north america
Route 66 ถนนสายย้อนยุค ตำนานการขับรถเที่ยวอเมริกา
ถนนในตำนานที่ราวกับกาลเวลาหยุดนิ่งไว้เมื่อ 50 ปีก่อน
ภาพประกอบทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายของ shutterstock.com
อนุญาตให้ใช้สำหรับเผยแพร่ได้เฉพาะเว็บไซต์ และแฟนเพจ The Passport เท่านั้น
------------------------------------------------------
สำหรับการเดินทางสไตล์ Road Trip ในสหรัฐอเมริกาแบบคลาสสิก ได้อารมณ์ย้อนยุค คงไม่มีอะไรดีไปกว่า Route 66 เส้นทางที่เปรียบดั่ง 'Mother Road' ของประเทศ โดยนักประพันธ์ชื่อดัง John Steinbeck
ถนนสายหลักในเมืองเล็กๆ และทางแยกในชนบทคดเคี้ยวตัดผ่านใจกลางอเมริกา เริ่มแรกเชื่อมชิคาโกเข้ากับลอสแองเจลิสในปี 1926 ปลุกความคึกคักให้บรรดาเมืองเล็กๆ ที่บริการโรงแรมและที่พักริมทางรองรับนักเดินทาง
แรกเริ่มนั้น Cyrus Avery นักธุรกิจชาวโอคลาโฮมา หรือที่รู้จักในนาม ‘บิดาของ Route 66’ มีความคิดริเริ่มอยากให้ถนนสายนี้เป็นทางสายหลักของประเทศ เชื่อมต่อพื้นที่ Great Lakes กับแถบมหาสมุทรแปซิฟิก และก่อตั้งสมาคมเพื่อเผยแพร่ผลักดันการก่อสร้างด้วย ‘ถนนสายหลักของอเมริกา’ เชื่อมถนนต่างๆ ที่มีอยู่แล้วเข้าด้วยกัน รวมทั้งเชื่อมพื้นที่ชนบททั้งหลาย นับเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่ามากในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ เนื่องจากเป็นเส้นทางที่พาผู้อพยพจำนวนนับไม่ถ้วน ย้ายออกจาก Dust Bowl พื้นที่แร้นแค้นกันดารไปยังบริเวณที่อุดมสมบูรณ์กว่าอย่างแคลิฟอร์เนีย
ความรุ่งเรืองในช่วงหลังสงคราม ทำให้ชาวอเมริกันนำพาความหวังใหม่และเงินทองไปยังถนนสายกว้างที่ตัดสู่ อิลลินอยส์ มิสซูรี แคนซัส โอคลาโฮมา เท็กซัส นิวเม็กซิโก แอริโซนา และแคลิฟอร์เนีย นี่คือที่ที่วลีดาษดื่นอย่าง ‘หอบความหวังท่องไปบน Route 66’ ถือกำเนิดขึ้น
แต่สิ่งที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง จนทำให้ Route 66 หมดหน้าที่และค่อยๆมีความสำคัญน้อยลงไป คือ ในปี 1984 ซึ่งมีระบบทางหลวงระหว่างรัฐแบบใหม่ เส้นทางเดิมสายนี้จึงถูกตัดเส้นทางทับ หรือกลายเป็นทางเลี่ยง แม้สมาคมอนุรักษ์จะดำเนินการคัดค้านแล้วก็ตาม
แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป การหมดความสำคัญในด้านคมนาคม ก็กลายเป็นความสำคัญในด้านการท่องเที่ยว เพราะถนนสายนี้เสมือนอุโมงค์กาลเวลาที่ย้อนพาเราสู่อเมริกายุคเก่า ทั้งบรรดาร้านอาหาร ถังกดโซดา และโรงแรมริมทาง พร้อมสถานที่ท่องเที่ยวริมถนนมากมายที่ให้ความรู้สึกถึงความหลังราวกับทุกอย่างหยุดนิ่งไม่ได้เปลี่ยนไปตามยุคสมัย
ไม่ว่าคุณจะแสวงหาการสำรวจอเมริกาย้อนยุค หรือเพียงแค่ต้องการสัมผัสขอบฟ้าอันกว้างใหญ่ ทิวทัศน์ที่น่าหลงใหลห่างไกลจากฝูงชน Route 66 ก็จะพาไปที่นั่น พบปะกับชาวนาในรัฐอิลลินอยส์ ถนนสายเก่าในมิสซูรี ฟังตำนานคาวบอยและอินเดียนแดงในโอคลาโฮมา เยี่ยมชมชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันร่วมสมัยทั่วตะวันตกเฉียงใต้ ตามรอยเส้นทางของคนงานเหมืองและผู้สิ้นหวังที่ลึกลงไปใน Old West ไปจนถึงปลายถนนเป็นชายหาดซานตาโมนิกาของแคลิฟอร์เนียตอนใต้ที่มีแสงแดดอันอบอุ่น
ระยะทาง : 3,940 กิโลเมตร
ระยะเวลาที่เหมาะสมในการขับรถเที่ยว : 2 สัปดาห์
ช่วงที่ดีที่สุด : พฤษภาคม – กันยายน ควรหลีกเลี่ยงฤดูหนาวที่หิมะตก
Tags: