หนีเมืองใหญ่ไปพักใจในเมืองชนบทที่สวยที่สุด

15 เมืองเล็กที่รุ่มรวยวัฒนธรรมและธรรมชาติ
หลบหลีกผู้คนจากลอนดอน ไปสำรวจเมืองเล็ก ๆ ที่มีชื่อเสียงและมีเสน่ห์ มีตั้งแต่เมืองริมชายฝั่งไปจนถึงหมู่บ้านสีพาสเทลกลางสวนขนาดใหญ่ราวกับหลุดมาจากนวนิยาย Weymouth, Dorset, England
เมืองชายทะเลนี้ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างเส้นทาง Jurassic Coast ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก งดงามด้วยหน้าผาหินขนาดใหญ่หลายแห่งตั้งแต่ยุคจูราสสิค มีชายหาด Chesil ที่คนชอบมาถ่ายรูปลงอินสตาแกรมมากที่สุด เพราะเป็นหนึ่งในชายหาดแปลกตามากที่สุด เพราะชายหาดเต็มไปด้วยก้อนกรวดไม่ใช่เม็ดทรายเหมือนชายหาดอื่น ๆ Ballintoy, County Antrim, Northern Ireland
ไม่ไกลจาก Giant’s Causeway และสะพานเชือก Carrick-a-rede Ballintoy ที่นี่เป็นเมืองท่าเรือที่มีทิวทัศน์งดงามไม่แพ้ที่ใด ด้วยวิวบนเนินเขาสุดลูกหาลูกตาเหนือหมู่บ้านแบบที่ไม่มีอะไรมาขวางสายตา และเมืองนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำ Game of Thrones อีกด้วย Bakewell, Derbyshire, England
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไวย์ (Wye) เป็นที่รู้จักกันดีในนาม เมืองแห่งขนมหวาน ทั้ง Bakewell pudding และ Bakewell tart ต่างมีต้นกำเนิดอยู่ที่นี่ หลังจากเติมท้องจนแน่นด้วยของหวานขึ้นชื่อแล้ว อย่าลืมแวะสำรวจโบสถ์ All Saints ซึ่งยังคงไว้ซึ่งโครงสร้างดั้งเดิม รวมถึงไม้กางเขนเก่าแก่จากสมัยศตวรรษที่ 900 Berwick-upon-Tweed, Northumberland, England
เมื่อไรที่ได้เห็นความงดงามทางตอนใต้ของชายแดนสก็อตแลนด์แห่งนี้ก็จะเข้าใจเลยว่าทำไมสกอตแลนด์และอังกฤษถึงต่อสู้เพื่อจะเป็นเจ้าของเมืองแห่งนี้มานาน Berwick ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำ Tweed เป็นที่ตั้งของสะพานที่สวยงามหลายแห่ง จึงเหมาะที่จะเดินเท้าและถ่ายภาพกำแพงยุคกลางที่ล้อมรอบเมืองนี้เอาไว้ Rye, East Sussex, England
เป็นศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญมาตั้งแต่สมัยโรมัน ครั้งหนึ่งเมืองนี้เคยล้อมรอบด้วยทะเล จุดชมวิวที่ดีที่สุดอยู่บริเวณ หอคอย St. Mary’s Parish Church และหอคอย Ypres ซึ่งเป็นสองสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง ถ้าไปเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ อย่าลืมไปร่วมงาน Bay Scallop Week เทศกาลอาหารทะเลที่โด่งดังที่สุดของเมือง ซึ่งจะจัดในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์จนถึงต้นเดือนมีนาคม Crail, Fife, Scotland
หมู่บ้านประวัติศาสตร์ของ Crail ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งของสกอตแลนด์ แม้ว่าจะอยู่ห่างจากเอดินเบอระประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เป็นเมืองที่เหมือนเวลาหยุดหมุน ด้วยภาพชาวประมงที่ออกเดินทางสู่ทะเลในตอนเช้าและเดินทางกลับบ้านไปตามถนนหินกรวดในตอนกลางคืน ผู้คนเริ่มมาตั้งรกรากที่เมืองนี้ตั้งแต่ 800 ปีก่อน สิ่งก่อนสร้างที่สำคัญที่สุดของเมืองอย่าง stone tollbooth ก็มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 Burford, Oxfordshire, England
ลองนึกภาพว่าหมู่บ้านชาวอังกฤษทั่ว ๆ ไปมีลักษณะอย่างไร ตัวอย่างที่ดีที่สุดจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก Burford มีบ้านหินปูนสีเหลืองและถนนที่มีต้นไม้เรียงราย โบสถ์ของเมืองสร้างขึ้นบนซากปรักหักพังของวิลล่าของโรมัน ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นชิ้นส่วนของกระเบื้องโมเสคที่ยังหลงเหลืออยู่ Bowness-on-Windermere, Cumbria, England
