดำน้ำ ปีนหน้าผา และพายเรือคายัค แต่เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เกาะแห่งนี้ก็จะเริ่มมีสีสันขึ้นมาด้วยปาร์ตี้ตามผับและบาร์ของคนท้องถิ่น
หากซาปาเป็นอัญมณีแห่งเวียดนามเหนือ เกาะฟูโกว๊กก็เป็นอัญมณีแห่งเวียดนามใต้ได้อย่างไม่น้อยหน้ากัน ทั่วทั้งเกาะมีชายหาดที่น่าไปเยือนมากกว่า 20 แห่ง ซึ่งที่ลองบีช ทางด้านตะวันตกของเกาะเป็นจุดที่เหมาะที่สุดสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกดิน อีกจุดที่พลาดไม่ได้คือ หมู่บ้าน Ham Ninh ของชาวประมง ที่เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้เพลินตาไปกับวิถีชีวิตประจำวัน และเพลินลิ้นไปกับอาหารประจำท้องถิ่นของจริง นอกจากนั้นบนเกาะยังมีพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางตอนเหนือของเกาะ ที่สามารถไปตั้งแคมป์ ท่ามกลางบรรยากาศป่าดิบเขาซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด
หนึ่งในกิจกรรมที่ต้องอยู่ลิสต์เมื่อไปเยือนเกาะลอมบอกคือ การเดินป่าเป็นเวลาสองวันสองคืนที่ภูเขาไฟรินจานีเพื่อขึ้นไปชมวิวด้านบนสุด เพราะจากด้านบนนี้คุณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่น่าตื่นตะลึงเกาะลอมบอก และยังมองไปได้ไกลที่สุดถึงยอดเขาที่อยู่บนเกาะบาหลีเลยทีเดียว แต่ถ้าคุณไม่ใช่สายภูเขา แนะนำให้เช่าเรือแล้วไปทัวร์ชมเกาะและดำน้ำตื้นชมแนวปะการังรอบ ๆ
ถ้าหากเต็มอิ่มกับบรรยากาศของเมืองมรดกโลกแห่งปีนังแล้ว และยังมีเวลาเหลือ ๆ แนะนำให้รีบจองตั๋วขึ้นเฟอร์รี่แล้วมุ่งหน้าไปยังเกาะลังกาวี เกาะที่โด่งดังที่สุดของประเทศมาเลเซียที่อัดแน่นไปด้วยชายหาด ผืนป่าดิบชื้น น้ำตก และวัฒนธรรมท้องถิ่นอันมีเสน่ห์ ซึ่งหนึ่งในไฮไลต์ประจำเกาะนั้นอยู่ที่สะพานลังกาวีสกาย บนยอดเขาภูเลา ความสูงระดับ 2,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งการเดินทางไปยังสะพานแห่งนี้ต้องนั่งเคเบิลคาร์ ที่จะให้คุณได้ชื่นชมวิวรอบทิศทางจากมุมสูงเป็นเวลา 15 นาทีเต็ม และหลังจากห้าโมงเย็นเป็นต้นไปก็เตรียมท้องไปชิมอาหารประจำท้องถิ่นที่ไนท์มาร์เก็ตหลากหลายจุดทั่วเกาะ ที่จะเปิดสลับกันไปในแต่ละวัน
เป็นทะเลเพื่อนบ้านที่ไปเที่ยวได้ง่าย ๆ สามารถทำเป็นวันเดย์ทริปได้ด้วย แต่แนะนำให้จองทัวร์ไปล่วงหน้าเพื่อความสะดวกสบาย โดยเริ่มต้นจากท่าเรือจังหวัดระนอง ใช้เวลานั่งเรือข้ามฟากไม่เกินครึ่งชั่วโมง เท้าของเราก็จะก้าวเข้าสู่ท่าเรือของเกาะสอง หรือ วิคตอเรียพ้อยท์ ซึ่งเป็นบริเวณแหลมที่อยู่ปลายสุดของประเทศเมียนมา เพื่อเปลี่ยนเรือแล้วมุ่งหน้าไปยังเกาะนาวโอพี ที่รอต้อนรับอย่างตื่นตาตื่นใจด้วยน้ำทะเลสีฟ้าสดใสระยิบระยับ กับหาดทรายขาวละเอียดราวกับผงแป้ง จุดเด่นนอกเหนือจากนี้คือจุดว่ายน้ำชมปะการังที่อยู่รอบ ๆ เช่น บริเวณเกาะเดอะเลตเตอร์ แหลมดอกไม้ และอ่าวผักกาด
The Passport คัดเลือก 6 เกาะ ที่ได้ชื่อว่างดงามและโด่งดังที่สุดจากหลากหลายประเทศเพื่อนบ้าน ที่ควรค่าแก่การไปเยือนสักครั้งหนึ่ง
เกาะปาลาวัน ฟิลิปปินส์
ด้วยแนวชายฝั่งที่ทอดยาวกว่า 1,200 ไมล์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บรรดาชายหาดและหมู่เกาะต่าง ๆ ของฟิลิปปินส์จะเป็นสวรรค์สำหรับวันหยุดพักผ่อน ซึ่งเกาะปาลาวันที่ตั้งอยู่บนแนวชายฝั่งทางด้านตะวันตกของประเทศก็เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตตลอดกาล มีชายหาดให้เอนหลังผ่อนคลายรับแสงแดดและว่ายน้ำได้ตลอดทั้งวัน มีแม่น้ำกาบายูกัน ซึ่งเป็นแม่น้ำในถ้ำที่ยาวที่สุดในโลกให้นักท่องเที่ยวได้พายเรือเข้าชมความมหัศจรรย์ด้านใน และที่สำคัญคืออาหารและเบียร์ท้องถิ่นที่เติมเต็มวันหยุดพักผ่อนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
