เดนมาร์ก ดินแดนประวัติศาสตร์ของชาว LGBTQI

พูดถึงประเทศเดนมาร์ก …
มีอะไรให้นึกถึงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์นม, ทีมฟุตบอล, แหล่งกำเนิดเลโก้, ตำนานนางเงือกน้อย Little Mermaid, นักประพันธ์ชื่อก้องโลก ‘ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน’, ปราสาทพระราชวังสุดวิจิตร, บ้านสีสวยริมคลอง, เมืองจักรยานระดับโลก, งานออกแบบเจ๋งๆ หรือแหล่งรวมอาหารนอร์ดิกยุคใหม่

• 

• 

• 

• 

แต่เรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าแหล่งท่องเที่ยว และไม่เป็นรองความโดดเด่นด้านอื่นๆเลย คือ เดนมาร์ก นับเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ของชาว LGBTQI อีกด้วย

LGBTQI ย่อมาจากความหลากหลายแห่งเพศในปัจจุบัน ได้แก่ L – Lesbian, G- Gay , B- Bisexual, T- Transgender/Transsexual (ข้ามเพศ), Q – Queer (เพศไร้กรอบตายตัว) และ I – Intersex (ภาวะเพศกำเนิดทั้ง 2 เพศ)

• 

• 

ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1989 เดนมาร์กเป็นประเทศแรกในโลกที่คนเพศเดียวกันจดทะเบียนสมรสกันได้ ณ เมืองหลวงโคเปนเฮเกน หรือ เมื่อไม่กี่ปีก่อน ภาพยนตร์เรื่อง The Danish Girl ที่ Eddie Redmayne รับบทเด่นจนเข้าชิงออสการ์นักแสดงนำชาย ก็เป็นเรื่องราวที่สร้างจากเหตุการณ์จริงของ Lili Elbe สตรีผู้กล้าที่แปลงเพศเป็นคนแรกๆของโลก ซึ่งตอกย้ำได้ดีว่า เดนมาร์กนั้น เป็นดินแดนหัวก้าวหน้ามายาวนาน และมีส่วนเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์สำคัญของชาว LGBTQI จริงๆ

• 

ถนนที่ในกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงซึ่งละลานไปด้วยถนนปูหินนั้น ยังเป็นที่ตั้งของเซ็นทรัลยอร์เนอท์ (Centralhjørnet) บาร์เกย์เก่าแก่ที่สุดในยุโรปที่เปิดบริการมาต้ังแต่ยุค 1950 โคเปนเฮเกนจึงเป็นหนึ่งในเมืองสำคัญที่เปิดรับความหลากหลายทางเพศมายาวนาน
ในเมืองมีบูติกโฮเทล มีที่พักแบบเป็นมิตรกับเกย์หลากหลายรูปแบบ และมีกิจกรรมมากมายตลอดปี นับเป็นจุดหมายท่องเที่ยวอันเป็นมิตรกับทุกเพศที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง

• 

ในปี 2021 เมืองหลวงของชาวเดนมาร์ก จะทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพ WorldPride ร่วมกับเมืองมัลโม อีกด้วย
แม้ว่าด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องงดกิจกรรมบางอย่างไป แต่โคเปนเฮเกน ยังเดินหน้าจัด World Pride 2021 ต่อไป ระหว่างวันที่ 12-22 สิงหาคม
รายละเอียด copenhagen2021.com/worldpride

• 

• 

•