เมื่อ 53 ปีที่แล้วภาพยนตร์อมตะนิรันดร์กาลอย่าง The Sound of Music ทำให้คนรู้จักซาลซ์บูร์ก (Salzburg) ผมอุ่นเครื่องก่อนมาถึงออสเตรีย เปิดชมภาพยนตร์เรื่องนี้อีกครั้งบนเครื่องบินจากกรุงเทพฯ สู่เวียนนา ฉากที่ Maria ซึ่งรับบทบาท โดย Julie Andrew พาเด็กๆในตระกูล Trapp ร้องเพลงและเต้นไปรอบๆ น้ำพุปิกาซัสที่ด้านหน้าสวนของ Marbel Hall ในบริเวณของ Mirabell Palace ปรากฎอยู่เบื้องหน้า
ทุกวันนี้ก็ยังมีนักท่องเที่ยว ที่หลากหลายกลุ่มมาจะเดินวนรอบน้ำพุ และมาจบตรงบันไดแห่งยูนิคอนนี้ โดยฮัมเพลง Do-Re-Mi ยืนหันหลังชี้นิ้วขึ้นฟ้า และอีกมือจับศีรษะ โพสท่าถ่ายรูปแบบที่ จูลี่ แอนดรูว์ แสดงไว้ในตอนจบของบทเพลงให้ได้เห็นอยู่เสมอ ผู้คนส่วนหนึ่งตกหลุมรักในทัศนียภาพของเมืองซาลซ์บูร์ก และสถานที่ต่างๆ ที่ปรากฎในเรื่อง และอยากหาโอกาสมาเห็นเมืองที่แสนโรแมนติกนี้ด้วยตา และอีกจำนวนมากอยากมาที่เมืองซาลซ์บูร์กเพื่อความงามของเทือกเขาที่มีชีวิตชีวา และเมืองมรดกจากเจ้าชายสังฆราชา (Prince Archbishop) ที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูจากการค้าเกลือ และให้ชื่อที่มาของเมืองนี้ ที่เนรมิตรซาล์ซบูร์ก ด้วยสถาปัตยกรรมแบบอิตาลี จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า “โรมทางตอนเหนือ” ปัจจุบันย่านเมืองเก่านี้ยังได้รับการคุ้มครองให้เป็นเมืองมรดกโลกจากยูเนสโก บนภูเขากลางเมืองคือที่ตั้งของป้อมปราการ Hohensalzburg ที่ขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นปราการที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ที่น่าชมด้วยการตกแต่งภายในที่ยังคงหลงเหลือความงามจากอดีต ที่มีพิพิธภัณฑ์จัดแสดง รวมไปถึงการเป็นจุดชมทิวทัศน์ของเมืองแบบพานอรามา ซาลซ์บูร์กเป็นที่รู้จักกันดีอีกว่าเป็นเมืองบ้านเกิดของคีตกวีชื่อดังอย่าง โมซาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) โดยผลงานเพลงกว่า 350 บทเพลงของเขาก็ได้รับการประพันธ์ในระหว่างที่เขาอยู่ที่นี่ ซึ่งบ้านของโมซาร์ทบนถนน Getreidegasse ซึ่งตอนนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่ได้รับความสนใจจากผู้มาเยือนมากมาย เ่ช่นเดียวกับช็อกโกแลตโมซาร์ทของที่ระลึกอันเลื่องชื่อในความอร่อย ดนตรีของโมซาร์ทยังขับกล่อมและอยู่ในจังหวะชีวิตของผู้คนที่นี่อยู่เสมอ ซาลซ์บูร์กนี้มีกิจกรรมทางดนตรีมากมายที่น่าจะถูกใจสำหรับผู้ที่มีดนตรีกาลในหัวใจไม่ว่าจะเป็นดนตรีคลาสสิกหรือร่วมสมัย ทั้งดนตรีในสวนที่มีให้ชมฟรีๆ บรรเลงคอนเสิร์ตออเคสตร้า หรือคอนเสิร์ตที่บรรเลงเพลงโมซาร์ทในสถานที่สุดคลาสสิกอย่างเช่น Marble Hall ในพระราชวัง Mirabell หรือ Mozart Dinner Concert ในหนึ่งในโรงแรมเก่าแก่อย่าง St Peter Stiftskulinarium หรือแม้แต่บนป้อมปราการ Hohensalzburg นอกจากการเดินทอดน่องชอปปิงบนถนน Getreidegasse การชมเมืองซาลซ์บูร์กโดยเรือ Salzach Cruise ที่ลองไปตามแม่น้ำ Salzach เป็นกิจกรรมทางเลือกที่ดี อีกอย่างที่ทำให้ได้เห็นตึกรามบ้านช่อง และสถาปัตยกรรมที่งดงามของเมืองรวมทั้งทิวทัศน์ตลอดสองฝั่งน้ำที่มีชีวิตชีวาด้วยผู้คนที่มานั่งพักผ่อนคลายอาบแดด หรือบ้างก็ถีบจักรยานสัญจรไปมาสองฝากฝั่งน้ำ นอกตัวเมืองเก่าไปทางใต้ออกไปราว 20 นาที คือพระราชวังฤดูร้อน Schloss Hellbrunn ที่มีอายุกว่าสี่ศตวรรษในวันนี้ สร้างโดย เจ้าชายสังฆราชา Markus Sittikus พระราชวังนี้ไม่มีห้องบรรทม เพราะเป็นที่พักผ่อนอิริยาบทเฉพาะยามกลางวันเท่านั้น ในบรรดาการชมพระราชวังที่ใดๆ ในโลกนั้น คงไม่มีที่ใดสนุกสนานไปกว่าการได้มาที่นี่ โดยเฉพาะในส่วนของสวนน้ำพุ ยุคเรเนอซองก์ ที่เรียกว่า Trick Fountains ที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์และอารมณ์ขันของเจ้าชายสังฆราชากับน้ำพุจากยุคศตวรรษที่ 17 ที่ซ่อนความเซอร์ไพรส์ไว้มากมาย แต่จงเตรียมพร้อมรับความเปียกปอน จากกลไกของน้ำพุจากยุคอดีตที่ยังคงใช้งานได้อย่างน่ามหัศจรรย์
ทุกวันนี้ก็ยังมีนักท่องเที่ยว ที่หลากหลายกลุ่มมาจะเดินวนรอบน้ำพุ และมาจบตรงบันไดแห่งยูนิคอนนี้ โดยฮัมเพลง Do-Re-Mi ยืนหันหลังชี้นิ้วขึ้นฟ้า และอีกมือจับศีรษะ โพสท่าถ่ายรูปแบบที่ จูลี่ แอนดรูว์ แสดงไว้ในตอนจบของบทเพลงให้ได้เห็นอยู่เสมอ