จัดเป็นเมืองริมทะเลสาบที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ ผสมผสานด้วยสถาปัตยกรรมที่มีเสน่ห์ ที่นี่จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นิยมของนักเดินทาง การเดินทางด้วยรถไฟมาจากเมือง Kendal เป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษแห่งนี้ ประกอบไปด้วยเกาะทั้งหมด 14 เกาะ จึงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการพายเรือชมวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบแห่งนี้อีกแล้ว Portmeirion, Gwynedd, Wales
คงไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้พบกับหมู่บ้านชาวอิตาลีทางตอนเหนือของเวลส์ เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ออกแบบและสร้างโดย Sir Clough Williams-Ellis ระหว่างปี 1925-1975 อาคารบ้านเรือนที่มีสีสันราวกับหลุดมาจากนวนิยายชวนฝัน ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนขนาดใหญ่ที่สวยงามแปลกตาไปในแต่ละฤดูกาล Whitby, North Yorkshire, England
ท่าเรือยุคกลางบนชายฝั่งทะเลทางตะวันออกของยอร์กเชียร์ อย่าพลาดเยี่ยมชมซากปรักหักพังของ Whitby Abbey ที่ East Cliff แล้วแวะซื้อเครื่องประดับ Whitby Jet ที่ขุดจากท่าเทียบเรือใกล้ ๆ และไม่ต้องแปลกใจที่จะสะดุดตากับฝูงชนที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าย้อนยุคสมัยกอทิก ในเทศกาล Whitby Goth Weekend ซึ่งจัดปีละสองครั้ง และเป็นหนึ่งในเทศกาลที่โด่งดังที่สุดของเมืองเลยก็ว่าได้ Mousehole, Cornwall
หมู่บ้านชาวประมงแห่งนี้ คือภาพของ Cornwall ที่ดิบที่สุด เหมาะที่จะมาเดินเล่นบนชายหาด ยืนชมคลื่นกระทบฝั่ง และแวะเข้าผับที่เสิร์ฟอาหารทะเลสด ๆ มากมาย Lavenham, Suffolk
เมืองเล็ก ๆ นี้ใช้เวลาเดินทางจากลอนดอนเพียงสองชั่วโมงเท่านั้น มีเสน่ห์ที่สุดด้วยอาคารครึ่งหลังสีพาสเทลและโบสถ์คริสต์ที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ที่นี่เป็นแรงบันดาลใจในฉากภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง อย่างเช่นกระท่อม De Vere ในศตวรรษที่ 14 ซึ่งกลายเป็นบ้านเกิดของทั้งแฮร์รี่ พอตเตอร์ และอัลบัส ดัมเบิลดอร์ ปรากฏในภาพยนตร์ Harry Potter ตอน Deathly Hallows Part One Blakeney, Norfolk
หมู่บ้านริมทะเลที่เงียบสงบแห่งนี้ดึงดูดนักเดินทางไกลและคนรักธรรมชาติมาสู่ดินแดนอันกว้างใหญ่ของผืนน้ำที่อุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์ป่า จากจุด Blakeney Point ซึ่งเป็นใจกลางเขตอนุรักษ์ธรรมชาติชายฝั่งแห่งแรกของสหราชอาณาจักร เหมาะสำหรับการพายเรือเล่นชมเหล่าสิงโตทะเล ในขณะที่บริเวณ Blakeney Freshes เหมาะสำหรับการส่องนกทะเลและชมทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเขตสงวน Tobermory, Isle of Mull, Scotland
มีการกล่าวกันว่า ที่ด้านล่างของอ่าว Tobermory นั้นมีซากเรือสเปนที่เต็มไปด้วยทองคำจมอยู่ในช่วงปี 1588 Armada แต่เหนือระดับน้ำทะเลลึกเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์น้ำลึกของสกอตแลนด์นั้น มีทั้งเนินเขาและทะเลสาบ ที่ราบลุ่ม และมหาสมุทร ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงกลั่นเชิงพาณิชย์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในสกอตแลนด์ โรงกลั่น Tobermory ซึ่งผลิตมอลต์วิสกี้ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1788 รวมถึงหมู่บ้านชาวประมงสุดคึกคัก Upper and Lower Slaughter, Gloucestershire
The Cotswolds เป็นสถานที่หลบหนีความวุ่นวายชาวลอนดอนชื่นชอบ ส่วนหมู่บ้าน Upper and Lower Slaughter ก็เรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านฝาแฝดเพราะมีอาคารบ้านเรือนคล้าย ๆ กัน และมีมุมที่สวยงามเป็นพิเศษ เดินไปตามแม่น้ำตาที่ขนาบข้างด้วยสองโรงฆ่าสัตว์ จะพาคุณผ่านไปชมกระท่อมแบบบ้านนอกและโรงโม่ ในศตวรรษที่ 14 ที่รู้จักกันในนาม “The Old Mill”

You May Also Like