ฮาวานา เมืองที่เสมือนเข็มนาฬิกาเดินช้ากว่าปกติ

บรรยากาศย้อนยุคของฮาวานานั้นไม่เหมือนที่ใดในโลก
อรุณรุ่งที่ ฮาวานา แสงสาดส่องสะท้อนงานปูนปั้นบนหอคอยยอดแหลม ผนังคอนกรีตด้านข้าง ทุกระเบียงและหน้าต่างล้วนมีเสื้อผ้าตากเต็มราว รถยนต์สารพัดยี่ห้อ ทั้งลาดา เฟียต แดวู โตโยต้า บางทีก็มีรถอเมริกันคลาสสิค ขับแล่นไปบนถนนมาเลคอน (Malecon) ที่เลียบชายหาดผืนกว้างไปจรดถนนปราโด (Prado) ในย่านเมืองเก่า 

ถนนปราโด เป็นถนนบดอัดสายแรกสร้างโดยชาวสเปน ถอดแบบมาจากถนนปาซิโอ เดล ปราโด ในกรุงมาดริด แต่ย่อส่วนลงมา ซึ่งในฮาวานา มีรถราวิ่งกันขวักไขว่เต็มสองฟากถนนใต้ร่มเงาของต้นลอเรล สุดปลายถนนทั้งสองฝั่ง คือ สิงโตสำริด หล่อจากปืนใหญ่ที่หมดประโยชน์หลังจากสเปนล่าถอยออกไปในปี 1898  ฮาวานา เป็นเมืองหลวงของคิวบา เป็นทั้งที่ตั้งของรัฐบาลสังคมนิยมมากว่าครึ่งศตวรรษ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศซึ่งเป็นเกาะ ด้วยจำนวนประชากรกว่า 2 ล้านคน จึงเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของคิวบา ทอดยาวไปตามแนวชายฝั่งทะเลซึ่งอยู่ไม่ไกลจากน่านน้ำอเมริกัน ที่นี่เป็นดินแดนแห่งความหลากหลาย และความตรงข้ามสุดขั้ว ตั้งแต่เช้าคุณจะได้ยินเสียงไก่ขัน ตามด้วยเสียงของรถยนต์โบราณส่งเสียงคำรามทั้งวี่ทั้งวัน รวมทั้งเสียงเพลงที่ดังระงมตลอดคืน ไม่ว่าจะเป็นซัลซา แจ๊ส เร็กเก คลาสสิคออเครสตา ด้วยเหตุนี้ เมืองจึงเต็มไปด้วยความวุ่นวาย จอแจ แต่ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่หาไม่ได้จากเมืองอื่นในโลก เอกลักษณ์อีกด้านของฮาวานา คือ มาเลกง (Malecón) แนวกําแพงกั้นน้ำทะเลความยาวกว่า 8 กิโลเมตร ที่สร้างตลอดแนวยาวของพื้นที่ติดทะเลของฮาวานา
มาเลกง แล่นเลื้อยไปตามแนวชายฝั่งของเมือง โดยเริ่มที่โรงแรมแบบโมเดิร์นนิสต์ ชื่อ วิดาโด (Vedado) ซึ่งสร้างขึ้นโดยมาเฟียในช่วงสุดท้ายที่ยุคเผด็จการบาร์ติสตา ซึ่งเป็นยุคก่อนคาสโตรกําลังเสื่อมอํานาจ สมัยคิวบาเป็นเสมือนลาสเวกัสแห่งแรกสําหรับเศรษฐีอเมริกัน
เดินไปเรื่อยๆแล้วแนวตึกสูงจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีที่ลอกออก และก้อนอิฐจากบรรดาบ้านสไตล์โคโลเนียล ที่ทะลายลงมากองกับพื้นในแถบเซ็นโทร ฮาวานา (Centro Habana) ที่นี่ผ้าตากไว้บนราวที่ขึงจาก หน้าต่างบานหนึ่งกับหน้าต่างอีกบานหนึ่ง มีเด็กๆ จับกลุ่มกันเล่นเบสบอลอยู่ทุกมุมถนน แต่มาเลกง ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถาปัตยกรรมเท่านั้น มาเลกง คือ สถานที่ที่ชาวฮาวานาออกมาพักผ่อน พวกเขาชอบออกมาที่คันกั้นน้ำแห่งนี้ แล้วมองดูอ่าวเม็กซิโกเหมือนผีเสื้อกลางคืนกับแสงไฟ พออาทิตย์ลับขอบฟ้า คู่รักต่างพากันมานั่งหันหน้าออกไปยังท้องทะเล กายสัมผัสกาย บ้างก็มาคนเดียว อ่านหนังสือหรือจดหมาย หรือไม่ก็ดีดกีตาร์

ยิ่งดึกก็ยิ่งจะมีชาวเมืองออกมามากขึ้น พลางกอดขวดรัมหรือเบียร์ ยิ่งเข็มนาฬิกาเคลื่อนเข้าใกล้เที่ยงคืนเสื้อผ้าและทรงผมของผู้คนก็จะยิ่งพิถีพิถันมากขึ้น ผมเสยปัดไปด้านหลัง และเสื้อยืดคอกลมลายธงชาติอังกฤษ ดูเหมือนจะเป็นแฟชั่นหลัก และระดับเสียงก็ดังขึ้นๆเมื่อผู้คนเริ่มร้องเพลง เต้นรํา ล้อเล่น หัวเราะเฮฮา การใช้ชีวิตอย่างสบายใจไร้กังวลนี้ ปรากฏให้เห็นอยู่ในทุกแง่มุมของการใช้ชีวิตของฮาวานา ผ่านทางเสียงกลองกระหึ่มในจังหวะรุมบ้า และสเต็ปอันสง่างามของการเต้นแซมบ้า ไปจนถึงการขับรถกินลมยามเย็นในรถบูอิคปี 1950 คันใหญ่เทอะทะ

ข้อควรรู้
– Cámara Oscura อาคารที่มีหอคอยสูง 35 เมตร เป็นจุดชมทิวทัศน์เมืองได้แบบ 360 องศา
– Hotel Ambos Mundos โรงแรมสุดคลาสสิคซึ่งเฮมมิงเวย์ใช้ชีวิตเขียนหนังสืออยู่ในห้องพักที่นี่ www.hotelambosmundos-cuba.com 
– ย่านจัตุรัสวีจา (Plaza Vieja) เป็นแหล่งที่คุณจะแวะหาเครื่องดื่มดีๆราคาไม่แพง ดับกระหายได้

You May Also Like