การพิชิตยอดเขา K2 (Ketu) ในประเทศปากีสถาน นับเป็นหนึ่งในสุดยอดการปีนเขาระดับโลก นักเดินทางหลายคนออกไปตามรอยเส้นทางที่เต็มไปด้วยหินไปบรรจบธารน้ำแข็ง Baltoro ขนาดยักษ์ที่ทอดผ่านเทือกเขามหึมายอดสูงเสียดฟ้า รู้จักยอดเขาคาราโครัม
คาราโครัม เป็นจุดหมายอันตื่นตาตื่นใจแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งอยู่ในประเทศปากีสถาน ที่นี่เป็นแหล่งของภูมิทัศน์ทางธรรมชาติอันกว้างใหญ่ ซึ่งหากเปรียบเทียบกันแล้ว นักเดินทางที่มาเยือนปากีสถาน ต่างยกให้ความงามพิสุทธิ์ของแนวเขาคาราโครัมนั้น ไม่ด้อยไปกว่าเอเวอร์เรสต์ หรืออันนาปุรณะแห่งเทือกเขาหิมาลัยเลย จุดที่สูงที่สุดของคาราโครัม คือ K2 ที่ความสูง 8,611 เมตร ครองสถิติเป็นภูเขาที่สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก และการฟันฝ่าไปให้ถึงยัง Base Camp ที่ระดับ 5,150 เมตร จะมอบการเดินทางอันน่าตื่นเต้นที่สุด เริ่มต้นจากหมู่บ้าน Askole ไปตามทางของหุบเขา Braldu ก่อนมุ่งไปยังธารน้ำแข็ง Baltoro ไป Concordia ตรงตำแหน่ง 12 กิโลเมตรจาก K2 Concordia สถานที่ที่เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งบนโลกที่สามารถมองเห็นยอดเขาระดับความสูง 8,000 เมตร ได้ถึง 4 ลูก ได้แก่ K2, Broad Peak, Gasherbrum 1 และ Gasherbrum 2
การไปถึง K2 แตกต่างกับการพิชิตเขาเอเวอร์เรสต์ในประเทศเนปาลที่นักปีนเขาจะได้เห็นยอดเขาอันโดดเด่นเพียงเศษเสี้ยว เพราะ K2 มียอดเขารายล้อมให้นักปีนเขาได้ชม แม้มีระดับความสูงและมีชื่อเสียงเป็นรองจากเอเวอร์เรสต์ แต่ในด้านความตื่นตาตื่นใจที่ได้รับนั้น ก็ไม่เป็นรองยอดเขาแห่งอื่นแน่ๆ ทำไมต้องไปตอนนี้?
เมื่อปี 2018 นายอิมราน ข่าน นายกรัฐมนตรีของประเทศปากีสถาน ประกาศเน้นเรื่องการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักหลังจากได้รับเลือกตั้ง และในปี 2019 ที่ผ่านมา มีการใช้ระบบ E-Visa แบบใหม่ และผ่อนผันข้อจำกัดวีซ่าให้กับนักเดินทางกว่า 50 ประเทศ
ในขณะที่สายการบิน British Airways ที่กลายเป็นสายการบินอันดับต้นๆของยุโรป ก็มีเที่ยวบินที่บินตรงไปยังอิสลามาบัด ซึ่งมีสนามบินนานาชาติที่อยู่ใกล้กับเทือกเขาคาราโครัมมากที่สุด และการมาเยือนปากีสถานแห่งราชวงศ์อังกฤษก็เป็นที่จับตามองของสื่อทั่วโลก และยังเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกด้วย ตัวเลขของนักปีนเขาที่มาเยือน Central Karakoram National Park เพิ่มขึ้นถึง 50% จากปี 2018 – 2019 ประมาณ 1,300 นั่นเป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่า การปีนเขาในปากีสถาน ยังเป็นเส้นทางอันเงียบสงบไม่คลาคล่ำไปด้วยปริมาณนักท่องเที่ยวที่มากเกินไป โดยเฉพาะหากเทียบกับเอเวอร์เรสต์
