หลังจากฤดูใบไม้เปลี่ยนสีหรือใบไม้ร่วงในเดือนพฤศจิกายนผ่านพ้นไป ประเทศญี่ปุ่นก็ก้าวเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเต็มตัว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่มีเทศกาลน่าสนใจเฉลิมฉลองทั่วทั้งประเทศตั้งแต่เหนือจรดใต้
#ThePassport
#PlanetSCB
#แลกเงินเรทดีอีซี่มาก นอกจากเตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปลุยหิมะญี่ปุ่นแล้ว อย่าลืมพกบัตร PLANET SCB บัตรคู่ใจนักเดินทางแห่งปี ที่ช่วยให้คุณสะดวกสบายในการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ เพราะไม่ต้องห่วงเรื่องการแลกเงิน ด้วยคุณสมบัติโดดเด่นที่สามารถแลกเงินสกุลต่างประเทศได้ถึง 13 สกุลเงินยอดนิยม รวมถึงสกุลเงินเยนของญี่ปุ่น
บัตร PLANET SCB สามารถแลกได้เรทดีเทียบเท่ากับร้านแลกเงินชั้นนำ จะเช็คเรท เติมเงินเข้าบัตร และแลกเงินได้แบบ real time ผ่าน SCB EASY App แค่มี wi-fi บัตรยังสามารถใช้จ่ายสุดคุ้มทั่วโลกทั้งการรูดใช้จ่าย หรือช้อปออนไลน์ได้สูงสุด 500,000 บาท/วัน โดยไม่ชาร์จค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน 2.5% ทุกสกุลเงิน จ่ายสะดวกสบายด้วยระบบ Paywave ในร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ VISA
สมัครง่าย ไม่ต้องรอผลอนุมัติ ไม่ต้องมีสลิปเงินเดือน แค่มีบัญชี SCB เท่านั้น สมัครได้เลยที่ SCB EASY APP
The passport ชวนคุณมารู้จัก “10 เมือง 10 เทศกาล” น่าเที่ยวในช่วงฤดูหนาวของญี่ปุ่น 1. ย่านรปปงหงิ โตเกียว (Roppongi,Tokyo)
ไฟประดับที่ถนนเคยากิซากะ ย่านรปปงหงิของกรุงโตเกียว
ที่นี่มีฉากหลังต้นไม้ติดไฟประดับอันสวยงาม คือ โตเกียวทาวน์เวอร์ สัญลักษณ์ของกรุงโตเกียวที่ยังคงความโรแมนติกได้ในทุกโอกาส นอกจากถนนเคยากิซากะแล้ว บริเวณที่เรียกว่า Tokyo Midtown ระยะไม่ห่างกันนัก ยังมีการจัดไฟประดับสุดอลังการด้วยหลอดไฟ LED หลายหมื่นดวง จำลองจักรวาลและดวงดาว ประกอบแสงสีเสียงให้ได้ชมกันอีกด้วย “Roppongi Hills Christmas Illumination” จัดขึ้นทุกปีในช่วงเทศกาลคริสต์มาส มีตลาดคริสต์มาสให้เลือกซื้อของกัน เป็นของขวัญในช่วงปลายปีด้วย 2.เมืองซับโปโร (Sapporo,Hokkaido)
เทศกาลแกะสลักหิมะที่ซับโปโร และเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งที่ซุซุกิโนะ
เทศกาลแกะสลักหิมะที่ซับโปโร เป็นเทศกาลหิมะที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮอกไกโดในช่วงฤดูหนาว จะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี เทศกาลหิมะเปรียบเสมือนงานแสดงศิลปะกลางแจ้งระดับโลก จากผลงานของคนหลายชาติ ซึ่งประเทศไทยเคยได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดแกะสลักหิมะจากเทศกาลนี้หลายต่อหลายครั้ง เราจะได้เห็นรูปปั้นของหิมะในรูปแบบต่างๆ สุดอลังการทั้งกลางวันและกลางคืน เมื่อเปิดไฟ Light up พร้อมการแสดงแสงสีเสียง ทุกปีมีคนเข้าร่วมชมงานเทศกาลนี้ราวสองล้านคน *นักท่องเที่ยวชาวไทย รู้จักเทศกาลนี้มากขึ้นจากภาพยนต์เรื่อง “แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว” ซึ่งมีเทศกาลหิมะเป็นส่วนหนึ่งในภาพยนต์เรื่องนี้
บริเวณไม่ไกลกันยังมีงานเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งที่ซุซุกิโนะอีกด้วย ซึ่งจัดในช่วงเวลาเดียวกันกับเทศกาลหิมะ เราสามารถเดินเที่ยวชมงานได้ทั้งสองเทศกาล ภายในงานมีร้านค้าต่างๆ มาออกบูธ ทั้งอาหารท้องถิ่นและสินค้าของที่ระลึกประจำเทศกาลให้ซื้อกลับบ้านเป็นของฝากกันได้
ซุซุกิโนะ จัดเป็นย่านท่องราตรีอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว ร้านอาหารที่เปิดดึกเกือบทั้งคืนและถนนชอปปิงที่มีสินค้าครบครัน 3. .เมืองโอตารุ (Otaru,Hokkaido)
เทศกาลแสงเทียนแห่งโอตารุ (Otaru Snow Light Path Festival)
เมืองโอตารุ ฤดูกาลที่หิมะตกหนักเป็นช่วงที่จัดเทศกาลแสงเทียน มีแสงเทียนส่องประกายระยิบระยับตลอดริมคลองโอตารุ บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก เรือนำเที่ยวที่ล่องในคลองพาชมแสงเทียนตลอดทางและรูปปั้นตุ๊กตาหิมะเรียงรายตลอดทางตั้งแต่สถานีรถไฟโอตารุจนถึงคลองโอตารุ เดิมทีเมืองโอตารุเป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับขนส่งสินค้าเข้าสู่ฮอกไกโด และบริเวณนี้ได้ใช้เป็นโกดังขนถ่ายสินค้า จึงยังคงสภาพโกดังเก่า อาคารประวัติศาสตร์หลายหลังไว้ เพียงแต่ปรับเปลี่ยนให้เป็นร้านอาหารและร้านค้า
เทศกาลแสงเทียนแห่งโอตารุ จัดขึ้นช่วงเดียวกับเทศกาลหิมะซับโปโร สามารถเดินทางมาจากซับโปโรได้ภายในหนึ่งชั่วโมง 4.เมืองจิโตเสะ (Chitose,Hokkaido)
เทศกาลน้ำแข็งสุดอลังการที่ริมทะเลสาบชิโคะสึ (Lake Shikotsu Ice Festival)
เทศกาลน้ำแข็งที่สวยงามมาก แม้เป็นน้ำแข็งที่เกิดจากการสร้างของมนุษย์ก็ตาม ศิลปะของน้ำแข็งที่ทะเลสาบชิโคะสึ ต่างไปจากเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งซุซุกิโนะ ที่เป็นการแกะสลักน้ำแข็งก้อน แต่ที่นี่เป็นน้ำแข็งที่เกิดขึ้นจากการฉีดน้ำผสมกับความเย็นจัดทำให้น้ำแข็งก่อตัวสูง เป็นลักษณะพิเศษ โดยเฉพาะยามค่ำคืนเมื่อเปิดไฟประดับ น้ำแข็งเหล่านั้นดูเหมือนเหล่า Monsters ที่กำลังเต้นรำท่ามกลางความหนาวเย็น
ที่พักรอบทะเลสาบชิโคะสึ มีน้ำแร่หรืออนเซนธรรมชาติให้แช่ผ่อนคลายในฤดูหนาวด้วย เราสามารถพักที่นี่สักหนึ่งคืน เพื่อชมธรรมชาติรอบทะเลสาบชิโคะสึก่อนเดินทางไปเมืองอื่น 5. เมืองซาโอ (Zao,Yamagata)
ปีศาจน้ำแข็ง (Ice Monster หรือ Snow Monster)
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เกิดจากเกล็ดน้ำแข็งที่เกาะตามต้นไม้สูง จนเกิดเป็นรูปร่างแปลกประหลาดคล้ายกับมนุษย์หิมะ หลายคนจึงเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า Ice Monster หรือ Snow Monster อยู่ที่เมืองซาโอ จังหวัดยะมะกะตะ/ยามากาตะ ซึ่งจะเริ่มเข้าชมได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม ถึง เดือนมีนาคม ช่วงเวลาพิเศษจัดไฟประดับยามค่ำคืน 1 ปี จัดให้เข้าชมประมาณ 30 กว่าวันเท่านั้น (ปี 2019-2020 จัดขึ้นเป็นระยะเวลาทั้งหมด 47 วัน) การประดับไฟยามค่ำคืนของที่นี่ได้รับการลงบันทึกให้เป็นสถานที่ชมวิวยามค่ำคืนที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นด้วย 6. เมืองโอบานาซาวะ (Obanazawa,Yamagata)
Ginzan Onsen หมู่บ้านออนเซ็นกลางหุบเขา สมบัติล้ำค่าจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
