แม้กาลเวลาผ่านไปแต่ความรักและความทรงจำ ที่สถิตย์อยู่ในหัวใจพสกนิกรไทยยังชัดเจน เนื่องในวันที่ 13 ตุลาคม อันเป็นวันครบรอบวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
The Passport ชวนชาวไทยน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ด้วยการตามรอยพระบาทไปยังเมืองโลซานน์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมืองอันเป็นที่ประทับของพระองค์เมื่อยังทรงพระเยาว์ ตามไปรู้จักกับสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวเนื่องกับพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของชนชาวไทย 1.Ancienne Academie (Old Academy)
สถานที่ศึกษาของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระองค์ทรงศึกษาด้านกฎหมายเมื่อปี ค.ศ. 1946-1951 ปัจจุบันสภาพภูมิทัศน์เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน ใกล้ๆกับมีบ้านพักสมัยยุคกลาง Saint-Maire ซึ่งรัชกาลที่ 9 และราชสกุลมหิดลเคยเสด็จมาพักในเดือนพฤศจิกายน 1960 2.Rimine Palace (Palais de Rumine)
เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระชนมพรรษา 19 และเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Lausanne พระองค์เข้าเรียนไม่ใช่เฉพาะที่ Anciene Academie แต่ยังมาเข้าคลาสที่พระราชวัง Rumine ด้วย ซึ่งวันนี้ที่นี่กลายเป็นพิพิธภัณฑ์และห้องสมุด 3. Ecole Nouvelle de la Suisse Romande in Chailly
โรงเรียนแห่งนี้ มีโอกาสต้อนรับกษัตริย์ ไทยทั้งสองพระองค์ คือ รัชกาลที่ 8 และ 9 เมื่อทรงพระเยาว์เสด็จมาเข้าเรียนประจำเมื่อปี 1933-1945 โดยปี 2010 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาเปิดอาคารเรียนใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติของกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ด้วย 4. Clinique Cecil
ในปี 1951 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเข้าพักรักษาตัวที่จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่โรงพยาบาล Clinique Cecil 5 .Avenue Auguste-Tissot 16
เดินจากสถานีรถไฟโลซานน์ไปตามทาง avenue Auguste-Tissot จะพบกับอพาร์ตเมนต์หลังแรกซึ่งราชสกุลมหิดลอาศัยอยู่ในโลซานน์เป็นที่แรก เมื่อสมเด็จย่าย้ายเข้าอยู่พร้อมพระโอรส และพระธิดาสามพระองค์ ฝั่งตรงกันข้ามยังมีร้านถ่ายรูปซึ่งเคยฉายพระบรมฉายาลักษณ์สำคัญไว้มากมายด้วย 6.Montchoisi ice rink
ลานสเก็ตน้ำแข็งนี้เปิดเมื่อปี 1934 ซึ่งสมเด็จย่ามักพาพระราชโอรส และธิดาพร้อมครูฝึกส่วนพระองค์มาเล่นสเก็ตที่นี่ มาซึมซับบรรยากาศแห่งความร่าเริงและความเป็นที่นิยมของที่นี่ได้ดีโดยเฉพาะในฤดูหนาว 7.Hotel Royal Savoy
โรงแรมนี้เปิดตัวเมื่อปี 1909 ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามทั้งภายในและภายนอก สมเด็จย่าทรงโปรดเล่นเทนนิสในคลับย่าน Montchosi ซึ่งอยู่ใกล้โรงแรมมาก ทุกวันนี้โรงแรมรีโนเวตใหม่และใช้ชื่อว่า Royal savoy 8.Beau-Rivage Palace
จากสมุดลงนามแขกของโรงแรม พบว่าล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคยเสด็จเข้าพักที่นี่วันที่ 10-17 มกราคม 1961 9. The Ouchy quays และ Denantou Park