ปากีสถานถูกโปรโมทเป็นการท่องเที่ยวแบบ Next Big Thing มานานแล้ว แต่ข่าวพาดหัวใหญ่ๆที่โลกรับรู้ มักเป็นสถานการณ์ในด้านลบ ทั้งๆที่ประเทศปากีสถานเพียบพร้อมศักยภาพของการเป็นจุดหมายปลายทางให้กับนักปีนเขา ได้ไม่น้อยไปกว่าเทือกเขาหิมาลัยในประเทศแถบนั้นเลย เส้นทางพิชิต K2 Base Camp
การเดินทางไปยัง K2 ใช้เวลาทั้งขึ้นและลงโดยรวม 14 วัน โดยเริ่มต้นจากหมู่บ้าน Askole ห่างจากพื้นที่เล็กๆอันเขียวชอุ่มออกไปไม่นานนัก ก็จะได้พานพบความงามของเทือกเขาคาราโครัม ที่เผยยอดเขาและผาสูงตระหง่านสองด้าน ปิดท้ายวันแรกด้วยการพักแรมใต้ยอดเขา Bakhor Das อันโดดเด่น ที่มักเรียกติดปากว่ายอดมะม่วงด้วยรูปทรงเหมือนกรวยแหลม
วันถัดมา นักปีนเขาจะมียอดเขาแหลมหินแกรนิตอันโดดเด่นแห่ง Trango Towers และ Cathedral ตระหง่านราวกับยืนปกปักนักเดินทางให้ได้เห็นไปตลอด 3 วัน และเมื่อเดินทางไปยังธารน้ำแข็ง Baltoro ก็จะเห็นยอดเขา Masherbrum และ Muztagh ที่มีความสูงระดับ 7,000 เมตรเป็นจุดแรก ปรากฏขึ้น ก่อนที่ยอดเขาระดับ 8,000 เมตร จะตามติดมาเหนือเส้นขอบฟ้า ท้ายธารน้ำแข็ง Baltoro บริเวณ Gasherbrum Range ซึ่งจุดดังกล่าวยังมองเห็นเทือกเขา 5 ยอด ที่ระดับความสูง 7,000-8,000 เมตรทั้งสิ้น อีกวันแห่งการเดินทาง เหล่าผู้กล้าจะเดินทางไปยังอัฒจันทร์หินแห่ง Concordia ซึ่งขนาดของมันราวกับย่อให้เทือกเขาในยุโรปเล็กลงไปถนัดตา ทันทีที่กวาดสายตาจาก Gasherbrums ข้ามสันเขาอันกว้างใหญ่ของ Broad Peak ไปยังสันเขาหินพีระมิดสีดำและลำธารที่วับวาวไปด้วยหิมะของเทือกเขา K2 ในค่ำคืนนี้ นักเดินทางก็จะได้ จุดกางเต็นท์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งบนผืนโลก
วันต่อมา มีตัวเลือกว่า จะเดินทางไปกลับจาก Concordia ได้ภายใน 1 วันก็ได้ แต่ทว่านักปีนเขามักนิยมเลือกอีกข้อ คือการปีน Broad Peak และค้างคืนที่นั่น ซึ่งจะทำให้การเดินทางไป-กลับ K2 น่าพอใจมากกว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดี ว่า K2 base camp นั้นไม่ใช่ทะเลแห่งเต็นท์สีเหลือง หรือธงมนตร์ที่มักพบได้แบบตรงตีนเขาเอเวอร์เรสต์ ปัจจุบันไม่มีสัญลักษณ์โดดเด่นอะไรแทนที่กองหินอันสงบนิ่งได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับช่วงฤดูกาลและจำนวนคณะเดินทาง
นักปีนเขาอาจรู้สึกว่าที่นี่ช่างโดดเดี่ยวเวิ้งว้าง แต่อย่าลืมว่าหากวัดระยะจากตีนเขาไปกว่าสองไมล์ ภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 2 ในโลก ก็ตั้งเด่นสง่าอยู่ตรงนั้น คุ้มค่าแก่การตรากตรำเดินทางมาแน่นอน ตามคู่มือการเดินทาง ถ้าไม่กลับไป Askole และกลับลงมาที่หุบเขา Braldu ก็จะมุ่งผ่านไปยัง Gondogoro La (สิ้นสุดการเดินทางที่หมู่บ้าน Hushe) ในขณะที่ Gondogoro La ก็เห็นมุมของเทือกเขาโคราโครัมอีกแบบ ซึ่งค่อนข้างพิสูจน์ความท้าทายเช่นกัน นักปีนเขาควรมั่นใจในอุปกรณ์เทรกกิ้งทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ice axe หรือ crampons
