นักท่องเที่ยวชาวไทยที่อยากสัมผัสประสบการณ์เที่ยวชมภูเขาไฟ ส่วนมากมักมุ่งหน้าไปยังโบรโม ภูเขาไฟอันโด่งดังในอินโดนิเซีย หรือไม่ก็ไปญี่ปุ่น ที่พอจะมีภูเขาไฟให้ชมอยู่บ้าง แต่ดินแดนแห่งการท่องเที่ยวชมภูเขาไฟแบบจริงจัง ต้องข้ามไปอีกฟากโลกเลย นั่นคือ ประเทศนิคารากัว

 

แม้ว่าสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในนิคารากัว เมื่อสองปีที่แล้ว (2018) ดุเดือดรุนแรงมากจนมีผู้เสียชีวิตนับร้อยราย แต่เมื่อฝุ่นควันสงบลง แล้วมองความงดงามที่แท้จริง ประเทศแห่งนี้ก็นับเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักเที่ยวภูเขาไฟ เพราะสำหรับชาวนิคารากัว พวกเขาไม่เคยกังวล ว่าจะขาดแคลนภูเขาไฟ

นอกจากแหล่งท่องเที่ยวชมสถาปัตยกรรมโคโลเนียลตามเมืองใหญ่ หรือชายหาดสวยๆแล้ว จุดขายที่โดดเด่นของประเทศเล็กๆในอเมริกากลาง คือ ภูเขาไฟหลากหลายแห่งให้ไปเที่ยวชม ไม่ว่าจะเป็นภูเขาไฟเตี้ยม่อต้อที่มีแต่ขี้เถ้านุ่มๆคลุมแทบจะมิดทั้งลูก สามารถทำกิจกรรมแนวแอดเวนเจอร์ได้ทั้งการเดินขึ้นไปชมเฉยๆ หรือเล่นสไลเดอร์ลงมา

รวมทั้งยังมีภูเขาไฟสูงชะลูดชนิดที่ใครขึ้นไปถึงยอดได้ล่ะก็ มีหวังได้หายสาบสูญไปในก้อนเมฆ

ภูเขาไฟสูงที่สุดในนิคารากัว ต้องยกตำแหน่งแชมป์ให้ภูเขาไฟที่มีชื่อว่า ซาน คริสโตบัล (San Cristobal) ซึ่งเพิ่งประทุครั้งใหญ่เมื่อราว 6-7 ปีก่อน

แต่การปะทุของภูเขาไฟก็ไม่ได้แย่นัก เพราะมีการสร้างศูนย์นักท่องเที่ยวแห่งใหม่บริเวณเชิงภูเขาไฟ และเปิดโฮสเทลให้บริการ กลายเป็นการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวไปในตัว

นักเดินเขาที่กล้าหาญพอจะไต่ระดับความสูง 1,745 เมตร ขึ้นไปสู่ยอดเขากลิ่นกำมะถัน มักจะได้รางวัลตอบแทนเป็นทัศนียภาพสวยๆอันเป็นเอกลักษณ์ของปากปล่องภูเขาไฟ และภาพทิวทัศน์ตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก


ข้อมูลการท่องเที่ยว นิคารากัว
lonelyplanet.com/nicaragua

www.gov.uk/foreign-travel-advice/nicaragua