กลุ่มพีระมิดขนาดมหึมากลางทะเลทรายสร้างขึ้นเพื่อการคงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์ตามความเชื่อของชาวอียิปต์ในสมัยโบราณ จึงไม่น่าแปลกใจที่สถาปัตยกรรมแสนสง่างามจะเป็นที่เที่ยวยอดนิยมของนักเดินทางจากทั่วโลก มรดกจากอารยธรรมลุ่มแม่น้ำไนล์ยังคงสร้างปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ว่า คนในสมัยก่อนสร้างสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ขึ้นมาได้อย่างไร รวมทั้งตำนานเล่าขานแสนลึกลับต่าง ๆ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนทำให้พีระมิดแห่งกิซ่าควรค่าแก่การไปเยือนสักครั้งในชีวิต
การก่อสร้างพีระมิดแห่งแรกและมีขนาดใหญ่ที่สุดคือ พีระมิดแห่งคูฟู (หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า The Great Pyramids) ที่เริ่มสร้างตั้งแต่ 2,550 ปีก่อนคริสตศักราชเพื่อเป็นแหล่งพำนักสุดท้ายของฟาโรห์คูฟู
30 ปีต่อมาลูกชายของพระองค์สั่งให้สร้างสุสานพีระมิดแห่งคาเฟรของตัวเองอยู่เคียงข้างกัน ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เชื่อกันว่า สฟิงซ์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฝ้าสุสานของเขา ส่วนพีระมิดแห่งสุดท้ายของกิซ่านั้นรู้จักกันในชื่อ พีระมิดแห่งเมนคูเร ถูกสร้างขึ้นประมาณ 2,490 ปีก่อนคริสตศักราชโดยบุตรชายของคาเฟร และมีขนาดเล็กกว่าพีระมิดสองแห่งแรก ซึ่งพีระมิดทั้งสามนี้รวมกับสฟิงซ์ และพีระมิดและหลุมฝังศพอื่น ๆ ทั้งหมดประกอบขึ้นเป็นสิ่งที่รู้จักกันในชื่อพีระมิดแห่งกิซ่า เบื้องหลังการก่อสร้างพีระมิดแห่งกิซ่า
ความยิ่งใหญ่ของพีระมิดสร้างความฉงนให้กับเหล่านักวิทยาศาสตร์และเหล่านักวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังมานี้นักโบราณคดีได้ค้นพบสิ่งต่าง ๆ มากมายที่ช่วยบอกเล่าถึงวิธีการสร้างพีระมิดขึ้นมา โดยพวกเขาเชื่อว่าในการสร้างต้องใช้แรงงานจำนวนกว่า 10,000-20,000 คน ในตลอด 20 ปี เพื่อสร้างพีระมิดทั้งสาม ตามหนังสือประวัติศาสตร์กล่าวว่าทั้งหมดเป็นแรงงานทาส แต่ภายหลังพบข้อสรุปว่าจริง ๆ แล้วเหล่าคนผู้สร้างพีระมิดส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่มาทำงานในช่วงที่แม่น้ำไนล์ไหลท่วมพื้นที่เกษตรกรรม
หินที่ใช้ในการก่อสร้างพีระมิดคูฟูและพีระมิดเมนคูเรนั้นมาจากเหมืองบริเวณใกล้เคียง แต่ส่วนของพีระมิดคาเฟรไม่มีที่มาแน่ชัดว่าใช้หินจากที่ใด เหล่าคนงานต้องลากก้อนหินไปบนทรายเปียก และลากขึ้นไปไปด้านบนโดยใช้ทางลาด แต่การสร้างทางลาดนั้นเป็นแบบใดนั้นยังเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้