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางไหน การเดินทางผ่านเทือกเขาคาราโครัมแห่งปากีสถานภูเขาที่ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่สอง ก็เป็นหนึ่งในการเดินทางสุดคลาสสิคของโลก ข้อมูลต้องรู้
ระยะทาง: การปีนเขาใช้เวลาโดยรวมราว 14 วัน ต้องมีความพร้อมสุขภาพดีและเคยปีนเขาสูงมาแล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ การข้ามผ่าน Gondogoro La จำเป็นต้องมีพื้นฐานเรื่องการผูกเชือกในการปีนเขา และการใช้ ice axe
การตั้งแคมป์: สิ่งอำนวยความสะดวกเพียงอย่างเดียวที่มีตลอดการเดินทาง คือ การตั้งแคมป์ ที่สามารถกางเต็นท์ได้สำหรับ 2 คน ดังนั้นนักเดินทางคนเดียวควรหาเพื่อนแชร์กัน ที่สำหรับตั้งแคมป์ตั้งอยู่บนหินหรือน้ำแข็ง ดังนั้น ควรมั่นใจว่ากางเต็นท์ได้มั่นคงและอบอุ่นเพียงพอ และระลึกไว้เสมอว่าที่ตั้งแคมป์ไม่มีห้องน้ำ ดังนั้น หากทำธุระในป่า ก็จงอย่าทิ้งร่องรอยไว้ (เช่น ขุดหลุม หรือ เผากระดาษชำระ) อุปกรณ์: เป็นเรื่องปกติที่จะมีคนช่วยถืออุปกรณ์ส่วนตัว แต่ก็ขึ้นอยู่กับราคาที่จ่าย หากมีชุดเก้าอี้ โต๊ะกินข้าว อุปกรณ์สำหรับเข้าห้องน้ำ และบริการรับส่งกระเป๋าอย่างเต็มรูปแบบ ราคาก็จะยิ่งจ่ายแพงขึ้น แต่ถ้าถืออุปกรณ์ส่วนตัวบางชิ้นไปเองก่อนแล้วราคาก็จะถูกลง
ไปเมื่อไหร่: เดือนที่ดีที่สุดในการไปเยือนโคราโครัม คือ เดือนกรกฎาคม และเดือนสิงหาคม แต่ฤดูปีนเขาจะเริ่มตั้งแต่กลางๆ เดือนมิถุนายนไปถึงกลางเดือนกันยายน นอกจากเดือนเหล่านี้แล้ว จะยังมีหิมะหลงเหลืออยู่เยอะมากในทางที่ผ่านขึ้นไป ไม่น่าแปลกใจที่อากาศของโคราโครัมเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ดังนั้นต้องเตรียมตัวสำหรับลม ฝน หิมะ และอุณหภูมิที่ลดลงอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะเวลากลางคืน ภูมิประเทศ: ภูมิประเทศมีความท้าทายกว่าการไปตามรอยประเทศเนปาลที่มีคนไปมาเยอะแล้ว ทางเดินไปธารน้ำแข็ง Baltoro ก็ยังคงเปลี่ยนไปเสมอตามรอยแยกบนน้ำแข็ง ทำให้การเดินทางข้ามไปเป็นอย่างที่หวังไว้ และไม่แปลกที่ระดับน้ำจะท่วมทางเดิน ดังนั้นเตรียมรับมือกับสถานการณ์เท้าเปียกไว้เลย
การไปถึง: พิชิต K2 base camp ชาวต่างชาติต้องมีบัตรอนุญาตไกด์และได้รับ No Object Certificate จากสำนักงานการท่องเที่ยวใน Skardu การเดินทางเริ่มที่ Askole ซึ่งขับรถ 6 ชั่วโมงผ่าน 4WD จาก Skardu โดยมีเที่ยวบินสั้นภายในประเทศจากอิสลามาบัด (เวลาในการเดินทาง 1 ชั่วโมง) นักเดินทางสามารถทิ้งสัมภาระส่วนเกินที่ Skardu ไว้ที่เกสท์เฮาส์ นักท่องเที่ยวที่ไปปากีสถานต้องใช้วีซ่า ซึ่งดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://visa.nadra.gov.pk ความปลอดภัย หรือสถานการณ์ความมั่นคง: แม้ว่าเมื่อไม่นานนี้จะมีการปรับปรุง แต่รัฐบาลต่างประเทศยังคงไม่แนะนำให้เดินทางมาในหลายๆ พื้นที่ของปากีสถาน ค้นหาคำแนะนำล่าสุดได้ตามสถานการณ์ที่เกิดในพื้นที่ที่คุณต้องการจะไปก่อนเดินทาง
