ไปสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ในสามเมืองของออสเตรีย เรื่มต้นดื่มด่ำศิลปะและชีวิตที่รื่นรมย์ในกรุงเวียนนาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมร้านกาแฟอันละเมียดละไม ไปขยับตัวให้เข้ากับจังหวะแห่งเสียงดนตรี ในเมืองบ้านเกิดโมซาร์ทที่ซาล์ซบูร์ก และสูดหายใจให้เต็มปอดในหมู่บ้านมรดกโลก ริมทะเลสาบที่ความงามราวกับเทพนิยายในฮัลล์สตัทท์
#ThePassport
#PlanetSCB
#แลกเงินเรทดีอีซี่มาก
การเดินทางครั้งนี้ของคุณ จะเป็นไปอย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะไปเที่ยว ไปช้อปปิ้ง ไปกินดื่มในฤดูกาลใด เพียงคุณมี บัตร PLANET SCB ซึ่งมีคุณสมบัติโดดเด่นที่สามารถแลกเงินสกุลต่างประเทศได้ถึง 13 สกุลเงินยอดนิยม (รวมทั้งสกุลยูโร – EUR) ทั้งนี้ บัตร PLANET SCB สามารถแลกได้เรทดีเทียบเท่ากับร้านแลกเงินชั้นนำ จะเช็คเรท เติมเงินเข้าบัตร และแลกเงินได้แบบ real time ผ่าน SCB EASY App แค่มี wi-fi
บัตรยังสามารถใช้จ่ายสุดคุ้มทั่วโลก ทั้งการกดเงิน รูดใช้จ่าย หรือช้อปออนไลน์ได้สูงสุด 500,000 บาท/วัน โดยไม่ชาร์จค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน 2.5% ทุกสกุลเงิน จ่ายสะดวกสบายด้วยระบบ Paywave ในร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ VISA
ขั้นตอนการสมัครก็ง่าย ไม่ต้องรอผลอนุมัติ ไม่ต้องมีสลิปเงินเดือนเลย แค่มีบัญชี SCB และสมัครได้ง่ายดายที่ SCB EASY APP เท่านั้น
The Passport ขอพาคุณไปสัมผัสกับสามจุดหมายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งประเทศออสเตรีย ด้วยไลฟ์ไตล์การท่องเที่ยวที่ครบครัน ทั้งการกินดื่ม ช้อปปิงและการท่องเที่ยวศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งธรรมชาติ ที่เที่ยวได้อย่างครบรส เพียงคุณพกบัตร PLANET SCB ไปด้วย ก็สามารถใช้จ่ายเพื่อสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ได้อย่างครบถ้วน
ไปตื่นตากับสถาปัตยกรรมที่งดงามแห่งเวียนนา
เวียนนาเป็นเมืองหลวงที่ได้รับการเทคะแนนให้ว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกติดต่อกันถึงเก้าปีซ้อนในปีที่ผ่านมา จากการสำรวจโดย Mercer Quality Life Survey เสน่ห์อยู่ที่ไลฟ์สไตล์และวิถีแห่งเมือง ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมที่เติมเต็มคุณภาพชีวิต เชื่อมโยงประวัติศาสตร์ บรรยากาศแห่งสถาปัตยกรรมทีรุ่งเรืองจากยุคราชสำนัก บวกกับความเป็นสมัยใหม่ที่เข้ากันได้อย่างไม่เคอะเขิน ในบรรดาสิ่งสถานที่ที่น่าสนใจที่ควรไปเที่ยวชมมากมาย เช่น
วันนี้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในแสดงให้เห็นการตกแต่งที่แสนมั่งคั่ง ห้องต่างๆ ที่เลิศหรูแบบบาโรก และเครื่องเรือนแห่งราชวงศ์ ชมห้องกระจกที่เชื่อว่าโมซาร์ท เคยเล่นเปียนโนถวายหน้าพระพักตร์พระนางมาเรีย เทเรซา ภายนอกยังมีสวนสวยงามและร่มรื่นให้เดินสูดอากาศ ดมกลิ่นดอกไม้อันสดชื่นด้วย