จริง ๆ แล้วยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดที่จะระบุถึงตำแหน่งของพีระมิดแต่ละแห่ง แต่การที่มหาพีระมิดมีทั้งตั้งเกือบจะสอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์แบบตามทิศเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก นักประวัติศาสตร์ได้ขบคิดจนยุ่งเหยิงและยังตั้งทฤษฎีไว้มากมาย ซึ่งสมมุติฐานล่าสุดคือ การอ้างอิงตามปรากฏการณ์ศาทรวิษุวัต
พื้นผิวที่สร้างด้วยก้อนหินขนาดใหญ่ดูจะเป็นภาพชินตาของพีระมิดแห่งกิซ่า แต่จริง ๆ แล้วก่อนหน้านี้สุสานทั้งสามมีเปลือกนอกที่สร้างจากหินปูนเรียบเนียน ซึ่งภายหลังถูกนำไปใช้สร้างอาคารอื่นทั่วอียิปต์ จึงเหลือเพียงพีระมิดคาเฟรเท่านั้นที่ยังคงมีผิวหินปูนดั้งเดิมอยู่บนปลายยอด
พีระมิดและสุสานขนาดเล็กอื่น ๆ
นอกจากพีระมิดใหญ่ทั้งสามแห่งแล้ว บริเวณด้านตะวันออกของพีระมิดคูฟูยังประกอบไปด้วยพีระมิดขนาดเล็ก ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามพีระมิดราชินีทั้ง 3 สร้างขึ้นเพื่อชายาและพี่สาวของฟาโรฟ์คูฟู นอกจากนั้นบริเวณรอบ ๆ ยังมีวิหารและพีระมิดขนาดเล็กอีกมากมาย ซึ่งรวมถึงสุสานหินที่สร้างเพื่อฝังศพของสมาชิกราชวงศ์และผู้ที่เคยรับใช้องค์ฟาโรห์
– ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปชมพีระมิดแห่งกิซ่าคือ ตั้งแต่เดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เพราะอากาศจะเย็นสบาย แต่ต้องแลกกับจำนวนฝูงชนที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ถ้าอยากหลีกเลี่ยงผู้คน แนะนำให้ไปช่วงเดือนตุลาคม – พฤศจิกายนหรือไม่ก็ช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน และให้ไปตั้งแต่เช้าก่อน 10.00 น. ก่อนที่กลุ่มทัวร์ส่วนใหญ่จะมาถึง จากนั้นใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงในการสำรวจความยิ่งใหญ่ของพีระมิด และสิ่งก่อสร้างโดยรอบ ถ้าหากว่าคุณมีบัตรเข้าชมหลุมฝังศพแลละห้องต่าง ๆ ด้านในพีระมิด ก็อาจจะต้องใช้เวลาถึง 7 ชั่วโมง
– การจองทัวร์ไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นวิธีที่สะดวกสบายที่สุดในการเดินทางไปชมกลุ่มพีระมิดแห่งกิซ่า เพราะส่วนใหญ่จะมีรถไปรับไปส่งถึงหน้าโรงแรม แต่ถ้าอยากเที่ยวชมอย่างอิสระก็สามารถเรียกใช้ Uber ได้เช่นกัน
– อียิปต์เป็นประเทศมุสลิม ดังนั้นคนท้องถิ่นส่วนใหญ่จึงแต่งตัวอย่างอนุรักษ์นิยม ต้องใส่เสื้อผ้าที่ปิดไหล่และหัวเข่า อย่าลืมหารองเท้าที่ช่วยให้เดินสบาย พร้อมทั้งเตรียมหมวก และแว่นกันแดดไปด้วยเพื่อป้องกันแสงแดดแรง ๆ
– มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชมแยกกันไปตามส่วนต่าง ๆ ของกลุ่มพีระมิดแห่งกิซ่า ค่าเข้าชมหลักที่ต้องจ่าย คือ 120 ปอนด์อียิปต์ ที่สามารถเข้าชมบริเวณด้านนอกได้ทั้งหมด แต่สำหรับการเข้าชมด้านในจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