คาราโครัม เป็นจุดหมายอันตื่นตาตื่นใจแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งอยู่ในประเทศปากีสถาน ที่นี่เป็นแหล่งของภูมิทัศน์ทางธรรมชาติอันกว้างใหญ่ ซึ่งหากเปรียบเทียบกันแล้ว นักเดินทางที่มาเยือนปากีสถาน ต่างยกให้ความงามพิสุทธิ์ของแนวเขาคาราโครัมนั้น ไม่ด้อยไปกว่าเอเวอร์เรสต์ หรืออันนาปุรณะแห่งเทือกเขาหิมาลัยเลย
การไปถึง K2 แตกต่างกับการพิชิตเขาเอเวอร์เรสต์ในประเทศเนปาลที่นักปีนเขาจะได้เห็นยอดเขาอันโดดเด่นเพียงเศษเสี้ยว เพราะ K2 มียอดเขารายล้อมให้นักปีนเขาได้ชม แม้มีระดับความสูงและมีชื่อเสียงเป็นรองจากเอเวอร์เรสต์ แต่ในด้านความตื่นตาตื่นใจที่ได้รับนั้น ก็ไม่เป็นรองยอดเขาแห่งอื่นแน่ๆ
เมื่อปี 2018 นายอิมราน ข่าน นายกรัฐมนตรีของประเทศปากีสถาน ประกาศเน้นเรื่องการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักหลังจากได้รับเลือกตั้ง และในปี 2019 ที่ผ่านมา มีการใช้ระบบ E-Visa แบบใหม่ และผ่อนผันข้อจำกัดวีซ่าให้กับนักเดินทางกว่า 50 ประเทศ
ในขณะที่สายการบิน British Airways ที่กลายเป็นสายการบินอันดับต้นๆของยุโรป ก็มีเที่ยวบินที่บินตรงไปยังอิสลามาบัด ซึ่งมีสนามบินนานาชาติที่อยู่ใกล้กับเทือกเขาคาราโครัมมากที่สุด และการมาเยือนปากีสถานแห่งราชวงศ์อังกฤษก็เป็นที่จับตามองของสื่อทั่วโลก และยังเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ปากีสถานถูกโปรโมทเป็นการท่องเที่ยวแบบ Next Big Thing มานานแล้ว แต่ข่าวพาดหัวใหญ่ๆที่โลกรับรู้ มักเป็นสถานการณ์ในด้านลบ ทั้งๆที่ประเทศปากีสถานเพียบพร้อมศักยภาพของการเป็นจุดหมายปลายทางให้กับนักปีนเขา ได้ไม่น้อยไปกว่าเทือกเขาหิมาลัยในประเทศแถบนั้นเลย
การเดินทางไปยัง K2 ใช้เวลาทั้งขึ้นและลงโดยรวม 14 วัน โดยเริ่มต้นจากหมู่บ้าน Askole ห่างจากพื้นที่เล็กๆอันเขียวชอุ่มออกไปไม่นานนัก ก็จะได้พานพบความงามของเทือกเขาคาราโครัม ที่เผยยอดเขาและผาสูงตระหง่านสองด้าน ปิดท้ายวันแรกด้วยการพักแรมใต้ยอดเขา Bakhor Das อันโดดเด่น ที่มักเรียกติดปากว่ายอดมะม่วงด้วยรูปทรงเหมือนกรวยแหลม
วันถัดมา นักปีนเขาจะมียอดเขาแหลมหินแกรนิตอันโดดเด่นแห่ง Trango Towers และ Cathedral ตระหง่านราวกับยืนปกปักนักเดินทางให้ได้เห็นไปตลอด 3 วัน และเมื่อเดินทางไปยังธารน้ำแข็ง Baltoro ก็จะเห็นยอดเขา Masherbrum และ Muztagh ที่มีความสูงระดับ 7,000 เมตรเป็นจุดแรก ปรากฏขึ้น ก่อนที่ยอดเขาระดับ 8,000 เมตร จะตามติดมาเหนือเส้นขอบฟ้า ท้ายธารน้ำแข็ง Baltoro บริเวณ Gasherbrum Range ซึ่งจุดดังกล่าวยังมองเห็นเทือกเขา 5 ยอด ที่ระดับความสูง 7,000-8,000 เมตรทั้งสิ้น