เป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งที่ไม่ควรพลาดในการมาเวียนนา เข้าไปชมความยิ่งใหญ่งดงามของมหาวิหาร เก่าแก่อายุราวเจ็ดร้อยปีและอย่าลืมขึ้นบันไดไปบนหอคอยสูงทางทิศใต้ เพื่อชมทัศนียภาพอันน่าทึ่งของเมือง ชมหลังคาที่มุงด้วยกระเบื้องเคลือบหลากสีสัน มากกว่าสองแสนชิ้น อันเป็นจุดเด่นที่งดงามไม่แพ้กัน
เมื่อเข้าไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชั้นใน จะได้ชมงานศิลปะอันโด่งดัง ได้แก่ ฉากประดับแท่นบูชาน็อยชตัดท์ ที่งดงามโดดเด่นที่สุดท่ามกลางแท่นบูชาทั้งหมด 18 แท่น ประติมากรรมแท่นเทศน์หินประติมากรรมแบบกอทิกอันงดงาม
คอฟฟี่เฮาส์กับคนเวียนนานั้นเป็นของคู่กันราวกับสถาบันทางสังคม ว่ากันว่ามันเริ่มต้นขึ้นจากอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากทหารออตโตมันที่เคยบุกเวียนนา และทิ้งถุงกาแฟเอาไว้เบื้องหลัง
ร้านแห่งแรกเปิดบริการมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 17 คอฟฟี่เฮาส์กลายเป็นที่พบปะสังสรรค์ทางสังคมของชาวเมือง บุคคลในประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะเป็น นักดนตรีดังอย่างโมซาร์ท (Mozart) บีโธเฟน (Beethoven) โจเซฟ สเตราส์ (Josef Strauss) ใช้ร้านกาแฟเป็นที่แสดงผลงานมาแล้ว รวมทั้งศิลปิน นักเขียน และนักการเมืองยังใช้ร้านกาแฟ เป็นที่พบปะแลกเปลี่ยนทัศนคติ
โดย ‘Coffee House Culture’ หรือ วัฒธรรมแห่งร้านกาแฟ ของเวียนนาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางภูมิปัญญาและวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโกด้วย และก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนเวียนนามาถึงทุกวันนี้
เมื่อได้มาเวียนนาแล้วล่ะก็ไม่ว่าจะคุณจะชอบดื่มกาแฟหรือไม่ก็ตาม อย่าพลาดโอกาสนี้ ต้องแวะไปตามคอฟฟี่เฮาส์ต่างๆ ซึ่งมีทุกอย่าง ตั้งแต่อาหาร ขนมเค้ก ไปจนกระทั่งเบียร์
มีคอฟฟี่เฮาส์เก่าแก่ มากมายที่น่าแวะไปเชคอิน อย่าง Café Sperl Café Landmann ที่ยังคงบรรยากาศคลาสสิค ซึ่งคุณอาจได้นั่งตรงจุดเดียวกับที่นักคิด นักเขียน และนักปฏิวัติ ชื่อดังของโลก อย่าง Trostsky Stalin หรือ Sigmund Freud
ส่วนผู้ที่ชื่นชอบของหวานก็ต้องไปที่ Café Sacher และ Demel ที่ตกแต่งอย่างหรูหราและมีขนมหวานและช็อคโกแลตที่เคยเป็นของทรงโปรดของจักรพรรดิ ฟรานซ์ โจเซฟ (Franz Josef ) ทีเดียว
เวียนนาเป็นเมืองแห่งพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะ สำหรับแฟนๆ ของ กุสตาฟ คลิมท์ คลิมท์ (Gustav Klimt ) คงต้องไปที่ พระราชวังเบลเวเดียร์ (Belveldere)
นอกจากจะเป็นที่จัดแสดงผลงานศิลปะล้ำค่าของศิลปินที่มีชื่อเสียงมากมาย ที่นี่ยังเป็นที่จัดแสดงภาพรอยจุมพิศ ‘ The Kiss’ ของ กุสตาฟ คลิมท์ อันโด่งดัง ภาพเขียนแนวอาร์ตนูโวที่แสนโรแมนติก ซึ่งได้กลายเป็นสัญลักษณ์ อีกอย่างหนึ่งของเวียนนาไปแล้วจัดแสดงอยู่ใน Upper Belvedere
Kunsthistorisches Museum ในอาคารที่สวยงามโอ่อ่า บนเพดานของบันไดโถงทางเข้าหลัก ชมฝีแปรงที่คลิมท์วาดไว้ประดับโถงอาคารภายใน เป็นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ศิลปะ ตามคำสั่งของจักรพรรดิ์ และจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ
ส่วนโดยรอบ ๆ นั้นมีพิพิธภัณฑ์ดัง ๆ อย่าง Kunsthalle Wien, Architekturzentrum Wien และ MUMOK ส่วน Leopold Museum ที่จัดแสดงผลงาน ของศิลปินเอก็อน ชีเลอ หรือว่า กุสตาฟ คลิมท์ ที่ต้องไม่พลาดไปแวะชมคอลเลกชั่นภาพวาดของศิลปินดังมากมายหลายภาพ
อิ่มงานศิลปะแล้วไปช้อปไปชิมที่ตลาดสดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ปัจจุบันคือแหล่งรวมร้านเก๋ๆ ที่ต้องไปเยือน มีทั้งผักผลไม้ ของกินนานาชนิดให้ชิมให้ช็อปกลับบ้าน ในบริเวณยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และบาร์มากมายเป็นที่รวมตัวของชาวเมืองและนักท่องเที่ยวที่สำคัญทุกวันเสาร์
ตามรอย Sounds of Music
มากกว่า 53 ปีที่แล้วภาพยนตร์ Sounds of Music ทำให้คนรู้จัก ซาล์ซบูร์ก (Salzburg) ฉากที่ครูสาว Maria พาเด็กๆในตระกูล Von Trapp ร้องเพลงและเต้นไปรอบๆ น้ำพุปิกาซัสที่ด้านหน้าสวนของ Marbel Hall เป็นที่ประทับใจคนไปทั่วโลก
เมืองซาล์ซบูร์กยังเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นเมืองบ้านเกิดของคีตกวีชื่อดังอย่าง โมซาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart)
ทุกวันนี้ในเมืองซาล์ซบูร์กดนตรีของโมซาร์ทยังขับกล่อมผู้คนอยู่เสมอ เมืองแห่งนี้มีกิจกรรมดี ๆ สำหรับผู้รักดนตรีมากมายทั้งดนตรีในสวนที่มีให้ชมฟรีๆ เช่น คอนเสิร์ตออเคสตร้ายามค่ำคืนที่บรรเลงเพลงโมซาร์ท ในสถานที่สุดคลาสสิกอย่าง เช่น Marble Hall ในพระราชวัง Mirabell หรือ Mozart Dinner Concert ในหนึ่งในโรงแรมเก่าแก่อย่าง St Peter Stiftskulinarium หรือแม้แต่บนป้อมปราการของซาล์ซบูร์ก
กิจกรรมการชมเมืองซาล์ซบูร์กที่ดี อย่างหนึ่ง คือการนั่งเรือที่ล่องไปตามแม่น้ำเป็นกิจกรรมทางเลือกที่ดีที่ทำให้ได้เห็นตึกรามบ้านช่องและสถาปัตยกรรมที่งดงามของเมืองรวมทั้งทิวทัศน์ตลอดสองฝั่งน้ำที่มีชีวิตชีวาด้วยผู้คนที่มานั่งพักผ่อนคลายอาบแดด หรือบ้างก็ถีบจักรยานสัญจรไปมาสองฝากฝั่งน้ำ ชมต่างแต่ย่านกลางเมืองผ่านแลนด์มาร์กต่างๆ อย่างเพลิดเพลิน
นอกเมืองซาล์ซบูร์กไปไม่ไกล มีพระราชวังอายุกว่าสี่ศตวรรษในวันนี้ สร้างโดย Markus Sittikus นอกจากสถาปัตยกรรมที่งดงาม แล้วที่นี่ยังเป็นสถานที่อันรมรื่นด้วยสวนอันกว้างใหญ่ ผู้ที่มาเยือนยังได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลินไปด้วย โดยเฉพาะในส่วนสวนน้ำพุ ยุคเรเนอซองก์ ที่เรียกว่า Trick Fountains ที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์และอารมณ์ขันของ Markus Sittikus กับน้ำพุจากศตวรรษที่ 17 ที่นี่ซ่อนความเซอร์ไพรส์ไว้มากมาย ด้วยกลไกของน้ำพุจากยุคอดีตที่ยังคงใช้งานได้อย่างน่ามหัศจรรย์
ไปเที่ยวหมู่บ้านมรดกโลกสุดโรแมนติดทะเลสาบที่ฮัลล์สตัทท์
ถ้านั่งรถไฟด่วนจากสถานี Wien Hauptbanhhof หรือว่าสถานีรถไฟ เวียนนามาถึงที่สถานีฮัลล์สตัทท์ (Hallstadt) ก็จะใช้เวลาเดินทางราวสี่ชั่วโมง
นั่งเรือข้ามฟากไปยังฮัลล์สตัทท์ที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทัศนียภาพของฮัลล์สตัทท์เมื่อมองจากอีกฝากฝั่งในหมอกจางๆ ทำให้หลายคนร้องว้าว เพราะมันงดงามราวกับในโปสการ์ด