สถาปัตยกรรมไม้ที่เห็นได้จากบ้านเรือนเก่าแก่ของที่นี่ เรียงรายไปตลอดทางสองฝั่งที่อยู่ในหุบเขา มีทั้งร้านค้าท้องถิ่น ร้านอาหารและเรียวกังหรือที่พักสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมออนเซน ซึ่งมีทั้งกลางแจ้งและในร่มให้ผ่อนคลาย หมู่บ้านแห่งนี้สวยงามทุกฤดู ฤดูร้อนถูกโอบล้อมด้วยต้นไม้เขียวขจี ลำธารสายน้ำไหลผ่านจากบนเขาสู่หมู่บ้าน ให้ความเย็นสบาย ฤดูหนาวปกคลุมด้วยหิมะสีขาว เมื่อหมู่บ้านเปิดไฟยามค่ำคืน ทำให้หมู่บ้านนี้เสมือนลอยออกมาจากภาพวาด Ginzan Onsen เป็นหนึ่งในสถานที่ปรากฎในภาพยนต์เรื่อง “โอชิน” ด้วย 7.เกียวโต (Kyoto)
ศาลเจ้าคิฟุเนะ ศาลเจ้าแห่งเทพเจ้าของสายน้ำ
ศาลเจ้าแห่งนี้เชื่อว่าเป็นพื้นที่ที่อุณหภูมิต่ำสุดในเกียวโต ทำให้ช่วงฤดูหนาวมีหิมะตกปกคลุม และอุณหภูมิหนาวเย็นกว่าพื้นที่อื่นๆในจังหวัดเกียวโต และในฤดูหนาวนี้เองที่จะมีการประดับไฟที่ศาลเจ้าเป็นพิเศษ สามารถชมได้เฉพาะวันที่มีหิมะตก ซึ่งจะประกาศเปิดไฟประดับศาลเจ้าแบบวันต่อวัน กล่าวได้ว่า ใครที่มีโอกาสได้ชมไฟประดับยามค่ำคืนที่หิมะตกของศาลเจ้าแห่งนี้ ถือเป็นความโชคดีอีกอย่างหนึ่ง 8.เมืองจิจิบุ (Chichibu,Saitama)
“Misotsuchi no Tsurara” เทศกาลน้ำแข็งย้อยสุดอลังการทั้งสามแห่งในเมืองจิจิบุ
บริเวณนี้มีอากาศหนาวเย็นและเป็นพื้นที่ที่หิมะตกน้อย ความเย็นจึงทำให้น้ำแถวนี้เกิดกลายเป็นน้ำแข็งแล้วเกาะตามเขา จึงกลายเป็นศิลปะอันสวยงาม ตอนค่ำเปิดไฟประดับน้ำแข็งย้อย ทั้งสามแห่ง Ahigakubo no Hyochu, Misotsuchi no Hyochu,และ Onouchi no Hyochu อยู่ใกล้ต้นกำเนิดแม่น้ำอาราคาวะที่เมืองจิจิบุในจังหวัดไซตะมะ สามารถชมได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เท่านั้น 9. เมืองโกเบ (Kobe,Hyoko)
เทศกาลไฟประดับสวยงาม “Kobe Luminarie”
เทศกาลนี้เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวเขตฮันชินเมื่อปี 1995 (Great Hanshin Earthquake) เป็นการสร้างขวัญ กำลังใจ สร้างสรรให้สิ่งที่ดีๆ กลับมาสู่พื้นที่ประสบภัย งานเทศกาลไฟประดับสวยงาม “Kobe Luminarie” จะจัดขึ้นก่อนวันคริสต์มาส เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนธันวาคมเท่านั้น 10. หมู่บ้านมรดกโลกโกคายามะ (Gokayama) จังหวัดโทยะมะ
หมู่บ้านโบราณของญี่ปุ่นเป็นรูปทรงพนมมือ มีอายุกว่า 100 ปี รูปแบบโครงสร้างของบ้านที่ช่วยไม่ให้หิมะทับทมหลังคา ในทุกๆปีเดือนมีนาคม หมู่บ้านแห่งนี้จะเปิดไฟประดับหมู่บ้าน ความสวยงามนั้นไม่ต่างไปจากหมู่บ้านชิราคาวาโกเลย เพื่อลดความหนาแน่นของนักท่องเที่ยวที่ต่างมุ่งหน้าไปแต่หมู่บ้านชิราคาวาโก ลองเปลี่ยนเป้าหมายเป็นโกคายามะที่อยู่ไม่ไกลกัน เราอาจจะสัมผัสได้ถึงธรรมชาติความสวยงามและวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น ซึ่งที่นี่เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านโบราณดีกรีมรดกโลกเฉกเช่นเดียวกับหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโก ญี่ปุ่นเป็นจุดหมายฮิตติดลมบนของคนไทย การใช้บัตร PLANET SCB ยังทำให้มีลุ้นสิทธิชิงรางวัลเที่ยวญี่ปุ่นฟรีอีกด้วย ! นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกในการจับจ่าย แถมตัดปัญหาเรื่องการแลกเงิน และไม่ต้องเสียเวลากดมือถือแปลงค่าเงินเมื่อเรทเงินเปลี่ยนแปลง
ซึ่งวันนี้กล่าวได้ว่า ของดี แบบฟรีๆ มีจริงในโลก!