วันต่อมา มีตัวเลือกว่า จะเดินทางไปกลับจาก Concordia ได้ภายใน 1 วันก็ได้ แต่ทว่านักปีนเขามักนิยมเลือกอีกข้อ คือการปีน Broad Peak และค้างคืนที่นั่น ซึ่งจะทำให้การเดินทางไป-กลับ K2 น่าพอใจมากกว่า
นักปีนเขาอาจรู้สึกว่าที่นี่ช่างโดดเดี่ยวเวิ้งว้าง แต่อย่าลืมว่าหากวัดระยะจากตีนเขาไปกว่าสองไมล์ ภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 2 ในโลก ก็ตั้งเด่นสง่าอยู่ตรงนั้น คุ้มค่าแก่การตรากตรำเดินทางมาแน่นอน
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางไหน การเดินทางผ่านเทือกเขาคาราโครัมแห่งปากีสถานภูเขาที่ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่สอง ก็เป็นหนึ่งในการเดินทางสุดคลาสสิคของโลก
ระยะทาง: การปีนเขาใช้เวลาโดยรวมราว 14 วัน ต้องมีความพร้อมสุขภาพดีและเคยปีนเขาสูงมาแล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ การข้ามผ่าน Gondogoro La จำเป็นต้องมีพื้นฐานเรื่องการผูกเชือกในการปีนเขา และการใช้ ice axe
การตั้งแคมป์: สิ่งอำนวยความสะดวกเพียงอย่างเดียวที่มีตลอดการเดินทาง คือ การตั้งแคมป์ ที่สามารถกางเต็นท์ได้สำหรับ 2 คน ดังนั้นนักเดินทางคนเดียวควรหาเพื่อนแชร์กัน ที่สำหรับตั้งแคมป์ตั้งอยู่บนหินหรือน้ำแข็ง ดังนั้น ควรมั่นใจว่ากางเต็นท์ได้มั่นคงและอบอุ่นเพียงพอ และระลึกไว้เสมอว่าที่ตั้งแคมป์ไม่มีห้องน้ำ ดังนั้น หากทำธุระในป่า ก็จงอย่าทิ้งร่องรอยไว้ (เช่น ขุดหลุม หรือ เผากระดาษชำระ)
ไปเมื่อไหร่: เดือนที่ดีที่สุดในการไปเยือนโคราโครัม คือ เดือนกรกฎาคม และเดือนสิงหาคม แต่ฤดูปีนเขาจะเริ่มตั้งแต่กลางๆ เดือนมิถุนายนไปถึงกลางเดือนกันยายน นอกจากเดือนเหล่านี้แล้ว จะยังมีหิมะหลงเหลืออยู่เยอะมากในทางที่ผ่านขึ้นไป ไม่น่าแปลกใจที่อากาศของโคราโครัมเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ดังนั้นต้องเตรียมตัวสำหรับลม ฝน หิมะ และอุณหภูมิที่ลดลงอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะเวลากลางคืน
การไปถึง: พิชิต K2 base camp ชาวต่างชาติต้องมีบัตรอนุญาตไกด์และได้รับ No Object Certificate จากสำนักงานการท่องเที่ยวใน Skardu การเดินทางเริ่มที่ Askole ซึ่งขับรถ 6 ชั่วโมงผ่าน 4WD จาก Skardu โดยมีเที่ยวบินสั้นภายในประเทศจากอิสลามาบัด (เวลาในการเดินทาง 1 ชั่วโมง) นักเดินทางสามารถทิ้งสัมภาระส่วนเกินที่ Skardu ไว้ที่เกสท์เฮาส์ นักท่องเที่ยวที่ไปปากีสถานต้องใช้วีซ่า ซึ่งดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://visa.nadra.gov.pk