เมืองเล็กที่อยู่ริมทะเลสาบใสราวกระจก ในทิวทัศน์เบื้องหลังที่โบสถ์ยอดแหลม บ้านหลังเล็กๆ เรียงรายเป็นชั้นๆ ตามไหล่เขา มีน้ำตกไหลซู่ลงมาน่าประทับใจ
จำนวนนักท่องเที่ยวมากมายที่รออยู่ที่ท่าเรือนั้นเนืองแน่นแสดงให้เห็นถึงความนิยมในฮัลล์สตัทท์โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวชาวเอเชียที่รอนแรมมาไกล ด้วยชื่อเสียงในความงามและบรรยากาศของหมู่บ้านริมทะเลสาบทีได้รับการคุ้มครองจากองค์การยูเนสโก
แม้ฮัลล์สตัทท์มีประชากรเพียง 750คน แต่อาจมีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่าวันละสามพันคนทีเดียวในฤดูกาลท่องเที่ยว
ฮัลล์สตัทท์มีเส้นทางเดินแขาและเส้นทางชมธรรมชาติที่งดงามมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปด้วยรถกระเช้าไป Oberturn มีการยังมีความน่าฉงนด้วยถ้ำน้ำแข็งถือเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมือง
ลึกเข้าไปในเถื่อนถ้ำอุณภูมิยิ่งลดต่ำ ภายในคือถ้ำน้ำแข็ง สำหรับผู้ที่รักการผจญภัยจะสนุกกับบรรยากาศการปีนป่ายถ้ำและสำรวจลึกเข้าไปภายในถ้ำน้ำแข็งที่ดูมหัศจรรย์ไปกับหินงอกหินย้อย และน้ำตกที่จับตัวแข็งราวกับขั้วโลก
ต่อกระเช้าขึ้นไปบนลานสกีที่ขึ้นชื่อของ Dachstein มีจุดชมวิวที่ดูเหมือนกับมือที่กางออก เรียกว่า ‘Five Fingers’ ที่สามารถมองเห็นเทือกเขารอบด้านและเมืองฮัลล์สตัทท์ที่อยู่เบื้องล่างลิบลับ
ซึ่งวันนี้กล่าวได้ว่า ของดี แบบฟรีๆ มีจริงในโลก!
ใบนี้ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี ไม่ต้องจ่ายสักบาทเดียว แต่รับสิทธิ์เข้า Miracle Lounge ฟรี เพียงลงทะเบียนก่อนแลกเงินและแลกเงินแค่ 5,000บ.ขึ้นไปต่อครั้งเท่านั้น แลกก่อนมีสิทธิ์ก่อนไปเลย แลกได้ทุกเดือน
แถมรับคืนรัวๆอีก สูงสุด 1,000 บาท เมื่อใช้จ่ายสะสมเป็นสกุลเงินต่างประเทศ (รูดใช้จ่ายและช้อปออนไลน์ได้ทั้งนั้น) งานนี้ลูกค้ามีแต่คุ้ม เพราะไม่เสียอะไร มีแต่ได้เงินคืน
นอกจากนี้ยัง ลุ้นบินฟรีไปญี่ปุ่น พร้อม Pocket Money อีก 1 รางวัล มูลค่า150,000 บาท สำหรับผู้มียอดใช้จ่ายตลอดแคมเปญสูงสุด
ทั้ง 3 โปรนี้ เริ่มตั้งแต่ 3 ต.ค. 62 – 31 ม.ค. 63
ใครมีบัตรแล้ว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมแล้วรีบลงทะเบียนเลยที่นี่ https://link.scb/2psp7Sr (ลงทะเบียนรับ 3 สิทธิ์ในครั้งเดียว)
– สมัครฟรี!!! ทั้งค่าธรรมเนียมรายปี และออกบัตรใหม่ ไม่เสียอะไรสักบาท แม้แต่ค่าส่งบัตรไปที่บ้าน
– กด ATM ที่เมืองนอก ฟรีค่าธรรมเนียม 100 บาท (เฉพาะฝั่ง SCB)
– แลกเงินได้ทุกที่ผ่านแอป ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปแลก ไม่ต้องกังวลเงินหมด และเรทเปลี่ยน
– แลกเงินเรทสุดพิเศษเก็บไว้ในบัตรก่อนได้ เมื่อทริปมาถึงก็ใช้บัตรรูดใช้จ่ายได้เลย ไม่ต้องถือเงินสด ปลอดภัยกว่า
– ช้อปออนไลน์ หรือ กด ATM ที่ต่างประเทศ ไม่ชาร์จ 2.5% แถมได้เรทพิเศษขั้นเทพ
– กำหนดเงินใน Wallet ได้ ไม่เสี่ยงถูก Hack
– รูดใช้จ่าย/ กดเงิน ได้สูงสุด 500,000บาท / วัน
– ดูแลความปลอดภัยได้ด้วยแอป SCB EASY
– พิมพ์ชื่อทุกใบ ใช้จ่ายสบายใจกว่า
สมัครฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมออกบัตร 200 บาท ถึงสิ้นปีนี้