เพราะใบนี้ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี ไม่ต้องจ่ายสักบาทเดียว แต่รับสิทธิ์เข้า Miracle Lounge ฟรี เพียงลงทะเบียนก่อนแลกเงินและแลกเงินแค่ 5,000บ.ขึ้นไปต่อครั้งเท่านั้น แลกก่อนมีสิทธิ์ก่อนไปเลย 1,000 คนแรกในแต่ละเดือน
แถมรับคืนรัวๆอีก สูงสุด 1,000 บาท เมื่อใช้จ่ายสะสมเป็นสกุลเงินต่างประเทศ (รูดใช้จ่ายและช้อปออนไลน์ได้ทั้งนั้น) งานนี้ลูกค้ามีแต่คุ้ม เพราะไม่เสียอะไร มีแต่ได้เงินคืน
นอกจากนี้ยัง ลุ้นบินฟรีไปญี่ปุ่น พร้อม Pocket Money อีก 1 รางวัล มูลค่า150,000 บาท สำหรับผู้มียอดใช้จ่ายตลอดแคมเปญสูงสุด
ทั้ง 3 โปรนี้ เริ่มตั้งแต่ 3 ต.ค. 62 – 31 ม.ค. 63
ใครมีบัตรแล้ว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมแล้วรีบลงทะเบียนเลยที่นี่ https://link.scb/2psp7Sr (ลงทะเบียนรับ 3 สิทธิ์ในครั้งเดียว) บัตร PLANET SCB บัตรสุดคุ้มแห่งปีสำหรับนักเดินทางทุกคน
– สมัครฟรี!!! ทั้งค่าธรรมเนียมรายปี และออกบัตรใหม่ ไม่เสียอะไรสักบาท แม้แต่ค่าส่งบัตรไปที่บ้าน
– กด ATM ที่เมืองนอก ฟรีค่าธรรมเนียม 100 บาท (เฉพาะฝั่ง SCB) ถึง 31 ธ.ค. 62
– แลกเงินได้ทุกที่ผ่านแอป ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปแลก ไม่ต้องกังวลเงินหมด และเรทเปลี่ยน
– แลกเงินเรทสุดพิเศษเก็บไว้ในบัตรก่อนได้ เมื่อทริปมาถึงก็ใช้บัตรรูดใช้จ่ายได้เลย ไม่ต้องถือเงินสด ปลอดภัยกว่า
– ช้อปออนไลน์ หรือ กด ATM ที่ต่างประเทศ ไม่ชาร์จ 2.5% แถมได้เรทพิเศษขั้นเทพ
– กำหนดเงินใน Wallet ได้ ไม่เสี่ยงถูก Hack
– รูดใช้จ่าย ได้สูงสุด 500,000บาท / วัน
– ดูแลความปลอดภัยได้ด้วยแอป SCB EASY
– พิมพ์ชื่อทุกใบ ใช้จ่ายสบายใจกว่า
สมัครฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมออกบัตร 200 บาท ถึงสิ้นปีนี้
สมัครผ่านแอป SCB EASY คลิกที่นี่ https://link.scb/2Pb9JGy
หรือ สมัครได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา ทั่วประเทศ
#PlanetSCB
#บัตรของคุณเรทของคุณ
#แลกเงินเรทดีอีซี่มาก
#ThePassport
#PlanetSCB
#แลกเงินเรทดีอีซี่มาก
บัตร PLANET SCB สามารถแลกได้เรทดีเทียบเท่ากับร้านแลกเงินชั้นนำ จะเช็คเรท เติมเงินเข้าบัตร และแลกเงินได้แบบ real time ผ่าน SCB EASY App แค่มี wi-fi บัตรยังสามารถใช้จ่ายสุดคุ้มทั่วโลกทั้งการรูดใช้จ่าย หรือช้อปออนไลน์ได้สูงสุด 500,000 บาท/วัน โดยไม่ชาร์จค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน 2.5% ทุกสกุลเงิน จ่ายสะดวกสบายด้วยระบบ Paywave ในร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ VISA
สมัครง่าย ไม่ต้องรอผลอนุมัติ ไม่ต้องมีสลิปเงินเดือน แค่มีบัญชี SCB เท่านั้น สมัครได้เลยที่ SCB EASY APP
The passport ชวนคุณมารู้จัก “10 เมือง 10 เทศกาล” น่าเที่ยวในช่วงฤดูหนาวของญี่ปุ่น
ไฟประดับที่ถนนเคยากิซากะ ย่านรปปงหงิของกรุงโตเกียว
