แม้ว่าเหตุการณ์ก่อการร้ายเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ศรีลังกา ถูกกล่าวถึงความกังวลเรื่องความปลอดภัย แต่ทว่าเมื่อฝุ่นควันจางไป และเหตุการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ดินแดนแห่งนี้ก็ยังนับว่าเป็นหนึ่งในประเทศน่าไปเยือน เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว วิถีชีวิตวัฒนธรรม อันควรค่าแก่การไปสัมผัส สมกับที่เป็น Best in Travel 2019 โดย Lonely Planet
เรามาเสริมความรู้เบื้องต้นสำหรับการไปเยือนดินแดนแห่งนี้กัน
อายุบวร คือ คำทักทายสวัสดีตามธรรมเนียม
การส่ายหน้า หมายถึง ตกลง หรือยอมรับ
ค่าเงิน ศรีลังกา ใช้เงินรูปี (1 รูปี เท่ากับ 100 เซนต์) ธนบัตรมีตั้งแต่ใบละ 10 ถึง 1,000 รูปี ค่าเงินปัจจุบัน 100 รูปี ประมาณ 18 บาท
ระบบไฟฟ้า 2201-240 โวลท์ ใช้ปลั๊กไฟเป็นแบบขากลม 3 ขา นักท่องเที่ยวควรมี adapter ติดตัวไป และบางเมืองบางช่วง อาจมีการดับไฟเพื่อประหยัดพลังงาน
ไม่ควรถ่ายรูปโดยหันหลังให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และถือว่าไม่สุภาพ , ผู้หญิง ควรสวมเสื้อที่มีแขน สวมกางเกง หรือกระโปรงยาวที่คลุมลงไปถึงน่องมิดชิด
ชาวศรีลังกา ประมาณร้อยละ 70 นับถือศาสนาพุทธ นอกจากนั้นเป็นฮินดู มุสลิม ประมาณร้อยละ 10 และศาสนาอื่นๆ
ประชากรชาวศรีลังกาส่วนใหญ่กว่า ร้อยละ 70 เป็นชาวสิงหล ที่เหลือเป็นชาวทมิฬ แขกมัวร์ หรือมุสลิมจากอินเดีย และตะวันออกกลาง รวมถึงกลุ่มเชื้อชาติเบอร์เกอร์ (Burgher) เวดดา (Vedda) และ มาเลย์ (Malay)
อาหารศรีลังกา
แม้เป็นเอเชียใต้เฉกเช่นเดียวกับอินเดีย แต่อาหารของศรีลังกามีความแตกต่างกันพอสมควร เพราะได้รับอิทธิพลจากตะวันตก เช่น องักฤษ โปรตุเกส ผสมผสานกับอาหารท้องถิ่นจนมีเอกลักษณ์พอตัว มีเมนูน่าลิ้มลองมากมาย รวมทั้งมีเมนูประเภทเนื้อไก่ อาหารทะเล ให้กินได้ไม่ยาก (แตกต่างจากอินเดียที่มักเป็นอาหารมังสวิรัติ) นอกจากนี้ หากใครเป็นนักดื่มชาแล้วล่ะก็ ต้องไม่พลาดลิ้มลองชาดีๆที่นั่น เพราะศรีลังกา จัดเป็นแหล่งปลูกชาที่มีคุณภาพในระดับแนวหน้าของโลก
สามารถเดินทางไปเที่ยวศรีลังกาได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วง High Season แบ่งเป็นสองช่วง คือ ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ส.ค. เป็นช่วงที่มีจัดเทศกาลต่างๆ อีกช่วง คือ ธ.ค.-มี.ค. ซึ่งมีสภาพอากาศเย็นสบาย ไม่มีฝน ราคาที่พักจะแพงขึ้นมาสักหน่อย
ส่วนช่วง Low Season คือ เม.ย.- ก.ย. ซึ่งมักมีฝนตกชุก แต่ก็แลกกับราคาห้องพักที่ถูกลง
หรือ ขอวีซ่าผ่านเว็บไซต์ www.eta.gov.lk/slvisa/