สมัครผ่านแอป SCB EASY คลิกที่นี่ https://link.scb/2Pb9JGy
หรือ สมัครได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา ทั่วประเทศ
#PlanetSCB
#บัตรของคุณเรทของคุณ
#แลกเงินเรทดีอีซี่มาก
#ThePassport
#PlanetSCB
#แลกเงินเรทดีอีซี่มาก
การเดินทางครั้งนี้ของคุณ จะเป็นไปอย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะไปเที่ยว ไปช้อปปิ้ง ไปกินดื่มในฤดูกาลใด เพียงคุณมี บัตร PLANET SCB ซึ่งมีคุณสมบัติโดดเด่นที่สามารถแลกเงินสกุลต่างประเทศได้ถึง 13 สกุลเงินยอดนิยม (รวมทั้งสกุลยูโร – EUR) ทั้งนี้ บัตร PLANET SCB สามารถแลกได้เรทดีเทียบเท่ากับร้านแลกเงินชั้นนำ จะเช็คเรท เติมเงินเข้าบัตร และแลกเงินได้แบบ real time ผ่าน SCB EASY App แค่มี wi-fi
บัตรยังสามารถใช้จ่ายสุดคุ้มทั่วโลก ทั้งการกดเงิน รูดใช้จ่าย หรือช้อปออนไลน์ได้สูงสุด 500,000 บาท/วัน โดยไม่ชาร์จค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน 2.5% ทุกสกุลเงิน จ่ายสะดวกสบายด้วยระบบ Paywave ในร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ VISA
ขั้นตอนการสมัครก็ง่าย ไม่ต้องรอผลอนุมัติ ไม่ต้องมีสลิปเงินเดือนเลย แค่มีบัญชี SCB และสมัครได้ง่ายดายที่ SCB EASY APP เท่านั้น
The Passport ขอพาคุณไปสัมผัสกับสามจุดหมายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งประเทศออสเตรีย ด้วยไลฟ์ไตล์การท่องเที่ยวที่ครบครัน ทั้งการกินดื่ม ช้อปปิงและการท่องเที่ยวศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งธรรมชาติ ที่เที่ยวได้อย่างครบรส เพียงคุณพกบัตร PLANET SCB ไปด้วย ก็สามารถใช้จ่ายเพื่อสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ได้อย่างครบถ้วน
ไปตื่นตากับสถาปัตยกรรมที่งดงามแห่งเวียนนา
เวียนนาเป็นเมืองหลวงที่ได้รับการเทคะแนนให้ว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกติดต่อกันถึงเก้าปีซ้อนในปีที่ผ่านมา จากการสำรวจโดย Mercer Quality Life Survey เสน่ห์อยู่ที่ไลฟ์สไตล์และวิถีแห่งเมือง ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมที่เติมเต็มคุณภาพชีวิต เชื่อมโยงประวัติศาสตร์ บรรยากาศแห่งสถาปัตยกรรมทีรุ่งเรืองจากยุคราชสำนัก บวกกับความเป็นสมัยใหม่ที่เข้ากันได้อย่างไม่เคอะเขิน ในบรรดาสิ่งสถานที่ที่น่าสนใจที่ควรไปเที่ยวชมมากมาย เช่น
วันนี้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในแสดงให้เห็นการตกแต่งที่แสนมั่งคั่ง ห้องต่างๆ ที่เลิศหรูแบบบาโรก และเครื่องเรือนแห่งราชวงศ์ ชมห้องกระจกที่เชื่อว่าโมซาร์ท เคยเล่นเปียนโนถวายหน้าพระพักตร์พระนางมาเรีย เทเรซา ภายนอกยังมีสวนสวยงามและร่มรื่นให้เดินสูดอากาศ ดมกลิ่นดอกไม้อันสดชื่นด้วย
เป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งที่ไม่ควรพลาดในการมาเวียนนา เข้าไปชมความยิ่งใหญ่งดงามของมหาวิหาร เก่าแก่อายุราวเจ็ดร้อยปีและอย่าลืมขึ้นบันไดไปบนหอคอยสูงทางทิศใต้ เพื่อชมทัศนียภาพอันน่าทึ่งของเมือง ชมหลังคาที่มุงด้วยกระเบื้องเคลือบหลากสีสัน มากกว่าสองแสนชิ้น อันเป็นจุดเด่นที่งดงามไม่แพ้กัน
