เริ่มต้นด้วยการเดินเล่นย่านเมืองเก่าของเมืองอินส์บรุค จากนั้นสวมรองเท้าบู๊ต เพื่อสำรวจหุบเขา Zillertal ก่อนจะออกขับรถเที่ยวตามถนนสายสูงชันบนเทือกเขาแอลป์ และท่องลึกเข้าไปในธรรมชาติของเมือง Salzburgerland แล้วปิดทริปด้วยการล่องเรือที่เมืองแห่งทะเลสาบของออสเตรีย Innsbruck
อินส์บรุค ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเวียนนาไปทางตะวันตกประมาณ 200 ไมล์ และโอบล้อมไปด้วยภูเขา มีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่เพราะในอดีตเคยเป็นเส้นทางการค้าโบราณบนเทือกเข้าแอลป์ นั่นคือเส้นทาง Brenner Pass ทั้งนักแสวงบุญ พ่อค้า และกองทหารม้า ผ่านเมืองนี้เพื่อเดินทางไปยังอิตาลีและแถบเมดิเตอร์เรเนียน
ปัจจุบัน อินส์บรุคเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง มีกระเช้าไฟฟ้าพานักปีนเขา นักสกี และนักสโนว์บอร์ดจากจัตุรัสย่าน Altstadt ไปยังใจกลางเทือกเขา Nordkette บนความสูงกว่า 2,000 เมตร โดยใช้เวลาเพียง 20 นาที บนยอดเขามีจุดชมวิวมองเห็นหลังคาอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ในเมือง
ข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติม innsbruck.info Zillertal
นักไต่เขาและนักปีนเขารุ่นแล้วรุ่นเล่า ต่างมาทดสอบความกล้ารอบ ๆ หุบเขาละแวกนี้ เพราะที่นี่ได้ชื่อว่าจะเป็นภูมิภาคสำหรับการปีนเขา และยังมีทัศนียภาพของป่าดิบที่สุดในเทือกเขาแอลป์ มีทั้งทะเลสาบ ที่ราบ และทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่า รถกระเช้าจะให้บริการจนถึงจุดเริ่มปีน มีกระท่อมกลางหุบเขาที่เสิร์ฟอาหารจานร้อน และสถานที่พักค้างคืนในบรรยากาศชนบทเก่า ๆ สำหรับบริการนักท่องเที่ยวที่เดินทางระยะไกล อาหารจานเด็ดของคนภูเขา มีตั้งแต่ซุปชีส ไส้กรอกตากแห้ง ขนมปังกรอบ ไปจนถึงสตูเนื้อต่าง ๆ
ข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติม zillertal.at The Grossglockner Road
ไม่มีถนนสายไหนจะสู้ความงดงามของ Grossglockner High Alpine Road ซึ่งเปิดให้เห็นความงามสง่าของภูเขาได้อย่างเต็มตา การขับรถตามถนนคดเคี้ยวราว 30 ไมล์ ผ่านอุทยานแห่งชาติ Hohe Tauern National Park นี้ นับเป็นการขับที่ตื่นเต้นที่สุดและสูงที่สุดในออสเตรีย จนแทบจะเรียกว่ารางรถไฟเหาะแทนถนนเพราะทั้งโค้งวกไปวนมา และลาดชัน
อันตรายที่อาจพบได้คือ สายหมอก กองหินร่วง และแพะภูเขาที่ไม่เป็นมิตร เส้นทางนี้ทอดตัวไปยังช่องเขา Hochtor ที่ถูกใช้งานมาตั้งแต่ก่อนยุคโรมัน เลยไปอีกเป็นทางขึ้นไปสู่เทือกเขา Edelweiss Spitze มีทัศนียภาพครอบคลุมยอดเขากว่า 30 ยอด
ค่าธรรมเนียมในการใช้ถนน แบบขาเดียว 1,500 บาท
ข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติ่ม grossglockner.at Salzburgerland
ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติบนภูเขาของซาลส์บวร์ก อยู่ลึกเข้าไปในภูเขา Hochkogel ภายในอุณหภูมิหนาวยะเยือก การก่อตัวของน้ำแข็งมีชื่อเรียกว่า Eisriesenwelt ถ้ำน้ำแข็งเกิดจากความมหัศจรรย์ทางภูมิศาสตร์ โดยมีรูปร่างคล้ายปล่องไฟ คอยดูดอากาศหนาวเย็นในฤดูหนาว และป้องกันไม่ให้อากาศร้อนเข้ามาในฤดูร้อน นั่นหมายความว่า น้ำภายในจะจับตัวเป็นน้ำแข็งและไม่เคยละลายโดยสมบูรณ์ จากนั้นน้ำแข็งก็จะก่อตัวขึ้นทีละน้อย จากนิ้วก็หลายเป็นฟุตไปเรื่อย ๆ มายาวนานหลายล้านปี สะสมจนกลายเป็นก่อนน้ำแข็งขนาดมหึมา ซึ่งถ้ำนี้จะปิดในฤดูหนาวเพราะอากาศหนาวเย็นเกินไป และจะเปิดอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ไปจนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี
ข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติม eisriesenwelt.at The Austrain Lake District
เมือง Hallstatt ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Hallstattersee ห่างจากเมือง Salzburg ไปราว 40 ไมล์ ทอดตัวยาวไปทางตะวันออกจนถึงภูเขา Dachstein ในสมัยก่อนพื้นที่ตรงนี้เป็นที่โปรดปรานของราชวงศ์ฮับส์บูร์ก เหมาะสำหรับการ Sommerfrische (การเติมความสดชื่นในฤดูร้อน) เช่น การมาพายเรือในทะเลสาบ เดินเล่นริมชายฝั่ง และเดินป่า จนที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไร Hallstatt ก็ยังคงเหมือนเดิม อาคารบ้านเรือนได้รับการดูแลรักษาไว้อย่างดี ได้รับการคุ้มครองจากองค์การยูเนสโก ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงออกเรือไปจับปลาด้วยวิธีดั้งเดิม
