ถ้าเดินสำรวจไปตามถนนปูหินโบราณ โรงแรม Viru ในย่านเมืองเก่าของกรุงทาลลินน์ (Tallinn) เมืองหลวงประเทศเอสโตเนีย คุณอาจจะรู้สึกว่าหน้าตาของโรงแรมได้บรรยากาศเหมือนโซเวียตยุค 1972 สูงใหญ่ตระหง่าน ออกแบบดูแข็งกระด้าง ลดทอนความงามของศิลปะ แต่มั่นคง ซึ่งก็ไม่แปลกนักเพราะยุคที่โซเวียตปกครอง นักข่าวชาติใดมาเยือนเอสโตเนีย ก็จะถูกนำตัวไปที่นั่นก่อน เพราะที่นี่เสมือนศูนย์กลางการสื่อสารข้อมูลต่างๆออกไป เพื่อให้ทาลลินน์ภายใต้การปกครองของโซเวียตนั้นดูสวยหรูอยู่สบาย ในยุคปัจจุบัน ทาลลินน์ก็น่ารักน่าอยู่จริงๆ ย่านเมืองเก่ามีจัตุรัสกลางเมือง Raekoja Plats เป็นลานปูหินกว้างใหญ่ท่ามกลางวงล้อมของศาลากลางศิลปะกอทิก ตั้งอยู่กึ่งกลางตรอกซอย ถนนหนทางเชื่อมร้อยเป็นเครือข่ายนำไปสู่ป้อม Toompea ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และ โบสถ์ Alexander Nevsky อย่างไรก็ตาม ถ้าย้อนกลับไปในยุคสงครามเย็น ทาลลินน์ คือ ยุทธศาสตร์สำคัญซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างรัสเซียกับโลกตะวันตก
ถนนที่สวยงามดังที่เห็นในวันนี้ หลายทศวรรษก่อนนั้นคลาคล่ำไปด้วยสายลับและไส้ศึกจากทุกฝั่ง รอคำสั่งว่าจะได้รับการส่งตัวไปปฏิบัติภารกิจทางทิศตะวันออกหรือตะวันตก ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยที่กล้อง Minox ขนาดเท่ากล่องไม้ขีดไฟ อุปกรณ์อันโด่งดังของสายลับเจมส์ บอนด์ จะถูกประดิษฐ์ขึ้นจากเมืองนี้ โซเวียต ยึดครองเอสโตเนีย ได้ในปี 1944 ก่อนสงครามโลกครั้งที่สองจะสิ้นสุดหนึ่งปี จากนั้นประวัติศาสตร์การจารกรรมส่วนมาก ชาวเอสโตเนียก็เป็นผู้ถูกกระทำ ถูกปิดหูปิดตาอยู่ภายใต้การตรวจสอบอันเข้มงวด จนเมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 1990 อำนาจของ KGB ก็ค่อยๆเสื่อมสลายไป แม้เรื่องราวการสอดแนมทางการเมือง ยังมีหลุดรอดมาอยู่บ้างแบบลับๆอีกหลายปี แต่ปัจจุบันประวัติศาสตร์เมืองแห่งสายลับของทาลลินน์ก็ปิดฉากลงไปแล้ว เหลือเพียงอาคารสถานที่ พิพิธภัณฑ์ และสถานที่สำคัญในยุคสงครามเย็นที่เปลี่ยนมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว อันสื่อถึงความสงบสุขที่กลับคืนมาสู่เมืองหลวงแห่งนี้ได้อย่างแท้จริง
ถนนที่สวยงามดังที่เห็นในวันนี้ หลายทศวรรษก่อนนั้นคลาคล่ำไปด้วยสายลับและไส้ศึกจากทุกฝั่ง รอคำสั่งว่าจะได้รับการส่งตัวไปปฏิบัติภารกิจทางทิศตะวันออกหรือตะวันตก ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยที่กล้อง Minox ขนาดเท่ากล่องไม้ขีดไฟ อุปกรณ์อันโด่งดังของสายลับเจมส์ บอนด์ จะถูกประดิษฐ์ขึ้นจากเมืองนี้