เมื่อเข้าไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชั้นใน จะได้ชมงานศิลปะอันโด่งดัง ได้แก่ ฉากประดับแท่นบูชาน็อยชตัดท์ ที่งดงามโดดเด่นที่สุดท่ามกลางแท่นบูชาทั้งหมด 18 แท่น ประติมากรรมแท่นเทศน์หินประติมากรรมแบบกอทิกอันงดงาม
คอฟฟี่เฮาส์กับคนเวียนนานั้นเป็นของคู่กันราวกับสถาบันทางสังคม ว่ากันว่ามันเริ่มต้นขึ้นจากอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากทหารออตโตมันที่เคยบุกเวียนนา และทิ้งถุงกาแฟเอาไว้เบื้องหลัง
ร้านแห่งแรกเปิดบริการมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 17 คอฟฟี่เฮาส์กลายเป็นที่พบปะสังสรรค์ทางสังคมของชาวเมือง บุคคลในประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะเป็น นักดนตรีดังอย่างโมซาร์ท (Mozart) บีโธเฟน (Beethoven) โจเซฟ สเตราส์ (Josef Strauss) ใช้ร้านกาแฟเป็นที่แสดงผลงานมาแล้ว รวมทั้งศิลปิน นักเขียน และนักการเมืองยังใช้ร้านกาแฟ เป็นที่พบปะแลกเปลี่ยนทัศนคติ
โดย ‘Coffee House Culture’ หรือ วัฒธรรมแห่งร้านกาแฟ ของเวียนนาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางภูมิปัญญาและวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโกด้วย และก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนเวียนนามาถึงทุกวันนี้
เมื่อได้มาเวียนนาแล้วล่ะก็ไม่ว่าจะคุณจะชอบดื่มกาแฟหรือไม่ก็ตาม อย่าพลาดโอกาสนี้ ต้องแวะไปตามคอฟฟี่เฮาส์ต่างๆ ซึ่งมีทุกอย่าง ตั้งแต่อาหาร ขนมเค้ก ไปจนกระทั่งเบียร์
มีคอฟฟี่เฮาส์เก่าแก่ มากมายที่น่าแวะไปเชคอิน อย่าง Café Sperl Café Landmann ที่ยังคงบรรยากาศคลาสสิค ซึ่งคุณอาจได้นั่งตรงจุดเดียวกับที่นักคิด นักเขียน และนักปฏิวัติ ชื่อดังของโลก อย่าง Trostsky Stalin หรือ Sigmund Freud
ส่วนผู้ที่ชื่นชอบของหวานก็ต้องไปที่ Café Sacher และ Demel ที่ตกแต่งอย่างหรูหราและมีขนมหวานและช็อคโกแลตที่เคยเป็นของทรงโปรดของจักรพรรดิ ฟรานซ์ โจเซฟ (Franz Josef ) ทีเดียว
เวียนนาเป็นเมืองแห่งพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะ สำหรับแฟนๆ ของ กุสตาฟ คลิมท์ คลิมท์ (Gustav Klimt ) คงต้องไปที่ พระราชวังเบลเวเดียร์ (Belveldere)
นอกจากจะเป็นที่จัดแสดงผลงานศิลปะล้ำค่าของศิลปินที่มีชื่อเสียงมากมาย ที่นี่ยังเป็นที่จัดแสดงภาพรอยจุมพิศ ‘ The Kiss’ ของ กุสตาฟ คลิมท์ อันโด่งดัง ภาพเขียนแนวอาร์ตนูโวที่แสนโรแมนติก ซึ่งได้กลายเป็นสัญลักษณ์ อีกอย่างหนึ่งของเวียนนาไปแล้วจัดแสดงอยู่ใน Upper Belvedere
Kunsthistorisches Museum ในอาคารที่สวยงามโอ่อ่า บนเพดานของบันไดโถงทางเข้าหลัก ชมฝีแปรงที่คลิมท์วาดไว้ประดับโถงอาคารภายใน เป็นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ศิลปะ ตามคำสั่งของจักรพรรดิ์ และจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ
ส่วนโดยรอบ ๆ นั้นมีพิพิธภัณฑ์ดัง ๆ อย่าง Kunsthalle Wien, Architekturzentrum Wien และ MUMOK ส่วน Leopold Museum ที่จัดแสดงผลงาน ของศิลปินเอก็อน ชีเลอ หรือว่า กุสตาฟ คลิมท์ ที่ต้องไม่พลาดไปแวะชมคอลเลกชั่นภาพวาดของศิลปินดังมากมายหลายภาพ