ตามรอย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มายังสวนสาธารณะริมทะเลสาบอันงดงามซึ่งพระองค์ทรงใช้เดินเล่นทุกเย็นกับพระราชวงศ์ โดยจะทรงพระดำเนินเลียบไปตาม Ouchy quays ผ่านโรงแรม Beau-Rivage Palace ริมทะเลสาบเจนีวา ซึ่งมองเห็นเทือกเขาแอลป์ ในช่วงปี 1960 พระราชโอรสและพระธิดาของพระองค์ยังนิยมมาทรงพายเรือเล่นในทะเลสาบ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังมีเรือให้เช่าอยู่ ในปี เดือนมีนาคม ปี2009 ก็มีการเปิดศาลาไทยบริเวณใกล้กับทะเลสาบ ซึ่งมอบให้เป็นของขวัญแก่ชาวโลซานน์ แทนความผูกพันอย่างลึกซึ้งของแผ่นดินไทยกับเมืองโลซานน์ ซึ่งชาวสวิสเซอร์แลนด์ และชาวไทยที่ได้มาเยือนเมืองโลซานน์มักแวะเวียนมาชมศาลาไทยแห่งนี้ เพื่อรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อีกด้วย
The Passport ชวนชาวไทยน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ด้วยการตามรอยพระบาทไปยังเมืองโลซานน์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมืองอันเป็นที่ประทับของพระองค์เมื่อยังทรงพระเยาว์ ตามไปรู้จักกับสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวเนื่องกับพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของชนชาวไทย 1.Ancienne Academie (Old Academy)
สถานที่ศึกษาของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระองค์ทรงศึกษาด้านกฎหมายเมื่อปี ค.ศ. 1946-1951 ปัจจุบันสภาพภูมิทัศน์เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน ใกล้ๆกับมีบ้านพักสมัยยุคกลาง Saint-Maire ซึ่งรัชกาลที่ 9 และราชสกุลมหิดลเคยเสด็จมาพักในเดือนพฤศจิกายน 1960
เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระชนมพรรษา 19 และเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Lausanne พระองค์เข้าเรียนไม่ใช่เฉพาะที่ Anciene Academie แต่ยังมาเข้าคลาสที่พระราชวัง Rumine ด้วย ซึ่งวันนี้ที่นี่กลายเป็นพิพิธภัณฑ์และห้องสมุด
โรงเรียนแห่งนี้ มีโอกาสต้อนรับกษัตริย์ ไทยทั้งสองพระองค์ คือ รัชกาลที่ 8 และ 9 เมื่อทรงพระเยาว์เสด็จมาเข้าเรียนประจำเมื่อปี 1933-1945 โดยปี 2010 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาเปิดอาคารเรียนใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติของกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ด้วย
ในปี 1951 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเข้าพักรักษาตัวที่จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่โรงพยาบาล Clinique Cecil
เดินจากสถานีรถไฟโลซานน์ไปตามทาง avenue Auguste-Tissot จะพบกับอพาร์ตเมนต์หลังแรกซึ่งราชสกุลมหิดลอาศัยอยู่ในโลซานน์เป็นที่แรก เมื่อสมเด็จย่าย้ายเข้าอยู่พร้อมพระโอรส และพระธิดาสามพระองค์ ฝั่งตรงกันข้ามยังมีร้านถ่ายรูปซึ่งเคยฉายพระบรมฉายาลักษณ์สำคัญไว้มากมายด้วย
ลานสเก็ตน้ำแข็งนี้เปิดเมื่อปี 1934 ซึ่งสมเด็จย่ามักพาพระราชโอรส และธิดาพร้อมครูฝึกส่วนพระองค์มาเล่นสเก็ตที่นี่ มาซึมซับบรรยากาศแห่งความร่าเริงและความเป็นที่นิยมของที่นี่ได้ดีโดยเฉพาะในฤดูหนาว
โรงแรมนี้เปิดตัวเมื่อปี 1909 ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามทั้งภายในและภายนอก สมเด็จย่าทรงโปรดเล่นเทนนิสในคลับย่าน Montchosi ซึ่งอยู่ใกล้โรงแรมมาก ทุกวันนี้โรงแรมรีโนเวตใหม่และใช้ชื่อว่า Royal savoy
จากสมุดลงนามแขกของโรงแรม พบว่าล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคยเสด็จเข้าพักที่นี่วันที่ 10-17 มกราคม 1961
ตามรอย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มายังสวนสาธารณะริมทะเลสาบอันงดงามซึ่งพระองค์ทรงใช้เดินเล่นทุกเย็นกับพระราชวงศ์ โดยจะทรงพระดำเนินเลียบไปตาม Ouchy quays ผ่านโรงแรม Beau-Rivage Palace ริมทะเลสาบเจนีวา ซึ่งมองเห็นเทือกเขาแอลป์ ในช่วงปี 1960 พระราชโอรสและพระธิดาของพระองค์ยังนิยมมาทรงพายเรือเล่นในทะเลสาบ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังมีเรือให้เช่าอยู่