ข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติม salzkammergut.at
อินส์บรุค ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเวียนนาไปทางตะวันตกประมาณ 200 ไมล์ และโอบล้อมไปด้วยภูเขา มีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่เพราะในอดีตเคยเป็นเส้นทางการค้าโบราณบนเทือกเข้าแอลป์ นั่นคือเส้นทาง Brenner Pass ทั้งนักแสวงบุญ พ่อค้า และกองทหารม้า ผ่านเมืองนี้เพื่อเดินทางไปยังอิตาลีและแถบเมดิเตอร์เรเนียน
ปัจจุบัน อินส์บรุคเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง มีกระเช้าไฟฟ้าพานักปีนเขา นักสกี และนักสโนว์บอร์ดจากจัตุรัสย่าน Altstadt ไปยังใจกลางเทือกเขา Nordkette บนความสูงกว่า 2,000 เมตร โดยใช้เวลาเพียง 20 นาที บนยอดเขามีจุดชมวิวมองเห็นหลังคาอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ในเมือง
ข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติม innsbruck.info
นักไต่เขาและนักปีนเขารุ่นแล้วรุ่นเล่า ต่างมาทดสอบความกล้ารอบ ๆ หุบเขาละแวกนี้ เพราะที่นี่ได้ชื่อว่าจะเป็นภูมิภาคสำหรับการปีนเขา และยังมีทัศนียภาพของป่าดิบที่สุดในเทือกเขาแอลป์ มีทั้งทะเลสาบ ที่ราบ และทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่า รถกระเช้าจะให้บริการจนถึงจุดเริ่มปีน มีกระท่อมกลางหุบเขาที่เสิร์ฟอาหารจานร้อน และสถานที่พักค้างคืนในบรรยากาศชนบทเก่า ๆ สำหรับบริการนักท่องเที่ยวที่เดินทางระยะไกล อาหารจานเด็ดของคนภูเขา มีตั้งแต่ซุปชีส ไส้กรอกตากแห้ง ขนมปังกรอบ ไปจนถึงสตูเนื้อต่าง ๆ
ข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติม zillertal.at
ไม่มีถนนสายไหนจะสู้ความงดงามของ Grossglockner High Alpine Road ซึ่งเปิดให้เห็นความงามสง่าของภูเขาได้อย่างเต็มตา การขับรถตามถนนคดเคี้ยวราว 30 ไมล์ ผ่านอุทยานแห่งชาติ Hohe Tauern National Park นี้ นับเป็นการขับที่ตื่นเต้นที่สุดและสูงที่สุดในออสเตรีย จนแทบจะเรียกว่ารางรถไฟเหาะแทนถนนเพราะทั้งโค้งวกไปวนมา และลาดชัน
อันตรายที่อาจพบได้คือ สายหมอก กองหินร่วง และแพะภูเขาที่ไม่เป็นมิตร เส้นทางนี้ทอดตัวไปยังช่องเขา Hochtor ที่ถูกใช้งานมาตั้งแต่ก่อนยุคโรมัน เลยไปอีกเป็นทางขึ้นไปสู่เทือกเขา Edelweiss Spitze มีทัศนียภาพครอบคลุมยอดเขากว่า 30 ยอด
ค่าธรรมเนียมในการใช้ถนน แบบขาเดียว 1,500 บาท
ข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติ่ม grossglockner.at
ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติบนภูเขาของซาลส์บวร์ก อยู่ลึกเข้าไปในภูเขา Hochkogel ภายในอุณหภูมิหนาวยะเยือก การก่อตัวของน้ำแข็งมีชื่อเรียกว่า Eisriesenwelt ถ้ำน้ำแข็งเกิดจากความมหัศจรรย์ทางภูมิศาสตร์ โดยมีรูปร่างคล้ายปล่องไฟ คอยดูดอากาศหนาวเย็นในฤดูหนาว และป้องกันไม่ให้อากาศร้อนเข้ามาในฤดูร้อน นั่นหมายความว่า น้ำภายในจะจับตัวเป็นน้ำแข็งและไม่เคยละลายโดยสมบูรณ์ จากนั้นน้ำแข็งก็จะก่อตัวขึ้นทีละน้อย จากนิ้วก็หลายเป็นฟุตไปเรื่อย ๆ มายาวนานหลายล้านปี สะสมจนกลายเป็นก่อนน้ำแข็งขนาดมหึมา ซึ่งถ้ำนี้จะปิดในฤดูหนาวเพราะอากาศหนาวเย็นเกินไป และจะเปิดอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ไปจนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี
ข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติม eisriesenwelt.at
เมือง Hallstatt ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Hallstattersee ห่างจากเมือง Salzburg ไปราว 40 ไมล์ ทอดตัวยาวไปทางตะวันออกจนถึงภูเขา Dachstein ในสมัยก่อนพื้นที่ตรงนี้เป็นที่โปรดปรานของราชวงศ์ฮับส์บูร์ก เหมาะสำหรับการ Sommerfrische (การเติมความสดชื่นในฤดูร้อน) เช่น การมาพายเรือในทะเลสาบ เดินเล่นริมชายฝั่ง และเดินป่า จนที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไร Hallstatt ก็ยังคงเหมือนเดิม อาคารบ้านเรือนได้รับการดูแลรักษาไว้อย่างดี ได้รับการคุ้มครองจากองค์การยูเนสโก ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงออกเรือไปจับปลาด้วยวิธีดั้งเดิม
ข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติม salzkammergut.at