อิ่มงานศิลปะแล้วไปช้อปไปชิมที่ตลาดสดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ปัจจุบันคือแหล่งรวมร้านเก๋ๆ ที่ต้องไปเยือน มีทั้งผักผลไม้ ของกินนานาชนิดให้ชิมให้ช็อปกลับบ้าน ในบริเวณยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และบาร์มากมายเป็นที่รวมตัวของชาวเมืองและนักท่องเที่ยวที่สำคัญทุกวันเสาร์
ตามรอย Sounds of Music
มากกว่า 53 ปีที่แล้วภาพยนตร์ Sounds of Music ทำให้คนรู้จัก ซาล์ซบูร์ก (Salzburg) ฉากที่ครูสาว Maria พาเด็กๆในตระกูล Von Trapp ร้องเพลงและเต้นไปรอบๆ น้ำพุปิกาซัสที่ด้านหน้าสวนของ Marbel Hall เป็นที่ประทับใจคนไปทั่วโลก
เมืองซาล์ซบูร์กยังเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นเมืองบ้านเกิดของคีตกวีชื่อดังอย่าง โมซาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart)
ทุกวันนี้ในเมืองซาล์ซบูร์กดนตรีของโมซาร์ทยังขับกล่อมผู้คนอยู่เสมอ เมืองแห่งนี้มีกิจกรรมดี ๆ สำหรับผู้รักดนตรีมากมายทั้งดนตรีในสวนที่มีให้ชมฟรีๆ เช่น คอนเสิร์ตออเคสตร้ายามค่ำคืนที่บรรเลงเพลงโมซาร์ท ในสถานที่สุดคลาสสิกอย่าง เช่น Marble Hall ในพระราชวัง Mirabell หรือ Mozart Dinner Concert ในหนึ่งในโรงแรมเก่าแก่อย่าง St Peter Stiftskulinarium หรือแม้แต่บนป้อมปราการของซาล์ซบูร์ก
กิจกรรมการชมเมืองซาล์ซบูร์กที่ดี อย่างหนึ่ง คือการนั่งเรือที่ล่องไปตามแม่น้ำเป็นกิจกรรมทางเลือกที่ดีที่ทำให้ได้เห็นตึกรามบ้านช่องและสถาปัตยกรรมที่งดงามของเมืองรวมทั้งทิวทัศน์ตลอดสองฝั่งน้ำที่มีชีวิตชีวาด้วยผู้คนที่มานั่งพักผ่อนคลายอาบแดด หรือบ้างก็ถีบจักรยานสัญจรไปมาสองฝากฝั่งน้ำ ชมต่างแต่ย่านกลางเมืองผ่านแลนด์มาร์กต่างๆ อย่างเพลิดเพลิน
นอกเมืองซาล์ซบูร์กไปไม่ไกล มีพระราชวังอายุกว่าสี่ศตวรรษในวันนี้ สร้างโดย Markus Sittikus นอกจากสถาปัตยกรรมที่งดงาม แล้วที่นี่ยังเป็นสถานที่อันรมรื่นด้วยสวนอันกว้างใหญ่ ผู้ที่มาเยือนยังได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลินไปด้วย โดยเฉพาะในส่วนสวนน้ำพุ ยุคเรเนอซองก์ ที่เรียกว่า Trick Fountains ที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์และอารมณ์ขันของ Markus Sittikus กับน้ำพุจากศตวรรษที่ 17 ที่นี่ซ่อนความเซอร์ไพรส์ไว้มากมาย ด้วยกลไกของน้ำพุจากยุคอดีตที่ยังคงใช้งานได้อย่างน่ามหัศจรรย์
ไปเที่ยวหมู่บ้านมรดกโลกสุดโรแมนติดทะเลสาบที่ฮัลล์สตัทท์
ถ้านั่งรถไฟด่วนจากสถานี Wien Hauptbanhhof หรือว่าสถานีรถไฟ เวียนนามาถึงที่สถานีฮัลล์สตัทท์ (Hallstadt) ก็จะใช้เวลาเดินทางราวสี่ชั่วโมง
นั่งเรือข้ามฟากไปยังฮัลล์สตัทท์ที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทัศนียภาพของฮัลล์สตัทท์เมื่อมองจากอีกฝากฝั่งในหมอกจางๆ ทำให้หลายคนร้องว้าว เพราะมันงดงามราวกับในโปสการ์ด
เมืองเล็กที่อยู่ริมทะเลสาบใสราวกระจก ในทิวทัศน์เบื้องหลังที่โบสถ์ยอดแหลม บ้านหลังเล็กๆ เรียงรายเป็นชั้นๆ ตามไหล่เขา มีน้ำตกไหลซู่ลงมาน่าประทับใจ