หาดทรายขาวบริสุทธิ์และน้ำทะเลใสดุจคริสตัลของเกาะรงสามารถไปสัมผัสได้ง่าย ๆ เพียงนั่งเรือเร็วจากสีหนุวิลล์ โดยใช้เวลาไม่เกิน 45 นาที ธรรมชาติแสนสมบูรณ์แบบบนเกาะทรอปิคอลแห่งนี้จะพาให้ผู้มาเยือนหลุดไปอยู่อีกโลกใบหนึ่ง เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าทึบ มีถนนเพียงไม่กี่สาย และมีข้อจำกัดด้านอินเตอร์เน็ต จึงทำให้นักท่องเที่ยวมีเวลาอยู่กับตัวเองและซึมซับกับบรรยากาศรอบ ๆ มากขึ้น และกิจกรรมบนเกาะก็จะออกแนวแอดเวนเจอร์และอยู่กลางแจ้งเสียส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นซิปไลน์กลางป่า เทรกกิ้ง ดำน้ำ ปีนหน้าผา และพายเรือคายัค แต่เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เกาะแห่งนี้ก็จะเริ่มมีสีสันขึ้นมาด้วยปาร์ตี้ตามผับและบาร์ของคนท้องถิ่น
หากซาปาเป็นอัญมณีแห่งเวียดนามเหนือ เกาะฟูโกว๊กก็เป็นอัญมณีแห่งเวียดนามใต้ได้อย่างไม่น้อยหน้ากัน ทั่วทั้งเกาะมีชายหาดที่น่าไปเยือนมากกว่า 20 แห่ง ซึ่งที่ลองบีช ทางด้านตะวันตกของเกาะเป็นจุดที่เหมาะที่สุดสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกดิน อีกจุดที่พลาดไม่ได้คือ หมู่บ้าน Ham Ninh ของชาวประมง ที่เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้เพลินตาไปกับวิถีชีวิตประจำวัน และเพลินลิ้นไปกับอาหารประจำท้องถิ่นของจริง นอกจากนั้นบนเกาะยังมีพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางตอนเหนือของเกาะ ที่สามารถไปตั้งแคมป์ ท่ามกลางบรรยากาศป่าดิบเขาซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด
หนึ่งในกิจกรรมที่ต้องอยู่ลิสต์เมื่อไปเยือนเกาะลอมบอกคือ การเดินป่าเป็นเวลาสองวันสองคืนที่ภูเขาไฟรินจานีเพื่อขึ้นไปชมวิวด้านบนสุด เพราะจากด้านบนนี้คุณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่น่าตื่นตะลึงเกาะลอมบอก และยังมองไปได้ไกลที่สุดถึงยอดเขาที่อยู่บนเกาะบาหลีเลยทีเดียว แต่ถ้าคุณไม่ใช่สายภูเขา แนะนำให้เช่าเรือแล้วไปทัวร์ชมเกาะและดำน้ำตื้นชมแนวปะการังรอบ ๆ
ถ้าหากเต็มอิ่มกับบรรยากาศของเมืองมรดกโลกแห่งปีนังแล้ว และยังมีเวลาเหลือ ๆ แนะนำให้รีบจองตั๋วขึ้นเฟอร์รี่แล้วมุ่งหน้าไปยังเกาะลังกาวี เกาะที่โด่งดังที่สุดของประเทศมาเลเซียที่อัดแน่นไปด้วยชายหาด ผืนป่าดิบชื้น น้ำตก และวัฒนธรรมท้องถิ่นอันมีเสน่ห์ ซึ่งหนึ่งในไฮไลต์ประจำเกาะนั้นอยู่ที่สะพานลังกาวีสกาย บนยอดเขาภูเลา ความสูงระดับ 2,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งการเดินทางไปยังสะพานแห่งนี้ต้องนั่งเคเบิลคาร์ ที่จะให้คุณได้ชื่นชมวิวรอบทิศทางจากมุมสูงเป็นเวลา 15 นาทีเต็ม และหลังจากห้าโมงเย็นเป็นต้นไปก็เตรียมท้องไปชิมอาหารประจำท้องถิ่นที่ไนท์มาร์เก็ตหลากหลายจุดทั่วเกาะ ที่จะเปิดสลับกันไปในแต่ละวัน
เป็นทะเลเพื่อนบ้านที่ไปเที่ยวได้ง่าย ๆ สามารถทำเป็นวันเดย์ทริปได้ด้วย แต่แนะนำให้จองทัวร์ไปล่วงหน้าเพื่อความสะดวกสบาย โดยเริ่มต้นจากท่าเรือจังหวัดระนอง ใช้เวลานั่งเรือข้ามฟากไม่เกินครึ่งชั่วโมง เท้าของเราก็จะก้าวเข้าสู่ท่าเรือของเกาะสอง หรือ วิคตอเรียพ้อยท์ ซึ่งเป็นบริเวณแหลมที่อยู่ปลายสุดของประเทศเมียนมา เพื่อเปลี่ยนเรือแล้วมุ่งหน้าไปยังเกาะนาวโอพี ที่รอต้อนรับอย่างตื่นตาตื่นใจด้วยน้ำทะเลสีฟ้าสดใสระยิบระยับ กับหาดทรายขาวละเอียดราวกับผงแป้ง จุดเด่นนอกเหนือจากนี้คือจุดว่ายน้ำชมปะการังที่อยู่รอบ ๆ เช่น บริเวณเกาะเดอะเลตเตอร์ แหลมดอกไม้ และอ่าวผักกาด