– นักท่องเที่ยวสามารถหาโรงแรมที่พักในกรุงไคโร แล้วค่อยเดินทางมาชมพีระมิดที่กิซ่าได้ง่าย ๆ เพราะใช้เวลาเดินทางเพียง 45 นาทีเท่านั้น แต่ถ้าอยากชมบรรยากาศดวงอาทิตย์ขึ้นเหนือพีระมิด ที่พักในกิซ่าก็จะตอบโจทย์ที่สุด
การก่อสร้างพีระมิดแห่งแรกและมีขนาดใหญ่ที่สุดคือ พีระมิดแห่งคูฟู (หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า The Great Pyramids) ที่เริ่มสร้างตั้งแต่ 2,550 ปีก่อนคริสตศักราชเพื่อเป็นแหล่งพำนักสุดท้ายของฟาโรห์คูฟู
30 ปีต่อมาลูกชายของพระองค์สั่งให้สร้างสุสานพีระมิดแห่งคาเฟรของตัวเองอยู่เคียงข้างกัน ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เชื่อกันว่า สฟิงซ์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฝ้าสุสานของเขา ส่วนพีระมิดแห่งสุดท้ายของกิซ่านั้นรู้จักกันในชื่อ พีระมิดแห่งเมนคูเร ถูกสร้างขึ้นประมาณ 2,490 ปีก่อนคริสตศักราชโดยบุตรชายของคาเฟร และมีขนาดเล็กกว่าพีระมิดสองแห่งแรก ซึ่งพีระมิดทั้งสามนี้รวมกับสฟิงซ์ และพีระมิดและหลุมฝังศพอื่น ๆ ทั้งหมดประกอบขึ้นเป็นสิ่งที่รู้จักกันในชื่อพีระมิดแห่งกิซ่า เบื้องหลังการก่อสร้างพีระมิดแห่งกิซ่า
ความยิ่งใหญ่ของพีระมิดสร้างความฉงนให้กับเหล่านักวิทยาศาสตร์และเหล่านักวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังมานี้นักโบราณคดีได้ค้นพบสิ่งต่าง ๆ มากมายที่ช่วยบอกเล่าถึงวิธีการสร้างพีระมิดขึ้นมา โดยพวกเขาเชื่อว่าในการสร้างต้องใช้แรงงานจำนวนกว่า 10,000-20,000 คน ในตลอด 20 ปี เพื่อสร้างพีระมิดทั้งสาม ตามหนังสือประวัติศาสตร์กล่าวว่าทั้งหมดเป็นแรงงานทาส แต่ภายหลังพบข้อสรุปว่าจริง ๆ แล้วเหล่าคนผู้สร้างพีระมิดส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่มาทำงานในช่วงที่แม่น้ำไนล์ไหลท่วมพื้นที่เกษตรกรรม
หินที่ใช้ในการก่อสร้างพีระมิดคูฟูและพีระมิดเมนคูเรนั้นมาจากเหมืองบริเวณใกล้เคียง แต่ส่วนของพีระมิดคาเฟรไม่มีที่มาแน่ชัดว่าใช้หินจากที่ใด เหล่าคนงานต้องลากก้อนหินไปบนทรายเปียก และลากขึ้นไปไปด้านบนโดยใช้ทางลาด แต่การสร้างทางลาดนั้นเป็นแบบใดนั้นยังเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้
จริง ๆ แล้วยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดที่จะระบุถึงตำแหน่งของพีระมิดแต่ละแห่ง แต่การที่มหาพีระมิดมีทั้งตั้งเกือบจะสอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์แบบตามทิศเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก นักประวัติศาสตร์ได้ขบคิดจนยุ่งเหยิงและยังตั้งทฤษฎีไว้มากมาย ซึ่งสมมุติฐานล่าสุดคือ การอ้างอิงตามปรากฏการณ์ศาทรวิษุวัต
