หาดทรายสีขาวระยิบระยับ น้ำทะเลใส และโบราณสถานที่มีชื่อเสียง ทำให้กรีซมีทุกบรรยากาศที่เหล่านักท่องเที่ยวตามหา และนี่คือคำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการเดินทางครั้งแรกในประเทศที่เป็นกำเนิดความรุ่งเรืองแห่งโลกตะวันตก
Ancient Athens
เอเธนส์มักจะเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ เสมอ สถานที่ที่พลาดไม่ได้เลย คือ Acropolis ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหารพาร์เธนอน และรูปปั้นหญิงสาวหญิงสาว Caryatids ที่ยืนรองรับหลังคาของวิหาร Erechtheion
การเดินชมดินแดนแห่งกรีซโบราณ เริ่มต้นที่ Acropolis ไปยัง Ancient Agora ชมซากอารยธรรมการค้า การเมือง และสังคม จากนั้นอย่าลืมแวะไปที่ Temple of Olympian Zeus เพื่อชมเสาขนาดมหึมาที่ว่ากันว่าเป็นอารามที่ใหญ่ที่สุดในกรีซ และสนามกีฬา Panathenaic ที่ยังคงใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ไปจนถึงมรดกชาวโรมันอย่าง Hadrian’s Arch และ Roman Agora พร้อมด้วย Tower of the Winds
ตลาดนัด Monastiraki เรียงรายไปด้วยซุ้มขายของที่ระลึก เสื้อผ้า เครื่องหนัง เครื่องประดับ และของเก่า มุ่งหน้าไปยังหนึ่งในจัตุรัสกลางตลาดนั่นคือ Plateia Avyssinias ที่เหมาะกับการนั่งพักผ่อนยามบ่าย ที่ Café Avissinia ซึ่งซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางกองเฟอร์นิเจอร์และประดับด้วยเพชรพลอย พร้อมด้วยทิวทัศน์ของ Acropolis จากชั้นบนสุด
เมื่ออยู่ในกรีซให้ทำตัวเสมือนชาวกรีก ทั่วเอเธนส์ จัตุรัสกลางของเมืองทั่วเกาะ ไปจนถึงเมืองในชนบท เต็มไปด้วยคาเฟ่น่านั่งจิบกาแฟและนั่งดูผู้คนสนทนา แล้วลองสั่งกาแฟกรีก เช่น sketo (กาแฟดำ), metrio (กาแฟใส่น้ำตาล) หรือ glyko (กาแฟหวานพิเศษ)
ซานโตรินีเป็นภาพถ่ายที่สมบูรณ์แบบบนโปสการ์ด ความงามและชื่อเสียงมาพร้อมราคาที่ต้องจ่าย เพราะเมืองริมทะเลแห่งนี้อัดแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น (เมษายน-ต้นพฤศจิกายน) ส่วนช่วงอื่น ๆ ที่เหลือจะมีอากาศเย็นลงแต่ก็จะสงบมากขึ้น ทำให้ง่ายต่อการยืนชมวิวหน้าผาแบบไร้สิ่งกีดขวาง และการจับจองที่นั่งชมวิวพระอาทิตย์ตก
Mykonos เป็นดินแดนแห่งการปาร์ตี้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะที่สโมสรชายหาดสุดเก๋อย่าง Paradise และ Super Paradise หรือเลือกไปเดินเล่นตามถนนของเมืองที่ซับซ้อนราวเขาวงกต Mykonos Town (Hora) หรือเต้นรำยามค่ำคืนในสถานที่ต่าง ๆ เช่น Cavo Paradiso ปาร์ตี้กลางแจ้ง ส่วนที่ Delos เป็นหนึ่งในสถานที่โบราณที่ล้ำค่าที่สุดของกรีซ ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ นอกชายฝั่ง ตามตำนานเล่าว่าบ้านเกิดในตำนานของสองเทพเจ้ากรีกโบราณที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือ ฝาแฝดอพอลโลและอาร์เทมิส เดลอสโบราณจึงเป็นทั้งเมืองแห่งความศักดิ์สิทธิ์และศูนย์กลางการค้า