จำนวนนักท่องเที่ยวมากมายที่รออยู่ที่ท่าเรือนั้นเนืองแน่นแสดงให้เห็นถึงความนิยมในฮัลล์สตัทท์โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวชาวเอเชียที่รอนแรมมาไกล ด้วยชื่อเสียงในความงามและบรรยากาศของหมู่บ้านริมทะเลสาบทีได้รับการคุ้มครองจากองค์การยูเนสโก
แม้ฮัลล์สตัทท์มีประชากรเพียง 750คน แต่อาจมีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่าวันละสามพันคนทีเดียวในฤดูกาลท่องเที่ยว
ฮัลล์สตัทท์มีเส้นทางเดินแขาและเส้นทางชมธรรมชาติที่งดงามมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปด้วยรถกระเช้าไป Oberturn มีการยังมีความน่าฉงนด้วยถ้ำน้ำแข็งถือเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมือง
ลึกเข้าไปในเถื่อนถ้ำอุณภูมิยิ่งลดต่ำ ภายในคือถ้ำน้ำแข็ง สำหรับผู้ที่รักการผจญภัยจะสนุกกับบรรยากาศการปีนป่ายถ้ำและสำรวจลึกเข้าไปภายในถ้ำน้ำแข็งที่ดูมหัศจรรย์ไปกับหินงอกหินย้อย และน้ำตกที่จับตัวแข็งราวกับขั้วโลก
ต่อกระเช้าขึ้นไปบนลานสกีที่ขึ้นชื่อของ Dachstein มีจุดชมวิวที่ดูเหมือนกับมือที่กางออก เรียกว่า ‘Five Fingers’ ที่สามารถมองเห็นเทือกเขารอบด้านและเมืองฮัลล์สตัทท์ที่อยู่เบื้องล่างลิบลับ
ซึ่งวันนี้กล่าวได้ว่า ของดี แบบฟรีๆ มีจริงในโลก!
ใบนี้ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี ไม่ต้องจ่ายสักบาทเดียว แต่รับสิทธิ์เข้า Miracle Lounge ฟรี เพียงลงทะเบียนก่อนแลกเงินและแลกเงินแค่ 5,000บ.ขึ้นไปต่อครั้งเท่านั้น แลกก่อนมีสิทธิ์ก่อนไปเลย แลกได้ทุกเดือน
แถมรับคืนรัวๆอีก สูงสุด 1,000 บาท เมื่อใช้จ่ายสะสมเป็นสกุลเงินต่างประเทศ (รูดใช้จ่ายและช้อปออนไลน์ได้ทั้งนั้น) งานนี้ลูกค้ามีแต่คุ้ม เพราะไม่เสียอะไร มีแต่ได้เงินคืน
นอกจากนี้ยัง ลุ้นบินฟรีไปญี่ปุ่น พร้อม Pocket Money อีก 1 รางวัล มูลค่า150,000 บาท สำหรับผู้มียอดใช้จ่ายตลอดแคมเปญสูงสุด
ทั้ง 3 โปรนี้ เริ่มตั้งแต่ 3 ต.ค. 62 – 31 ม.ค. 63
ใครมีบัตรแล้ว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมแล้วรีบลงทะเบียนเลยที่นี่ https://link.scb/2psp7Sr (ลงทะเบียนรับ 3 สิทธิ์ในครั้งเดียว)
– สมัครฟรี!!! ทั้งค่าธรรมเนียมรายปี และออกบัตรใหม่ ไม่เสียอะไรสักบาท แม้แต่ค่าส่งบัตรไปที่บ้าน
– กด ATM ที่เมืองนอก ฟรีค่าธรรมเนียม 100 บาท (เฉพาะฝั่ง SCB)
– แลกเงินได้ทุกที่ผ่านแอป ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปแลก ไม่ต้องกังวลเงินหมด และเรทเปลี่ยน
– แลกเงินเรทสุดพิเศษเก็บไว้ในบัตรก่อนได้ เมื่อทริปมาถึงก็ใช้บัตรรูดใช้จ่ายได้เลย ไม่ต้องถือเงินสด ปลอดภัยกว่า
– ช้อปออนไลน์ หรือ กด ATM ที่ต่างประเทศ ไม่ชาร์จ 2.5% แถมได้เรทพิเศษขั้นเทพ
– กำหนดเงินใน Wallet ได้ ไม่เสี่ยงถูก Hack
– รูดใช้จ่าย/ กดเงิน ได้สูงสุด 500,000บาท / วัน
– ดูแลความปลอดภัยได้ด้วยแอป SCB EASY
– พิมพ์ชื่อทุกใบ ใช้จ่ายสบายใจกว่า
สมัครฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมออกบัตร 200 บาท ถึงสิ้นปีนี้
สมัครผ่านแอป SCB EASY คลิกที่นี่ https://link.scb/2Pb9JGy
หรือ สมัครได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา ทั่วประเทศ
#PlanetSCB
#บัตรของคุณเรทของคุณ
#แลกเงินเรทดีอีซี่มาก