ที่นี่มีฉากหลังต้นไม้ติดไฟประดับอันสวยงาม คือ โตเกียวทาวน์เวอร์ สัญลักษณ์ของกรุงโตเกียวที่ยังคงความโรแมนติกได้ในทุกโอกาส นอกจากถนนเคยากิซากะแล้ว บริเวณที่เรียกว่า Tokyo Midtown ระยะไม่ห่างกันนัก ยังมีการจัดไฟประดับสุดอลังการด้วยหลอดไฟ LED หลายหมื่นดวง จำลองจักรวาลและดวงดาว ประกอบแสงสีเสียงให้ได้ชมกันอีกด้วย
เทศกาลแกะสลักหิมะที่ซับโปโร และเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งที่ซุซุกิโนะ
เทศกาลแกะสลักหิมะที่ซับโปโร เป็นเทศกาลหิมะที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮอกไกโดในช่วงฤดูหนาว จะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี เทศกาลหิมะเปรียบเสมือนงานแสดงศิลปะกลางแจ้งระดับโลก จากผลงานของคนหลายชาติ ซึ่งประเทศไทยเคยได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดแกะสลักหิมะจากเทศกาลนี้หลายต่อหลายครั้ง เราจะได้เห็นรูปปั้นของหิมะในรูปแบบต่างๆ สุดอลังการทั้งกลางวันและกลางคืน เมื่อเปิดไฟ Light up พร้อมการแสดงแสงสีเสียง ทุกปีมีคนเข้าร่วมชมงานเทศกาลนี้ราวสองล้านคน
บริเวณไม่ไกลกันยังมีงานเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งที่ซุซุกิโนะอีกด้วย ซึ่งจัดในช่วงเวลาเดียวกันกับเทศกาลหิมะ เราสามารถเดินเที่ยวชมงานได้ทั้งสองเทศกาล ภายในงานมีร้านค้าต่างๆ มาออกบูธ ทั้งอาหารท้องถิ่นและสินค้าของที่ระลึกประจำเทศกาลให้ซื้อกลับบ้านเป็นของฝากกันได้
ซุซุกิโนะ จัดเป็นย่านท่องราตรีอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว ร้านอาหารที่เปิดดึกเกือบทั้งคืนและถนนชอปปิงที่มีสินค้าครบครัน
เทศกาลแสงเทียนแห่งโอตารุ (Otaru Snow Light Path Festival)
เมืองโอตารุ ฤดูกาลที่หิมะตกหนักเป็นช่วงที่จัดเทศกาลแสงเทียน มีแสงเทียนส่องประกายระยิบระยับตลอดริมคลองโอตารุ บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก เรือนำเที่ยวที่ล่องในคลองพาชมแสงเทียนตลอดทางและรูปปั้นตุ๊กตาหิมะเรียงรายตลอดทางตั้งแต่สถานีรถไฟโอตารุจนถึงคลองโอตารุ
เทศกาลแสงเทียนแห่งโอตารุ จัดขึ้นช่วงเดียวกับเทศกาลหิมะซับโปโร สามารถเดินทางมาจากซับโปโรได้ภายในหนึ่งชั่วโมง
เทศกาลน้ำแข็งสุดอลังการที่ริมทะเลสาบชิโคะสึ (Lake Shikotsu Ice Festival)
เทศกาลน้ำแข็งที่สวยงามมาก แม้เป็นน้ำแข็งที่เกิดจากการสร้างของมนุษย์ก็ตาม ศิลปะของน้ำแข็งที่ทะเลสาบชิโคะสึ ต่างไปจากเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งซุซุกิโนะ ที่เป็นการแกะสลักน้ำแข็งก้อน แต่ที่นี่เป็นน้ำแข็งที่เกิดขึ้นจากการฉีดน้ำผสมกับความเย็นจัดทำให้น้ำแข็งก่อตัวสูง เป็นลักษณะพิเศษ โดยเฉพาะยามค่ำคืนเมื่อเปิดไฟประดับ น้ำแข็งเหล่านั้นดูเหมือนเหล่า Monsters ที่กำลังเต้นรำท่ามกลางความหนาวเย็น