พื้นผิวที่สร้างด้วยก้อนหินขนาดใหญ่ดูจะเป็นภาพชินตาของพีระมิดแห่งกิซ่า แต่จริง ๆ แล้วก่อนหน้านี้สุสานทั้งสามมีเปลือกนอกที่สร้างจากหินปูนเรียบเนียน ซึ่งภายหลังถูกนำไปใช้สร้างอาคารอื่นทั่วอียิปต์ จึงเหลือเพียงพีระมิดคาเฟรเท่านั้นที่ยังคงมีผิวหินปูนดั้งเดิมอยู่บนปลายยอด
พีระมิดและสุสานขนาดเล็กอื่น ๆ
นอกจากพีระมิดใหญ่ทั้งสามแห่งแล้ว บริเวณด้านตะวันออกของพีระมิดคูฟูยังประกอบไปด้วยพีระมิดขนาดเล็ก ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามพีระมิดราชินีทั้ง 3 สร้างขึ้นเพื่อชายาและพี่สาวของฟาโรฟ์คูฟู นอกจากนั้นบริเวณรอบ ๆ ยังมีวิหารและพีระมิดขนาดเล็กอีกมากมาย ซึ่งรวมถึงสุสานหินที่สร้างเพื่อฝังศพของสมาชิกราชวงศ์และผู้ที่เคยรับใช้องค์ฟาโรห์
– ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปชมพีระมิดแห่งกิซ่าคือ ตั้งแต่เดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เพราะอากาศจะเย็นสบาย แต่ต้องแลกกับจำนวนฝูงชนที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ถ้าอยากหลีกเลี่ยงผู้คน แนะนำให้ไปช่วงเดือนตุลาคม – พฤศจิกายนหรือไม่ก็ช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน และให้ไปตั้งแต่เช้าก่อน 10.00 น. ก่อนที่กลุ่มทัวร์ส่วนใหญ่จะมาถึง จากนั้นใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงในการสำรวจความยิ่งใหญ่ของพีระมิด และสิ่งก่อสร้างโดยรอบ ถ้าหากว่าคุณมีบัตรเข้าชมหลุมฝังศพแลละห้องต่าง ๆ ด้านในพีระมิด ก็อาจจะต้องใช้เวลาถึง 7 ชั่วโมง
– การจองทัวร์ไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นวิธีที่สะดวกสบายที่สุดในการเดินทางไปชมกลุ่มพีระมิดแห่งกิซ่า เพราะส่วนใหญ่จะมีรถไปรับไปส่งถึงหน้าโรงแรม แต่ถ้าอยากเที่ยวชมอย่างอิสระก็สามารถเรียกใช้ Uber ได้เช่นกัน
– อียิปต์เป็นประเทศมุสลิม ดังนั้นคนท้องถิ่นส่วนใหญ่จึงแต่งตัวอย่างอนุรักษ์นิยม ต้องใส่เสื้อผ้าที่ปิดไหล่และหัวเข่า อย่าลืมหารองเท้าที่ช่วยให้เดินสบาย พร้อมทั้งเตรียมหมวก และแว่นกันแดดไปด้วยเพื่อป้องกันแสงแดดแรง ๆ
– มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชมแยกกันไปตามส่วนต่าง ๆ ของกลุ่มพีระมิดแห่งกิซ่า ค่าเข้าชมหลักที่ต้องจ่าย คือ 120 ปอนด์อียิปต์ ที่สามารถเข้าชมบริเวณด้านนอกได้ทั้งหมด แต่สำหรับการเข้าชมด้านในจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
– นักท่องเที่ยวสามารถหาโรงแรมที่พักในกรุงไคโร แล้วค่อยเดินทางมาชมพีระมิดที่กิซ่าได้ง่าย ๆ เพราะใช้เวลาเดินทางเพียง 45 นาทีเท่านั้น แต่ถ้าอยากชมบรรยากาศดวงอาทิตย์ขึ้นเหนือพีระมิด ที่พักในกิซ่าก็จะตอบโจทย์ที่สุด
