อาตาคามา ดินแดนแห้งแล้งที่สุดในโลก

วิถีชีวิตมหัศจรรย์ในทะเลทรายที่แห้งแล้งที่สุด
ในแต่ละวันเมื่อพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าที่ Salar de Tara ทะเลสาบน้ำเค็มแห่งนี้ดาษดาไปด้วยนกฟลาเมงโก้นับพันตัวที่ยืนอวดเรียวขา เยื้องย่างผ่านผืนน้ำสีน้ำเงินยวง พวกมันเคลื่อนที่พร้อมกันราวกับเกลียวคลื่นสลับไปมา นอกจากฝูงฟลาเมงโกแล้ว ท่ามกลางสายลมที่พัดกระหน่ำริมฝั่งทะเลสาบน้ำเค็ม ฝูงลามากำลังเดินผ่านดินนุ่มสีเหลือง ดวงตาภายใต้ขนตายาว มองผ่านจมูกนุ่มปานกำมะหยี่ ย่ำย่างผ่านไปอย่างระแวดระวังในสรรพสิ่งความเคลื่อนไหวรอบตัว เทือกเขา Altiplanic อันร้อนแล้ง ที่มีเส้นทรอปิก ออฟ แคปริคอร์น (tropic of Capricorn) ผ่ากลางพื้นที่ชุ่มน้ำแห่งนี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ Reserva Nacional Los Flamencos สุดริมขอบตะวันออกของทะเลทรายอาตาคามา (Atacama) ดินแดนอันแห้งแล้งที่ตั้งอยู่บนชายแดนระหว่างโบลิเวีย และอาร์เจนตินา (แต่ในส่วนทะเลทรายอยู่ในการครอบครองของชิลี)

พื้นที่แถบนี้มีทั้งทะเลสาบถาวร และทะเลสาบที่เกิดขึ้นเฉพาะฤดูกาล ซึ่งขยายตัวไปทางตะวันตก แต่ขณะเดียวกันก็ได้ชื่อว่าเป็น ดินแดนที่แห้งแล้งที่สุดในโลก ไม่มีจุดใดที่รอดพ้นจากความหนาวเย็นอันผิดปกติของขั้วโลกใต้ แถมด้วยปริมาณน้ำฝนอันน้อยนิด อย่างไรก็ตาม ภายใต้รัศมีของทะเลทรายอันยิ่งใหญ่ไม่มีการบันทึกปริมาณน้ำฝนแต่อย่างใด ภูมิประเทศแตกระแหง มีแต่ฝุ่นปานประหนึ่งดินแดนนอกโลก ดูแล้วไม่น่าจะเหมาะแก่การดำรงชีพของพืชหรือสัตว์ใดๆเลย แต่กระนั้นก็ยังมีสิ่งมีชีวิตแอบซ่อนอยู่ทั่วทั้งทะเลทราย  ตัวลามาที่อาศัยอยู่รายรอบ Salar de Tara เป็นของพวกเลี้ยงสัตว์ที่คอยต้อนฝูงสัตว์ไปมาตามแต่ฤดูกาล ชนเผ่าเลี้ยงสัตว์ที่ว่า นี่คือ Atacamenos ซึ่งโดยมากเป็นลูกหลายอินเดียนแดงเผ่าเร่ร่อนที่มีมาก่อนยุคโคลัมบัส อพยพมาตั้งถิ่นฐานแถบนี้เมื่อราว 3,000 ปีมาแล้ว และอาศัยอยู่ตามโตรกผาที่มีลำธารไหลรินพาดผ่าน เพาะปลูกธัญพืชบนพื้นราบที่เพียรพยายามขุดขึ้น เลี้ยงพวกแพะ แกะ ลามา ท่ามกลางภูมิประเทศแสนพิเศษที่พวกเขาอาศัยอยู่
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการท่องเที่ยว
chile.travel atacama-desert 

You May Also Like