ที่พักรอบทะเลสาบชิโคะสึ มีน้ำแร่หรืออนเซนธรรมชาติให้แช่ผ่อนคลายในฤดูหนาวด้วย เราสามารถพักที่นี่สักหนึ่งคืน เพื่อชมธรรมชาติรอบทะเลสาบชิโคะสึก่อนเดินทางไปเมืองอื่น
ปีศาจน้ำแข็ง (Ice Monster หรือ Snow Monster)
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เกิดจากเกล็ดน้ำแข็งที่เกาะตามต้นไม้สูง จนเกิดเป็นรูปร่างแปลกประหลาดคล้ายกับมนุษย์หิมะ หลายคนจึงเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า Ice Monster หรือ Snow Monster อยู่ที่เมืองซาโอ จังหวัดยะมะกะตะ/ยามากาตะ ซึ่งจะเริ่มเข้าชมได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม ถึง เดือนมีนาคม
Ginzan Onsen หมู่บ้านออนเซ็นกลางหุบเขา สมบัติล้ำค่าจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
สถาปัตยกรรมไม้ที่เห็นได้จากบ้านเรือนเก่าแก่ของที่นี่ เรียงรายไปตลอดทางสองฝั่งที่อยู่ในหุบเขา มีทั้งร้านค้าท้องถิ่น ร้านอาหารและเรียวกังหรือที่พักสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมออนเซน ซึ่งมีทั้งกลางแจ้งและในร่มให้ผ่อนคลาย
ศาลเจ้าคิฟุเนะ ศาลเจ้าแห่งเทพเจ้าของสายน้ำ
ศาลเจ้าแห่งนี้เชื่อว่าเป็นพื้นที่ที่อุณหภูมิต่ำสุดในเกียวโต ทำให้ช่วงฤดูหนาวมีหิมะตกปกคลุม และอุณหภูมิหนาวเย็นกว่าพื้นที่อื่นๆในจังหวัดเกียวโต และในฤดูหนาวนี้เองที่จะมีการประดับไฟที่ศาลเจ้าเป็นพิเศษ สามารถชมได้เฉพาะวันที่มีหิมะตก ซึ่งจะประกาศเปิดไฟประดับศาลเจ้าแบบวันต่อวัน กล่าวได้ว่า ใครที่มีโอกาสได้ชมไฟประดับยามค่ำคืนที่หิมะตกของศาลเจ้าแห่งนี้ ถือเป็นความโชคดีอีกอย่างหนึ่ง
“Misotsuchi no Tsurara” เทศกาลน้ำแข็งย้อยสุดอลังการทั้งสามแห่งในเมืองจิจิบุ
บริเวณนี้มีอากาศหนาวเย็นและเป็นพื้นที่ที่หิมะตกน้อย ความเย็นจึงทำให้น้ำแถวนี้เกิดกลายเป็นน้ำแข็งแล้วเกาะตามเขา จึงกลายเป็นศิลปะอันสวยงาม ตอนค่ำเปิดไฟประดับน้ำแข็งย้อย ทั้งสามแห่ง Ahigakubo no Hyochu, Misotsuchi no Hyochu,และ Onouchi no Hyochu อยู่ใกล้ต้นกำเนิดแม่น้ำอาราคาวะที่เมืองจิจิบุในจังหวัดไซตะมะ สามารถชมได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เท่านั้น
เทศกาลไฟประดับสวยงาม “Kobe Luminarie”
เทศกาลนี้เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวเขตฮันชินเมื่อปี 1995 (Great Hanshin Earthquake) เป็นการสร้างขวัญ กำลังใจ สร้างสรรให้สิ่งที่ดีๆ กลับมาสู่พื้นที่ประสบภัย งานเทศกาลไฟประดับสวยงาม “Kobe Luminarie” จะจัดขึ้นก่อนวันคริสต์มาส เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนธันวาคมเท่านั้น
หมู่บ้านโบราณของญี่ปุ่นเป็นรูปทรงพนมมือ มีอายุกว่า 100 ปี รูปแบบโครงสร้างของบ้านที่ช่วยไม่ให้หิมะทับทมหลังคา ในทุกๆปีเดือนมีนาคม หมู่บ้านแห่งนี้จะเปิดไฟประดับหมู่บ้าน ความสวยงามนั้นไม่ต่างไปจากหมู่บ้านชิราคาวาโกเลย
ซึ่งวันนี้กล่าวได้ว่า ของดี แบบฟรีๆ มีจริงในโลก!