หมู่เกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังดึงดูดนักท่องเที่ยวทุก ๆ ปี แต่มันก็คุ้มที่จะเพิ่มเกาะอื่น ๆ เข้าไปในแผนการเดินทางโดยเฉพาะหมู่เกาะรอบ ๆ Cyclades เพราะแต่ละเกาะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง อย่างเช่นที่ Milos ก็เป็นเกาะที่มีชายหาดภูเขาไฟ ส่วนเกาะ Sifnos ก็งดงามราวกับเทพนิยาย แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศของการผจญภัยแบบดิบ ๆ ต้องเป็นเกาะ Serifos รวมถึงเกาะ Naxos ที่เต็มไปด้วยเส้นทางเดินเขา
หากคุณมีเวลาสั้น ๆ และไม่มีแผนจะพักผ่อนในที่พักสุดหรูหราตามเกาะต่าง ๆ ลองมุ่งตรงจากเอเธนส์ไปยังไฮดราใน Saronics ที่ใช้เวลาเดินทางเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งจากท่าเรือหลักของ Piraeus ที่นี่เมืองท่าเรือที่มีรูปเกือกม้า งดงามด้วยคฤหาสน์หินสง่างามบนเนินเขาหิน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสถานที่พักผ่อนสุดโปรดของเหล่าศิลปิน และเหล่าคนดัง สิ่งที่น่าสนใจมาก ๆ คือ ที่นี่ไม่มียานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์ใด ๆ ทั้งนั้น
กรีซมีเทศกาลเกิดขึ้นตลอดทั้งปี ตั้งแต่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ไปจนถึงเมืองใหญ่ คานิวัล หรือที่เรียกว่า Apokreas เป็นช่วงเวลาที่ชาวกรีซจะออกมาประชันการแต่งกายแบบจัดเต็ม อีกหนึ่งเทศกาลที่โด่งดังที่สุดคือ ขบวนพาเหรด Patras Carnival นอกจากนั้นยังมีเทศกาลอีสเตอร์เฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิ ก็จะจัดขึ้นเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็ม และในฤดูร้อน จะมีเทศกาล Athens & Epidaurus ที่โรงละคร Epidavros โบราณอันวิจิตรงดงาม และที่ Odeon of Herodes Atticus ของเอเธนส์ ซึ่งอยู่ติดกับอะโครโพลิส ทั้งสองแห่งนี้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงทางวัฒนธรรม มีให้ชมทั้งดนตรี การเต้นรำ และละคร
Ancient Athens
เอเธนส์มักจะเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ เสมอ สถานที่ที่พลาดไม่ได้เลย คือ Acropolis ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหารพาร์เธนอน และรูปปั้นหญิงสาวหญิงสาว Caryatids ที่ยืนรองรับหลังคาของวิหาร Erechtheion
การเดินชมดินแดนแห่งกรีซโบราณ เริ่มต้นที่ Acropolis ไปยัง Ancient Agora ชมซากอารยธรรมการค้า การเมือง และสังคม จากนั้นอย่าลืมแวะไปที่ Temple of Olympian Zeus เพื่อชมเสาขนาดมหึมาที่ว่ากันว่าเป็นอารามที่ใหญ่ที่สุดในกรีซ และสนามกีฬา Panathenaic ที่ยังคงใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ไปจนถึงมรดกชาวโรมันอย่าง Hadrian’s Arch และ Roman Agora พร้อมด้วย Tower of the Winds
ตลาดนัด Monastiraki เรียงรายไปด้วยซุ้มขายของที่ระลึก เสื้อผ้า เครื่องหนัง เครื่องประดับ และของเก่า มุ่งหน้าไปยังหนึ่งในจัตุรัสกลางตลาดนั่นคือ Plateia Avyssinias ที่เหมาะกับการนั่งพักผ่อนยามบ่าย ที่ Café Avissinia ซึ่งซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางกองเฟอร์นิเจอร์และประดับด้วยเพชรพลอย พร้อมด้วยทิวทัศน์ของ Acropolis จากชั้นบนสุด
เมื่ออยู่ในกรีซให้ทำตัวเสมือนชาวกรีก ทั่วเอเธนส์ จัตุรัสกลางของเมืองทั่วเกาะ ไปจนถึงเมืองในชนบท เต็มไปด้วยคาเฟ่น่านั่งจิบกาแฟและนั่งดูผู้คนสนทนา แล้วลองสั่งกาแฟกรีก เช่น sketo (กาแฟดำ), metrio (กาแฟใส่น้ำตาล) หรือ glyko (กาแฟหวานพิเศษ)
ซานโตรินีเป็นภาพถ่ายที่สมบูรณ์แบบบนโปสการ์ด ความงามและชื่อเสียงมาพร้อมราคาที่ต้องจ่าย เพราะเมืองริมทะเลแห่งนี้อัดแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น (เมษายน-ต้นพฤศจิกายน) ส่วนช่วงอื่น ๆ ที่เหลือจะมีอากาศเย็นลงแต่ก็จะสงบมากขึ้น ทำให้ง่ายต่อการยืนชมวิวหน้าผาแบบไร้สิ่งกีดขวาง และการจับจองที่นั่งชมวิวพระอาทิตย์ตก
Mykonos เป็นดินแดนแห่งการปาร์ตี้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะที่สโมสรชายหาดสุดเก๋อย่าง Paradise และ Super Paradise หรือเลือกไปเดินเล่นตามถนนของเมืองที่ซับซ้อนราวเขาวงกต Mykonos Town (Hora) หรือเต้นรำยามค่ำคืนในสถานที่ต่าง ๆ เช่น Cavo Paradiso ปาร์ตี้กลางแจ้ง ส่วนที่ Delos เป็นหนึ่งในสถานที่โบราณที่ล้ำค่าที่สุดของกรีซ ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ นอกชายฝั่ง ตามตำนานเล่าว่าบ้านเกิดในตำนานของสองเทพเจ้ากรีกโบราณที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือ ฝาแฝดอพอลโลและอาร์เทมิส เดลอสโบราณจึงเป็นทั้งเมืองแห่งความศักดิ์สิทธิ์และศูนย์กลางการค้า
หมู่เกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังดึงดูดนักท่องเที่ยวทุก ๆ ปี แต่มันก็คุ้มที่จะเพิ่มเกาะอื่น ๆ เข้าไปในแผนการเดินทางโดยเฉพาะหมู่เกาะรอบ ๆ Cyclades เพราะแต่ละเกาะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง อย่างเช่นที่ Milos ก็เป็นเกาะที่มีชายหาดภูเขาไฟ ส่วนเกาะ Sifnos ก็งดงามราวกับเทพนิยาย แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศของการผจญภัยแบบดิบ ๆ ต้องเป็นเกาะ Serifos รวมถึงเกาะ Naxos ที่เต็มไปด้วยเส้นทางเดินเขา
หากคุณมีเวลาสั้น ๆ และไม่มีแผนจะพักผ่อนในที่พักสุดหรูหราตามเกาะต่าง ๆ ลองมุ่งตรงจากเอเธนส์ไปยังไฮดราใน Saronics ที่ใช้เวลาเดินทางเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งจากท่าเรือหลักของ Piraeus ที่นี่เมืองท่าเรือที่มีรูปเกือกม้า งดงามด้วยคฤหาสน์หินสง่างามบนเนินเขาหิน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสถานที่พักผ่อนสุดโปรดของเหล่าศิลปิน และเหล่าคนดัง สิ่งที่น่าสนใจมาก ๆ คือ ที่นี่ไม่มียานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์ใด ๆ ทั้งนั้น
กรีซมีเทศกาลเกิดขึ้นตลอดทั้งปี ตั้งแต่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ไปจนถึงเมืองใหญ่ คานิวัล หรือที่เรียกว่า Apokreas เป็นช่วงเวลาที่ชาวกรีซจะออกมาประชันการแต่งกายแบบจัดเต็ม อีกหนึ่งเทศกาลที่โด่งดังที่สุดคือ ขบวนพาเหรด Patras Carnival นอกจากนั้นยังมีเทศกาลอีสเตอร์เฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิ ก็จะจัดขึ้นเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็ม และในฤดูร้อน จะมีเทศกาล Athens & Epidaurus ที่โรงละคร Epidavros โบราณอันวิจิตรงดงาม และที่ Odeon of Herodes Atticus ของเอเธนส์ ซึ่งอยู่ติดกับอะโครโพลิส ทั้งสองแห่งนี้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงทางวัฒนธรรม มีให้ชมทั้งดนตรี การเต้นรำ และละคร
