ทาชเคนต์เป็นเมืองหลวงของอุซเบกิสถาน ซึ่งผสมผสานระหว่างของเก่าและของใหม่ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว มีผังเมืองที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ถ้าอยากสัมผัสวิถีชีวิตสไตล์คนเมือง ลองใช้เวลาเดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อย ๆ สักวันสองวัน แล้วจะพบว่าทาชเคนต์ก็ทำให้ตกหลุมรักได้ไม่ยาก Independence Square
สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1991 ตอนแรกให้ชื่อว่า จตุรัสเลนนิน แต่หลังจากประกาศอิสรภาพจากโซเวียตในปี ค.ศ.1991 ก็เปลี่ยนชื่อกลายเป็นจตุรัสอิสรภาพมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นเสาหินอ่อนเชื่อมต่อกันด้วยสะพาน ด้านบนสุดตรงกลางเป็นรูปปั้นนกกระทุงสามตัวบินอยู่รอบโลกสื่อถึงความโชคดี ด้านในสุดมีรูปปั้น Happy Mother ความสูง 6 เมตร เป็นสัญลักษณ์ของแม่ที่หมายถึงบ้านเกิดเมืองนอน
จัตุรัสนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองทาชเคนต์ มีลานน้ำพุขนาดใหญ่ด้านหน้า ทุกวันนี้ใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และเป็นสถานที่จัดงานเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพของอุซเบกิสถานในวันที่ 1 กันยายน และวันขึ้นปีใหม่ ของทุก ๆ ปี
ใกล้ๆกันมีอนุสรณ์ Glory and Memory Alley สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่สอง มีรูปปั้น Sad Mother ตั้งอยู่ ว่ากันว่าคบเพลิงที่ตั้งอยู่ด้านหน้ารูปปั้นนั้นไม่เคยดับลงเลย Hast Imam Square
ศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญที่สุดในทาชเคนต์ ตั้งอยู่ในย่านเมืองโบราณท่ามกลางบ้านเรือนเก่า ๆ ด้านในประกอบไปด้วยโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม Imam al-Bukhari, มัสยิด Tilla Sheikh และสุสานของ Saint Abu Bakr Kaffal Shashi ทั้งหมดเชื่อมต่อกันด้วยลานกว้าง
ตัวมัสยิดเป็นอาคารที่สร้างใหม่เมื่อปี 2007 ตามรูปแบบสถาปัตยกรรมเอเชียกลางแบบดั้งเดิม มีโดมสีฟ้าและหอคอยคู่ ส่วนฝั่งตรงข้ามนั้นกลายเป็นร้านขายของที่ระลึกหลายชนิด ทั้งเสื้อผ้า งานไม้แกะสลัก และงานเซรามิก Palace of Prince Romanov
ว่ากันว่าพระราชวังแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยที่สุดในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เพื่อนเป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าชาย Nikolay Konstantinovich Romanov นับเป็นอาคารที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในเมือง ด้วยลักษณะของอาคารอิฐชั้นเดียว บนสุดเป็นหลังคาโดมและหลังคายอดแหลม มีรูปปั้นกวางและสุนัขล่าสัตว์อยู่ด้านหน้าเพราะว่าเจ้าชายแห่งโรมานอฟชื่นชอบการล่าสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ ก่อนหน้านั้นเคยเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงของเก่า แต่ตอนนี้สามารถชมได้แค่ด้านนอกเท่านั้น Assumption Cathedral
วิหารอัสสัมชัญของพระแม่มารี เป็นโบสถ์ออร์โธดอกซ์รัสเซียสร้างขึ้นในปี 1871 ตัวอาคารเป็นสีฟ้าและยอดโดมเป็นสีทอง วิหารแห่งนี้เดินทางผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน มีช่วงหนึ่งเคยปิดไปเพราะสงครามปี 1933 และกลับมาเปิดอีกครั้งแต่ทำหน้าที่เป็นคลังทหารในปี 1945
หอระฆังอันงดงามที่เห็นนั้นเป็นส่วนที่สร้างเพิ่มเติมใหม่เมื่อไม่นานมานี้ ภายในนั้นงดงามมาก มีภาพวาดบนเพดานให้ได้ชม แต่ห้ามเก็บภาพด้วยกล้องใหญ่ อนุญาตเพียงกล้องจากโทรศัพท์มือถือเท่านั้น Chorsu Bazaar
ตลาดอายุนับร้อยปีแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีโดมขนาดใหญ่ซึ่งด้านในนั้นขายพวกของกินต่าง ๆ เช่น ถั่ว โยเกิร์ต เนื้อสัตว์ ไส้กรอก และผักผลไม้นานาชนิด ส่วนด้านนอกเป็นตลาดคล้าย ๆ ตลาดนัดถนนคนเดิน มีสตรีทฟู้ดง่าย ๆ อย่างเคบับ ขนมปัง ข้าวโพด ไปจนถึงเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ และของฝากสำหรับนักท่องเที่ยว Earthquake Memorial
อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1976 เนื่องในวันครบรอบ 10 ปีของเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของอุซเบกิสถาน รูปปั้นประกอบไปด้วยผู้ชายและผู้หญิงที่กำลังอุ้มเด็ก สื่อถึงผู้ชายที่กำลังปกป้องครอบครัวจากแผ่นดินไหว ด้านหน้ารูปปั้นมีแท่นหินทรงสี่เหลี่ยม ด้านหนึ่งเป็นหน้าปัดนาฬิกาบอกเวลาตี 5.26 นาฬิกา ซึ่งเป็นเวลาเกิดเหตุ
สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1991 ตอนแรกให้ชื่อว่า จตุรัสเลนนิน แต่หลังจากประกาศอิสรภาพจากโซเวียตในปี ค.ศ.1991 ก็เปลี่ยนชื่อกลายเป็นจตุรัสอิสรภาพมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นเสาหินอ่อนเชื่อมต่อกันด้วยสะพาน ด้านบนสุดตรงกลางเป็นรูปปั้นนกกระทุงสามตัวบินอยู่รอบโลกสื่อถึงความโชคดี ด้านในสุดมีรูปปั้น Happy Mother ความสูง 6 เมตร เป็นสัญลักษณ์ของแม่ที่หมายถึงบ้านเกิดเมืองนอน
จัตุรัสนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองทาชเคนต์ มีลานน้ำพุขนาดใหญ่ด้านหน้า ทุกวันนี้ใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และเป็นสถานที่จัดงานเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพของอุซเบกิสถานในวันที่ 1 กันยายน และวันขึ้นปีใหม่ ของทุก ๆ ปี
ใกล้ๆกันมีอนุสรณ์ Glory and Memory Alley สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่สอง มีรูปปั้น Sad Mother ตั้งอยู่ ว่ากันว่าคบเพลิงที่ตั้งอยู่ด้านหน้ารูปปั้นนั้นไม่เคยดับลงเลย
ศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญที่สุดในทาชเคนต์ ตั้งอยู่ในย่านเมืองโบราณท่ามกลางบ้านเรือนเก่า ๆ ด้านในประกอบไปด้วยโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม Imam al-Bukhari, มัสยิด Tilla Sheikh และสุสานของ Saint Abu Bakr Kaffal Shashi ทั้งหมดเชื่อมต่อกันด้วยลานกว้าง
ตัวมัสยิดเป็นอาคารที่สร้างใหม่เมื่อปี 2007 ตามรูปแบบสถาปัตยกรรมเอเชียกลางแบบดั้งเดิม มีโดมสีฟ้าและหอคอยคู่ ส่วนฝั่งตรงข้ามนั้นกลายเป็นร้านขายของที่ระลึกหลายชนิด ทั้งเสื้อผ้า งานไม้แกะสลัก และงานเซรามิก
ว่ากันว่าพระราชวังแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยที่สุดในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เพื่อนเป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าชาย Nikolay Konstantinovich Romanov นับเป็นอาคารที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในเมือง ด้วยลักษณะของอาคารอิฐชั้นเดียว บนสุดเป็นหลังคาโดมและหลังคายอดแหลม มีรูปปั้นกวางและสุนัขล่าสัตว์อยู่ด้านหน้าเพราะว่าเจ้าชายแห่งโรมานอฟชื่นชอบการล่าสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ ก่อนหน้านั้นเคยเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงของเก่า แต่ตอนนี้สามารถชมได้แค่ด้านนอกเท่านั้น
วิหารอัสสัมชัญของพระแม่มารี เป็นโบสถ์ออร์โธดอกซ์รัสเซียสร้างขึ้นในปี 1871 ตัวอาคารเป็นสีฟ้าและยอดโดมเป็นสีทอง วิหารแห่งนี้เดินทางผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน มีช่วงหนึ่งเคยปิดไปเพราะสงครามปี 1933 และกลับมาเปิดอีกครั้งแต่ทำหน้าที่เป็นคลังทหารในปี 1945
หอระฆังอันงดงามที่เห็นนั้นเป็นส่วนที่สร้างเพิ่มเติมใหม่เมื่อไม่นานมานี้ ภายในนั้นงดงามมาก มีภาพวาดบนเพดานให้ได้ชม แต่ห้ามเก็บภาพด้วยกล้องใหญ่ อนุญาตเพียงกล้องจากโทรศัพท์มือถือเท่านั้น
ตลาดอายุนับร้อยปีแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีโดมขนาดใหญ่ซึ่งด้านในนั้นขายพวกของกินต่าง ๆ เช่น ถั่ว โยเกิร์ต เนื้อสัตว์ ไส้กรอก และผักผลไม้นานาชนิด ส่วนด้านนอกเป็นตลาดคล้าย ๆ ตลาดนัดถนนคนเดิน มีสตรีทฟู้ดง่าย ๆ อย่างเคบับ ขนมปัง ข้าวโพด ไปจนถึงเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ และของฝากสำหรับนักท่องเที่ยว
อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1976 เนื่องในวันครบรอบ 10 ปีของเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของอุซเบกิสถาน รูปปั้นประกอบไปด้วยผู้ชายและผู้หญิงที่กำลังอุ้มเด็ก สื่อถึงผู้ชายที่กำลังปกป้องครอบครัวจากแผ่นดินไหว ด้านหน้ารูปปั้นมีแท่นหินทรงสี่เหลี่ยม ด้านหนึ่งเป็นหน้าปัดนาฬิกาบอกเวลาตี 5.26 นาฬิกา ซึ่งเป็นเวลาเกิดเหตุ