เพราะใบนี้ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี ไม่ต้องจ่ายสักบาทเดียว แต่รับสิทธิ์เข้า Miracle Lounge ฟรี เพียงลงทะเบียนก่อนแลกเงินและแลกเงินแค่ 5,000บ.ขึ้นไปต่อครั้งเท่านั้น แลกก่อนมีสิทธิ์ก่อนไปเลย 1,000 คนแรกในแต่ละเดือน
แถมรับคืนรัวๆอีก สูงสุด 1,000 บาท เมื่อใช้จ่ายสะสมเป็นสกุลเงินต่างประเทศ (รูดใช้จ่ายและช้อปออนไลน์ได้ทั้งนั้น) งานนี้ลูกค้ามีแต่คุ้ม เพราะไม่เสียอะไร มีแต่ได้เงินคืน
นอกจากนี้ยัง ลุ้นบินฟรีไปญี่ปุ่น พร้อม Pocket Money อีก 1 รางวัล มูลค่า150,000 บาท สำหรับผู้มียอดใช้จ่ายตลอดแคมเปญสูงสุด
ทั้ง 3 โปรนี้ เริ่มตั้งแต่ 3 ต.ค. 62 – 31 ม.ค. 63
ใครมีบัตรแล้ว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมแล้วรีบลงทะเบียนเลยที่นี่ https://link.scb/2psp7Sr (ลงทะเบียนรับ 3 สิทธิ์ในครั้งเดียว)
– สมัครฟรี!!! ทั้งค่าธรรมเนียมรายปี และออกบัตรใหม่ ไม่เสียอะไรสักบาท แม้แต่ค่าส่งบัตรไปที่บ้าน
– กด ATM ที่เมืองนอก ฟรีค่าธรรมเนียม 100 บาท (เฉพาะฝั่ง SCB) ถึง 31 ธ.ค. 62
– แลกเงินได้ทุกที่ผ่านแอป ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปแลก ไม่ต้องกังวลเงินหมด และเรทเปลี่ยน
– แลกเงินเรทสุดพิเศษเก็บไว้ในบัตรก่อนได้ เมื่อทริปมาถึงก็ใช้บัตรรูดใช้จ่ายได้เลย ไม่ต้องถือเงินสด ปลอดภัยกว่า
– ช้อปออนไลน์ หรือ กด ATM ที่ต่างประเทศ ไม่ชาร์จ 2.5% แถมได้เรทพิเศษขั้นเทพ
– กำหนดเงินใน Wallet ได้ ไม่เสี่ยงถูก Hack
– รูดใช้จ่าย ได้สูงสุด 500,000บาท / วัน
– ดูแลความปลอดภัยได้ด้วยแอป SCB EASY
– พิมพ์ชื่อทุกใบ ใช้จ่ายสบายใจกว่า
สมัครฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมออกบัตร 200 บาท ถึงสิ้นปีนี้
สมัครผ่านแอป SCB EASY คลิกที่นี่ https://link.scb/2Pb9JGy
หรือ สมัครได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา ทั่วประเทศ
#PlanetSCB
#บัตรของคุณเรทของคุณ
#แลกเงินเรทดีอีซี่มาก